บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Swiss apple stem cell serum นวัตกรรมความงามระดับโลกที่น่าทึ่ง


                 จะดีแค่ไหนหากเรารู้ว่า ครีมบำรุงที่เราใช้ทุกวันนี้มีที่มาอย่างไร เกือบปีกว่าแล้ว แป้งได้นำเสนอครีมบำรุงผิวหน้าที่ได้รับรางวัล นวัตกรรม Innovation Prize ประจำปี 2008 ในสาขา Best Active Ingredients จากงาน European Cosmetic Award เป็นสเต็มเซลล์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่ได้เปลือกต้นแอปเปิ้ลสายพันธุ์ Uttwier Spatlauber ในฟาร์มบนเทือกเขาแอลป์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ 

กระบวนการสกัดเซลล์ต้นกำเนิดจากแอปเปิ้ลสวิส มีชื่อเรียกเฉพาะว่า phytocelltech ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ mibelle biochemistry บริษัทวิจัยที่มีขนาดใหญ่ในสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีศักยภาพในเทคโนโลยีกระบวนการชีวเคมีที่พัฒนานวัตกรรมสารออกฤทธิ์คุณภาพสูงตามหลักวิทยาศาสตร์อย่างเข้มข้นเป็นเวลากว่า 4 ปี จนประสบผลสำเร็จได้รับรางวัล นวัตกรรม Innovation Prize ประจำปี 2008 ขอกระซิบนิดนึงว่า ห้องแล็ปเครื่องสำอางแบรนด์ดังระดับโลกก็เป็นลูกค้าเค้านะคะ

                 มารู้จักวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังของเซลล์ต้นกำเนิดกันนะคะ
การที่มนุษย์อายุยืนยาวมีความเกี่ยวข้องกับเซลล์เฉพาะที่เรียกว่าเซลล์ต้นกำเนิด มีลักษณะการเจริญเติบโตที่ไม่ซ้ำกัน เซลล์เหล่านี้สามารถทำสำเนาเหมือนของตัวเอง (copy) รวมทั้งความแตกต่างจะแยกเป็นเซลล์พิเศษ 2 ประเภทตามพื้นฐานของเซลล์ต้นกำเนิดที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ คือ
1.เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน พบใน blastocysts ( โครงสร้างที่พบในขั้นตอนก่อนเป็นตัวอ่อนของมนุษย์ ) สามารถเจริญเติบโตและมีความแตกต่างถึง 220 เซลล์ในร่างกาย
2.เซลล์ต้นกำเนิดวัยผู้ใหญ่ จะมีในเนื้อเยื่อ สามารถแยกความแตกต่างในตัวเอง เซลล์เหล่านี้ทำหน้าที่ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอและกระตุ้นการเกิดอวัยวะใหม่เช่น เลือด ผิวหนัง เนื้อเยื่อลำไส้ อ๋อ !! เซลล์นี้เอง จะซ่อมแซมตัวเองเวลาที่เรานอนหลับสนิทเวลา 22.00-2.00น. มิน่าล่ะ !! คนที่นอนดึกติดต่อกันจึงได้ชำรุดทรุดโทรม แก่ก่อนวัยเพราะเหตุนี้หนอ

                 ในปัจจุบันเซลล์ต้นกำเนิดวัยผู้ใหญ่ มีการใช้งานแพร่หลายทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกถ่ายอวัยวะในการรักษาโรคมะเร็งเช่นการปลูกถ่ายไขกระดูกและแผลไหม้อย่างรุนแรง ในสาขาเครื่องสำอาง นักวิทยาศาสตร์จะมุ่งเน้นการวิจัยของเซลล์ต้นกำเนิดวัยผู้ใหญ่ที่มีในผิวซึ่งฝังตัวอยู่ในชั้นฐานของหนังกำพร้า ทำหน้าที่เติมเต็มความชุ่มชื้นและรักษาความสมดุลของเซลล์ภายในเนื้อเยื่อผิวหนังรวมถึงเนื้อเยื่องอกใหม่ที่เกิดความเสียหาย

 แต่ทว่าด้วยอายุที่มากขึ้น จำนวนของเซลล์ต้นกำเนิดผิวลดลงอย่างน่าใจหายและความสามารถในการซ่อมแซมผิวมีประสิทธิภาพลดน้อยลง ใบหน้าจึงได้หมองคล้ำ ไม่ผุดผ่องใสเหมือนตอนเป็นวัยรุ่นงัยค่ะ

                  มีการศึกษาผลกระทบความเสียหายรังสียูวีของสารสกัดจากแอปเปิ้ลสวิส พบว่า มีฤทธิ์ในการปกป้อง DNA ของเซลล์ต้นกำเนิดจากการทำลายของแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ อากาศเมืองไทยร้อนมากๆ มีแสงแดดส่องตลอดทั้งปี การทาครีมบำรุง swiss apple stem cell serum จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะถนอมผิวสวยและฟื้นบำรุงผิวไว้ได้ยาวนานขึ้น

                  คุณประโยชน์มหาศาลของสารสกัดเซลล์ต้นกำเนิดจากแอปเปิ้ลสวิส
1.ต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้ผิว
2.คงความอ่อนเยาว์ไว้ยาวนาน
3.ชะลอความชราของผิวพรรณ
4.ปกป้องฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้นและเสียหายจากแสงแดด
5.เพิ่มการผลิตเซลล์ต้นกำเนิดของผิว
6.ต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิว ส่งผลให้ผิวนุ่มนวล เรียบเนียนเสมอ

                 จากสารสกัดออกฤทธิ์ที่ได้รับรางวัลระดับโลกในปี 2008 มีหรือที่มิเชล โอบามา,เจนนิเฟอร์ โลเปซ,กวินเน็ธ พัลโทรว์ จะไม่เป็นสาวก swiss apple stem cell serum ( ผลิตในอังกฤษ ราคาสูงมาก ) ที่มา ; นิตยสาร vogue

                  Swiss apple stem cell serum ยี่ห้อ zoe' ผลิตในไต้หวัน แต่สารสกัดเซลล์ต้นกำเนิดจากแอปเปิ้ลสวิสส่งตรงมาจากบริษัท Micelle biochemistry ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เชียวนะคะ นวัตกรรมรุ่นใหม่แบบ serum ทดแทนรุ่นเก่าที่เป็นกระปุกเจล เพิ่มส่วนผสมคุณภาพสูง Q10,อิลาสตินและคอลลาเจน ส่งผลให้ใบหน้านุ่มเด้งเป็น 3 เท่ารวมทั้งคาเวียร์เลอค่าบดละเอียดเทียบเท่าอนุภาคไลโปโซม จึงซึมลึกอย่างรวดเร็ว นำพาสารอาหารผิวให้กับใบหน้า เพียง 4 สัปดาห์จะเห็นความแตกต่างของผิวแก้ไขปัญหา ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เติมเต็มหลุมสิว สิวอักเสบ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัยกับผิวในระยะยาวจากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น เพราะสกัดจากพืชจึงสามารถใช้ได้แม้กระทั่งผิวแพ้ง่าย บอบบางค่ะ

                  รู้จักที่มาของ Swiss apple stem cell serum ชัดเจนแล้ว แป้งเดินหน้าใช้ต่อไป ผิวหน้าได้รับการดูแลจากเซลล์ต้นกำเนิดของแอปเปิ้ลสวิสชั้นเลิศอย่างนี้ ความชรามาไม่ถึงแน่นอน ขนาดเซเลบริตี้ระดับโลกยังชื่นชอบ แล้วเราจะพลาดโอกาสดูแลผิวพรรณลึกถึง DNA เหรอค่ะ






                           Swiss apple stem cell serum ยี่ห้อ zoe' มีจำหน่ายที่www.Jabushebeautyplus.weloveshopping.com หรือ Jabushe shop เดอะมอลล์ 3 รามคำแหง ชั้น 1 tel.081-845-3461 






ที่มา ;
www.pr.com/press-release/269487
www.dailymail.co.uk/could-extract-rare-swiss-apple-RE
http./www.oskiaskincare.com/....swiss-apple-stem-cells/.


วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

หลากหลายเหตุผลควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มอบทั้งความสวยใสและปลอดภัยกับผิวหน้าระยะยาว


ปัจจุบันท้องตลาดเมืองไทย มีครีมบำรุงให้เลือกมากมายหลายหลาก แทบเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว บางคนใจร้อนอยากเห็นเร็วทันใจ กลายเป็นเจอสเตียรอยด์ สารปรอท ไฮโดรควิโนนเพียบ แต่เราจะเลือกครีมที่ให้ผลชัดเจนและปลอดภัยกับผิวหน้าระยะยาวอย่างไร จำเป็นต้องรู้จักสภาพผิวหนังก่อนนะคะ

ผิวหนังของมนุษย์ มี 3 ชั้น คือ
1.ชั้นหนังกำพร้า ( epidermis ) อยู่ชั้นนอกสุดของผิว ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค แสงแดด สายลม สารเคมี ไม่ให้ทำร้ายผิว ซึ่งอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อหากมีบาดแผล มีสมดุลกรดด่างเท่ากับ 5 นอกเหนือจากควบคุมเหงื่อที่ระบายออกจากร่างกาย ซึ่งบริเวณนี้จะมีเซลล์ keratinocyte เรียงตัวเป็นชั้นๆเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเซลล์ใหม่จะสร้างจากด้านล่างแล้วดันขึ้นด้านบน เพื่อทดแทนเซลล์ที่ตายแล้วหลุดลอกออกไปกลายเป็นขี้ไคลนั่นเอง และเป็นที่อยู่ของ melanocyte cells ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างเม็ดสี ( melanin )สีผิวของมนุษย์จะถูกสร้างจากชั้นหนังกำพร้า ผิวขาวสว่างไสว ผิวเหลืองนวลหรือแม้กระทั่งผิวคล้ำอำไพ ก็มีที่มาจากตรงนี้แหละ

2.ชั้นหนังแท้ ( dermis ) อยู่ถัดจากชั้นหนังกำพร้า เป็นที่อยู่ของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน รูขุมขน ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน และปลายประสาทที่เป็นองค์ประกอบช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เช่น ร้อน หนาว

ชั้นหนังแท้นี่เองที่คนส่วนใหญ่คิดว่า กินคอลลาเจนสารพัดรูปแบบเป็นหมื่นมิลลิกรัมต่อวันแล้วจะหน้าเด้งดึ๋งเหมือนตูดเด็ก มิใช่เลยค่ะ โมเลกุลของคอลลาเจนใหญ่เกินไปที่จะดูดซึมในลำไส้เล็กได้หมด เวลาที่เรากินติดต่อกันนานๆร่างกายขับออกไม่หมด เมือกคอลลาเจนไม่มีทางออกจึงอาจทำให้เกิดผังผืดที่ไต ได้ไม่คุ้มเสียเลยค่ะ

3.ชั้นใต้ผิวหนัง ( hypodermis ) เป็นที่อยู่ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันและเซลล์ไขมันต่างๆ

Swiss Apple Stem Cell by Zoe' นวัตกรรมล้ำหน้า from Taiwan
คุณสมบัติที่เลิศเลอของ swiss apple stem cell ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหม่นหมองที่ตายแล้ว หลุดลอกง่ายขึ้น ( ปกติผิวจะมีการผลัดเซลล์ตามธรรมชาติในรอบ 28 วัน แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น เซลล์ผิวจะผลัดตัวช้าลง ต้นเหตุของผิวหมองคล้ำหรือรูขุมขนอุดตัน จึงเกิดสิวชนิดต่างๆได้ง่าย ) และเปิดทางให้เซลล์ผิวใหม่ที่อ่อนเยาว์กว่าเผยโฉมออกมาโดยการสลายของเส้นใยระหว่างเซลล์ผิวที่มีลักษณะยึดแน่นคล้ายกาว ผลลัพธ์ที่ปรากฎ ผิวจึงเรียบเนียน นุ่มนวล และเปล่งปลั่งจากการที่เม็ดสีจำนวนหนึ่งหลุดลอกไปกับเซลล์ผิวเก่าด้วย ที่สำคัญ 


เมื่อเซลล์ผิวเริ่มหลุดตัวเร็วขึ้น การสร้างเซลล์ผิวใหม่จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เป็นคุณสมบัติพิเศษของ swiss apple stem cell ที่สามารถกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ ( fibroblast ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ส่งผลให้ผิวมีความกระชับแถมนุ่มนวลที่สุด นับได้ว่า เป็นการซึมผ่านผิวหนังได้ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพเห็นผลชัดเจนที่สุดโดยที่ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองแก่ผิวแต่อย่างใด ใช้ได้แม้กระทั่งผิวบอบบาง อ่อนโยน หรือผิวแห้งก็ยังใช้ได้ดีเพราะมีน้ำช่วยให้กรดเป็นกลางมากขึ้นด้วยค่ะ

ยิ่งคุณประโยชน์อีกข้อของ swiss apple stem cell ในการเติมเต็มหลุมสิวที่เกิดขึ้นใหม่ๆได้อย่างน่าอัศจรรย์พันลึก เนื่องจากมีฤทธิ์เร่งระดับการผลัดเซลล์ผิว ไม่ให้เซลล์เก่าทับถม ฟื้นฟูผิวที่เกิดสิวอักเสบเป็นหลุมลึก


 แต่ถ้าเป็นหลุมสิวที่เกิดมานาน swiss apple stem cell ไม่อาจฟื้นฟูได้นะคะ เพราะเมื่อใดที่การอักเสบของผิวเกิดบริเวณเดิมบ่อยครั้งหรือมีการอักเสบรุนแรง เมื่อนั้นชั้นหนังแท้ ( dermis )จะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนแต่ดันแถมสิ่งที่เราไม่ต้องการคือ ผังผืดใต้ผิวมาด้วย ผิวหน้าจึงยุบตัวลงเป็นหลุมเป็นบ่อตามแต่ระดับของการอักเสบและความแข็งแรงของผิว 

ขนาดเวลาที่แป้งไปทำเลเซอร์ CO2 เพื่อเติมเต็มหลุมสิว แพทย์ผิวหนังยังต้องใช้เข็มเซาะผังผืดทีละหลุมเลยค่ะ เจ็บชะมัดยาด ขนาดลำแสงเลเซอร์ที่ว่าทรงอานุภาพ ยังทะลุทะลวงผังผืดไปไม่ได้เลยค่ะ

เมื่อกลางปีที่แล้ว แป้งทำงานหนักมากจึงมีระดับความเครียดสูง ส่งผลให้เกิดสิวเม็ดเม็ดเล็กๆแค่ 1 เม็ด ถ้าไม่จ้องก็มองแทบไม่เห็น แต่แป้งทนดูไม่ได้ จึงได้บีบเค้นจนเป็นสิวเม็ดเบ้อเริ่มกลางแก้ม เด่นเลยทีนี้ รีบทา benzac เช้า-เย็น เป็นเวลา 3 วัน ปกติจะต้องไปให้คุณหมอฉีดยาสเตรียรอยด์เพื่อให้สิวยุบ แต่ไม่มีเวลา จึงรอให้หัวสิวเริ่มสุก แล้วฌาปณกิจสิวเสร็จเรียบร้อย

 แต่สิ่งที่คาดไว้แล้วคือ จะต้องเป็นหลุมสิวอย่างแน่นอน ( แป้งไปบีบเค้นเพิ่มการอักเสบในตอนแรก ) แล้วก็คิดไม่ผิด แผลเป็นหลุมสิวลึก จนน่าตกใจ ว๊าย!! ทำไงดี จึงคว้า 0.1% differin ทาเฉพาะบริเวณหลุมสิวเช้า-เย็น จากนั้นลง rose hip seed oil ยี่ห้อ aura cacia เพื่อไม่ไห้ผิวบริเวณนั้นแห้งเกินไปจะแสบหน้าอีก ตามด้วย swiss apple stem cell เป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นเวลา 3 เดือน ผลปรากฎว่า หลุมสิวตื้นขึ้นจนแทบมองไม่ออกว่า เคยเป็นหลุมเป็นบ่อมาก่อน เย้ ! ดีใจที่สุดเลย

ความสวยใสและความปลอดภัยต่อผิวหน้าระยะยาว มีมากพอๆกับคุณค่าจาก phyto stem cell ที่อยู่ในตัวต้นแอปเปิ้ลเอง ดังนั้นจึงสบายอกสบายใจได้ว่า ถึงแม้จะหยุดใช้ ใบหน้าจะยังคงสวยใส ซึ่งในความเป็นจริง ไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากใบหน้าของเราที่ผ่านมลภาวะ สารเคมี สายลม แสงแดด มาเนิ่นนาน พอเราไม่ได้ใช้ครีมบำรุงที่ดีเลิศและมีคุณภาพสูง สภาพผิวหน้าจึงเป็นเหมือนก่อนทาค่ะ

Jabushe anti-aging care ; cosmetic from Sweden
ครีมบำรุงลดริ้วรอยและกระชับรูขุมขนอันดับหนึ่งจากประเทศสวีเดน เจ๋งเป้งด้วยการจดสิทธิบัตรไป 25 ประเทศทั่วโลก สิทธิบัตร QAL-100 ( Q10+ALA+l-carnitine ) มันดีเลิศอย่างไร มาดูกันค่ะ

1.Q10 ถูกค้นพบในปีค.ศ 1957 ต่อมา นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ professor Peter Dennis Mitchell ได้นำเสนอผลงานวิจัยเรื่อง "บทบาทของ COQ10 กับการผลิตพลังงานใน mitochondria " จนได้รับรางวัลโนเบล ในปี ค.ศ 1978 ว๊าว !! สุดยอด มิใช่ง่ายที่จะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติเช่นนี้ เพราะมีนักวิทยาศาตร์ระดับโลกหลายๆคนวิจัยศึกษาจนแก่ชรา ผืนดินกลบหน้า ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ชื่นชมรางวัลโนเบลแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าคุณไม่มีชื่อเสียงและความสามารถไม่โดดเด่นพอ เวลาที่ส่งชิ้นงานไป เค้าโยนลงตระกร้าเลยนะคะ

Q10 เป็นส่วนผสมที่นิยม moisturizer ในผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย ช่วยให้ชั้นผิวหนังแท้ผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ลดการปรากฎของริ้วรอย ผิวจึงชุ่มชื้น แลดูอ่อนเยาว์ โดยมีงานศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันในปี ค.ศ1999 พบว่า หากใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ Q10 ระยะยาว ริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตาจะลดลง จากคุณสมบัติฟื้นฟู&ซ่อมแซมผิวหนังและลดความเสียหายของอนุมูลอิสระ

2.ALA (alpha lipoic acid ) กรดอัลฟ่าไลโปอิกที่เป็นหนึ่งในส่วนผสมสิทธิบัตร (QAL) ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่ามีความเป็นกรด อันที่จริงกรดส่วนใหญ่เมื่อโดนผิว มักจะให้ผลลัพธ์ที่สวยงามเพราะผิวหน้าของคนมีความเป็นกรดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่กรดอัลฟ่าไลโปอิกเพียงชนิดเดียวที่แทรกซึมลึกเข้าสู่ผิว จึงสามารถลดขนาดของรูขุมขน ซึ่งกรดชนิดอื่นๆไม่มีทางเทียบได้เลย และมีคุณสมบัติเพิ่มความนวลเนียน&ผุดผ่อง ที่สำคัญคือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในการลดการอักเสบของสิว เพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์ที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดใต้ชั้นผิว ผิวจึงเปลี่ยนจากหมองคล้ำ ซีดขาวกลายเป็นสดใส เปล่งปลั่ง แถมรูขุมขนกระชับอย่างที่ไม่เคยได้รับจากผลิตภัณฑ์ใดมาก่อนเลย


ความเข้มข้น ALA 0.1%-7% ไม่มีความเป็นพิษแต่อย่างใด ปลอดภัยแม้กับผิวบอบบาง แพ้ง่าย ใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ครีมบำรุงผิว Jabushe ที่คิดค้นโดย Professor Harry Beitner หัวหน้าภาควิชาผิวหนังแห่งมหาวิทยาลัย Karolinska Stockholm ประเทศสวีเดน ผู้พิจารณามอบรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ เป็นประจำต่อเนื่องทุกๆปี มีส่วนผสม ALA มากถึง 3% เชียวนะคะ

3.l-carnitine เป็นกรดอะมิโนมีหน้าที่เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน ซึ่งเท่ากับว่า เพิ่มการเผาผลาญกรดไขมันและเพิ่มการขนส่งกรดไขมันใน mitochondria มากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายมีการเผาผลาญไขมัน จึงช่วยลดการสร้างน้ำมันในชั้นผิว มีประสิทธิภาพควบคุมความมันบนใบหน้าซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิว อุ๊ย !! มันดีอย่างนี้นี่เองเนอะ ถ้าไม่ค้นคว้าก็ไม่ทางรู้เลยว่า l-carnitine ลดหน้ามันได้ดีอีกด้วย



แป้งใช้ทั้ง swiss apple stem cell และ Jabushe มาเป็นเวลาเกือบสองปี ใบหน้าเป๊ะมาก ริ้วรอยลดเลือน หาริ้วรอยใหม่ไม่เจอเลย กระชับ ไม่คล้อยตามธรรมชาติเลยค่ะ ทั้งๆที่พื้นผิวเดิมไม่ได้ดีมาแต่กำเนิด แต่ปัจจุบันภูมิใจมากที่มีโอกาสได้เป็นสาวกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าต่อผิวพรรณ กวาดรางวัลชนะเลิศประเภทฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอยและกระชับรูขุมขนจากประเทศสวีเดน 3 ปีซ้อน ของเค้าดีจริงๆ

หาซื้อได้ที่ http://jabushebeautyplus.weloveshopping.com/template/e5/shop.php?shopid=284596

ที่มา ;
 1.www.ehow.com/fact_6103595_Q10_lotion_.html
2.en.wikipedia.org/wiki/Peter._D._Mitchell
3.www.wisegeek.com/what-are-the-effects-of-coenzyme-Q10
4.www.smartskincare.com...topical actives
5.importanthealth secret.com/topical-alpha-lipoic-acid-ala-to
6.www.doctoroz.com/...is-ingredeints-look-your-skincare-pr.
7.www.bflawless.com/ingredients.html.
8.www.drdach.com/acne

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

โบกมือบ๊าย บาย สิวฮอร์โมน ( คิดว่าชาตินี้ คงต้องเป็นสิวตลอดชีวิต )


พอดีเห็นมีน้องๆหลายคนประสบปัญหากับสิวเยอะมาก 
แป้งเลยขอถ่ายทอดประสบการณ์สุดท้ายในการรักษาสิวฮอร์โมน
ให้ฟังกันนะคะ

หลังทำทุกอย่างเพื่อรักษาสิว กินไดแอน เลเซอร์ ทายา 

จะหน้าตาจะดีเฉพาะช่วงนั้น แต่พอหยุดกินไดแอน ,ทำเลเซอร์ 
หน้าจะมันเยิ้ม สิวกลับมาเยอะเหมือนเดิม 

จำได้ว่า มีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ เลยบ่นกับคุณหมอคนเก่ง

 นพ.รัสส์ภูมิ์ สุเมธิวิทย์ ว่าพอกินไดแอน สิวหายแต่ฝ้ามา
 ไม่รู้จะทำอย่างไรดีล่ะ แกเลยบอกว่า ลองกิน roaccutane 20 mg 
เป็นเวลา 10 เดือน มีงานวิจัยว่า 80% สิวจะไม่กลับมาอีก 

แป้งก็มีความหวังเรืองรองขึ้นมาทันทีว่า เราน่าจะเป็น 
หนึ่งในแปดสิบนะ ( คิดเข้าข้างตัวเองเข้าไว้ จะเป็นการดีทีเดียว
 ดีกว่าจิตตกค่ะ คนที่มองโลกในแง่ดีเสมอ จะอยู่อย่างมีความหวัง
และความสุข ความทุกข์มักอยู่กับเราไม่นาน เดี๋ยวมันก็จากไป)

คุณหมอคำนวนจากนน.ค่ะ แป้งหนัก 50 กก. ( ปัจจุบัน 48 กก.)

ต้องกินยา roaccutane สะสมให้ได้ 120 mg/1kg /day

สูตรคือ roaccutane 1mg/นน.1kg /day 

( 120x50=6000 mg 
ต้องกิน roaccutane วันละ 20 mg x30 วัน=600 mg x10 เดือน =6000 mg )

อันที่จริงคุณหมอแนะนำให้กิน roaccutane 20 mg วันละ 1 เม็ด

 แต่ราคาของยารักษาสิว 2 ตัวนี้แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
 แป้งเลือกกิน acnotin 20 mg เนื่องจากราคาย่อมเยาว์กว่า
 สบายกระเป๋าดี

มารู้จักเบื้องลึกเบื้องหลังยารักษาสิวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
หนึ่งเดียวในโลกกันดีกว่าค่ะ

ยารักษาสิวชนิดกินที่ได้ผลดีมาก เห็นผลชัดเจนและเป็นที่ยอมรับมา

ยี่สิบกว่าปี ใช้รักษาสิวชนิดรุนแรงและสิวที่ไม่ตอบสนองต่อ
การรักษาอื่นๆ ซึ่งการรักษาสิว มักจะเริ่มต้นด้วยยาทา เช่น
 benzoyl peroxideและ adapalene ตามด้วยยาฆ่าเชื้อ
 และ isotretinoin เป็นทางเลือกสุดท้ายเสมอ

ยารักษาสิว มีชื่อทางเคมีว่า isotretinoin ( ไอโซเทรติโนอิน )

 และมีชื่อทางการค้า คือ accutane และ roaccutane

ปี ค.ศ 1982 บริษัทผลิตยา มีชื่อว่า Hoffmann- La Roche

บริษัทผลิตยาและเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มี 2 หน่วยงานที่ทำการค้าทั่วโลกคือ
 แผนกเภสัชภัณฑ์และแผนกเคมีวินิจฉัย มีสำนักงานใหญ่ที่เมือง
 บาเซล ( basel ) ได้จดสิทธิบัตรยา accutane ออกวางจำหน่าย
ในท้องตลาดเป็นครั้งแรก

 นอกจากนี้ ยังใช้เป็นยาเคมีบำบัดโรคมะเร็งสมอง, ตับอ่อน,
และมะเร็งชนิดอื่นๆ และสิทธิบัตรยาจะมีอายุเพียง 20 ปี 
เรามักจะได้ยินว่าเป็นยา original เพราะแค่ทุนงานวิจัย
เริ่มต้นไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ ( ในขณะนั้น )

 แต่ปัจจุบัน มูลค่าของงานวิจัยไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 
ยาพวกนี้จึงมีราคาสูงลิ่ว เพราะบริษัทยาไม่ใช่องค์กรการกุศล 
จำเป็นต้องทำกำไร ในสิ่งที่ลงทุนไปทั้งสิ้น นั่นหมายความว่า 
สิทธิบัตรยาจะหมดอายุลงในปี 2002 สูตรการผลิตยา  
จึงตกเป็นของสาธารณชน บริษัท mega lifescience ของประเทศออสเตรเลีย จึงผลิตยารักษาสิว มีชื่อว่า acnotin
ออกวางจำหน่ายทั่วโลก 

ส่วน acnotin ที่ผลิตและวางจำหน่ายในประเทศไทย เป็นของ 
บริษัท mega we care อยู่แถวสมุทรปราการนี่เองค่ะ

ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา,อังกฤษและประเทศอื่นๆ 

roaccutane จะถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง
อย่างใกล้ชิด

ปี ค.ศ 2009 Roche ได้หยุดผลิตและระงับการจำหน่าย accutane 

อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นยา original 
จึงมีราคาสูงมาก และที่สำคัญ สิทธิบัตรยาหมดอายุลงไปแล้ว 
จึงมีบริษัทอื่นๆผลิตยาสูตรดั้งเดิม ออกมาจำหน่าย
 ในราคาที่ถูกลงกว่าครึ่ง ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดไม่ถึง 5% 
อีกทั้งไม่คุ้มค่ากับการถูกฟ้องร้องส่วนบุคคลที่ได้รับผลข้างเคียงคือ
 ลำไส้อักเสบ แต่ยังมีการผลิตและจัดจำหน่าย roaccutane 
( มีการผลิตก่อนปี ค.ศ 2009 ) ภายนอกสหรัฐอเมริกา จวบจนปัจจุบัน

ผลข้างเคียงของยารักษาสิว
1.หากกินในระหว่างตั้งครรภ์ จะทำให้ทารกพิการ 

ซึ่งเกิดขึ้นในขั้นตอนการพัฒนาตัวอ่อนของทารก
2.อาจทำให้ค่าเอนไซม์ตับและไขมันคอเลสเตอรอลสูงขึ้น
3.เยื่อบุตา จมูก ริมฝีปาก ผิวหน้าจะแห้งมาก ทุกอย่างในร่างกาย

แห้งผากไปหมด บางคนถึงกับลอกเลยทีเดียว
4.อาจมีผมร่วงเพิ่มขึ้นในบางคน
5.ธรรมชาติของคนที่เป็นสิวบ่อยๆ ส่วนมากมักเกิดซ้ำที่เดิม

อยู่นั่นแหละ ความรุนแรงของสิวมีศักยภาพที่ก่อให้เกิดแผลเป็น
ในช่วงเวลาสั้นๆ นอกจากสิวทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้ว
 จิตใจจะมีแต่ความเครียด หดหู่และวิตกกังวล
 ดังนั้น หากเป็นมากควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
ก่อนกินนะคะ เพราะมีรายงานว่า ในบางคนที่กินยารักษาสิว 
จิตใจหดหู่ถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ค่ะ (ใครเป็นสิวแล้วไม่เครียด 
ไม่มีหรอกเนาะ)

ช่วงที่กินยารักษาสิว หน้าใสมากมาย แป้งกินน้ำวันละ 3000 ml.

และโบกครีม แต่ใต้ตาเหี่ยวเหลือเกิน หน้าเรียบ ไม่มีสิวสักเม็ด 
พอครบ 10 เดือน จึงหยุดยาค่ะ

อุ๊ยตาย ! เกือบลืมเล่าบางอย่างไป ช่วงที่กิน acnotin หน้าเรียบเนียน

 ไร้ซึ่งความมัน แทบไม่ต้องใช้กระดาษซับมันเลย นอกจากหน้าตาเหี่ยวแห้ง ( น่าจะเป็นเพราะอายุมากถึง 35 ปี ) ยิ้มทีมาเป็นแปดริ้ว
 ปกติเวลายิ้ม จะไม่ค่อยเห็นตีนกาแต่จะมีใต้ตามากกว่า 
ปากไม่แห้งเพราะดื่มน้ำเยอะมาก 

ช่วงที่กินยาเข้าสู่เดือนที่ 6 ( นั่งนับถอยหลังเลยว่า เมื่อไหร่
จะครบคอร์ส ) รู้สึกเคืองตา น้ำตาไหลพราก แต่ไม่ได้เป็นตลอดเวลา
 ทั้งๆที่ไม่ได้จ้องคอมพิวเตอร์ ไม่ได้ตากลมอีกต่างหาก คิดว่า
 เกิดจากภูมิแพ้ทางตา เลยหยอดยา sperzalerg วันละ 1 ครั้ง
 เช้า-เย็น อาการเคืองตาดีขึ้นหน่อยเดียว 

ทนอยู่ 3 วัน จึงไปหาหมอจักษุ แป้งบอกอาการเบื้องต้น 
พร้อมทั้งบอกว่ากินยา acnotin 20 mg วันละ 1 เม็ด
 เค้าใช้เครื่องมือส่องเลนส์ตาครู่เดียว แล้วพูดน้ำเสียงราบเรียบว่า กระจกตาถลอก จากความแห้งของเยื่อบุตา หากมาช้ากว่านี้
 อาจจะมีผลต่อการมองเห็น พระเจ้าช่วย ! เกือบไปแล้วสิเรา

คุณหมอบอกว่า เกิดจากการกินยา acnotin แล้วจ่ายน้ำตาเทียม 

ชื่อ cellufresh MD พร้อมทั้ง มียาป้ายตาก่อนนอน
 ชื่อ vidisic eye gel
 ตาชุ่มฉ่ำขึ้นมาเชียว ไม่แห้งอีกต่อไป พวกยาป้ายให้ผลการรักษา
นานกว่ายาหยอด เพราะหนืดกว่า นิยมหยอดกันตอนก่อนนอน
เพราะหากเอามาใช้ช่วงกลางวันอาจรู้สึกเหนอะหนะไปค่ะ
 เพียง 1 สัปดาห์ อาการเคืองตา น้ำตาไหลพราก ก็หายไป เย้!

ช่วงนั้น ไม่ได้กินวิตามินใดๆ ( มันหมดเลยหยุดกิน )

แต่ถ้าคนที่คิดจะกินยารักษาสิวตามคำสั่งแพทย์ หากมีผิวแห้ง 
เยื่อบุตาแห้ง ควรกินวิตามินบำรุงควบคู่ไปด้วย คือ

1. Vitamin e 400 iu ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด 

หลังอาหารเช้า- เย็น ชนิด 100% Natural Mixed Tocopherols
 เป็นวิตามินอีคุณภาพสูง จะช่วยลดความแห้งของดวงตา 
ริมฝีปากและผิวหนังทั่วร่างกาย ได้ดีมาก
2. Hyaluronic acid ยี่ห้อ jarrow formulas ครั้งละ 2 เม็ด 

หลังอาหารเช้า - ก่อนนอน

วิตามินทั้งสองตัวนี้ ควรกินเพื่อลดผลข้างเคียงของยารักษาสิว 

จะได้ไม่เกิดอาการแบบแป้งเมื่อในอดีตนะคะ

แค่เดือนเดียว หน้ากลับมามันเยิ้ม แต่ไม่มากเท่าเดิม 

อ้าว ! เวรกรรม แล้วสิวเริ่มมาเม็ดสองเม็ด ทำไงดีละทีนี้
พอดีเริ่มหาข้อมูลใน internet
 จึงกิน beta-carotene 25000iu วันละ 1 เม็ด หลังอาหาร
 ตอนนั้น ยังไม่ศึกษาวิตามินอย่างลึกซึ้ง จึงโทรถามคุณหมอก่อนค่ะ 
ว่ากินได้มั๊ย 

คุณหมอบอกว่ากินได้ แต่ไม่ค่อยเห็นผลเหมือน roaccutane 
แต่แป้งก็จะลองกินดู ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เพราะไม่อยากกินยาไดแอน 
ไม่อยากทำเลเซอร์อีกต่อไป กลัวหน้าพังกว่าเดิม 

แป้งเริ่มกินวิตามินลดสิวต่อเลย ปรากฎว่า สิวเม็ดใหญ่ 
นานๆทีจะปรากฎ จะมีแต่สิวเม็ดเล็กๆเท่านั้น ก็เลยมานั่งตริตรองว่า
 คงเป็นเพราะยา acnotin มีส่วนอย่างมากในการรักษาสิวฮอร์โมน
ให้หายขาด เพราะแป้งเป็นบุตรคนแรก รับมรดกสิวมาเต็มๆ
ตั้งแต่อายุ 15 ปี เป็นมาเรื่อยๆ 
จนหน้าเป็นหลุม ( ทุกวันนี้แม่แป้งยังมีสิวและหน้ามันอยู่เลย 
ขนาดรังไข่ฝ่อไปหมด อายุ 61ปี แล้วนะเนี่ย )

 ต้องขอบคุณยา acnotin เลยค่ะ แต่ในบางคนที่เป็นมาก 
อาจต้องเลือกกิน roaccutane เพราะเกรดวัตถุดิบคุณภาพสูง
กว่ากันเยอะ แป้งไม่ได้เป็นมากเหมือนช่วงวัยรุ่น พอกิน acnotin 
(ยาที่ผลิตภายในประเทศ ) จึงเห็นผลชัดเจน






ที่มา ;http://en.wikipedia.org/wiki/Isotretinoin

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิธีดูแลผิวหน้าอย่างล้ำลึก คงความอ่อนเยาว์ได้เนิ่นนานนับสิบปี


                  การดูแลผิวให้สวย เนียนเรียบ สว่างใส นอกจากต้นทุนผิวสุขภาพดีที่มีมาแต่กำเนิดแล้ว เมื่อวันหมุนเวียนเปลี่ยนไป ใบหน้าเราก็เหี่ยวแห้งตามเวลาที่ล่วงเลย ทำอย่างไรดีที่จะฉุดรั้งความสวยใส ไว้กับเรานานๆ นอกจากการออกกำลังกายและกินวิตามินที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (ตัวการที่เร่งให้เราเข้าสู่วัยชราอันดับต้นๆ ) เลเซอร์ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย นะคะ

                 ผิวเปล่งประกาย นอกจาก DNA (รหัสพันธุกรรม) เป็นตัวกำหนดต่อมไขมันและสีผิวแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกมากมายที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส จากการใช้ชีวิตอย่างสิ้นเปลือง เช่น ความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย การกินอาหารที่ประโคมใส่ผงชูรส หรือ ปรุงแต่งใส่สารกันเสีย จนไม่รู้ว่าหน้าตาเก่าเป็นอย่างไร เช่น ไส้กรอก แหนม หมูยอ กุนเชียง ฯลฯ

                 การทาครีมบำรุงผิว เป็นการดูแลเบื้องต้น ที่จะช่วยให้ใบหน้าเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน แต่มีใครสังเกตุบ้างว่า ทาครีมบำรุงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะหากอายุ 20 ปีขึ้นไป เซลล์ผิวจะผลัดช้าลง ไม่เหมือนตอนเป็นเด็ก หรือ วัยรุ่นนะคะ การขัดผิวหน้าทุกสัปดาห์ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังด้านนอกสุด เรียงตัวซ้อนกันเป็นชั้นๆ โดยเซลล์ใหม่จะถูกสร้างจากด้านล่างแล้วดันขึ้นสู่ด้านบน เพื่อทดแทนส่วนของเซลล์ด้านบนที่หลุดลอกไป กลายเป็นเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เรียกว่า ขี้ไคล เป็นอีกวิธีง่ายๆที่ช่วยเผยผิวใหม่ ให้เนียนเรียบ พร้อมรับการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ในขั้นตอนต่อไป

                การขัดผิวหน้า เราจะเลือกใช้เม็ดสครับ ใครมีผิวแห้ง ควรเลือกเม็ดสครับชนิดละเอียด ไม่ระคายเคืองผิว ขัดวนเบาๆ ทั่วใบหน้า 1 นาที เท่านั้นเป็นพอ เดี๋ยวหน้าจะถลอกปอกเปิกกันหมด จากนั้น มาสู่ขั้นตอนพอกหน้า(mask ) เรามารู้จักกันก่อนนะคะว่า จะเลือกใช้อะไรดีกับหนังหน้าของเรา

               @ผิวธรรมดา-ผิวมัน เป็นสิว ควรเลือกมาสก์ดินเหนียว (clay mask) ที่มีส่วนผสมแร่ธาตุหลากหลายชนิด เช่น แร่ซิลิกา ช่วยฟื้นฟูให้ผิวอ่อนนุ่ม , สังกะสี ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ,แมกนีเซียม ทำให้ผิวผ่อนคลาย ,แคลเซียม ช่วยให้กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ,โซเดียม ช่วยรักษาความยืดหยุ่น มีลักษณะ เนื้อเนียนนุ่ม หลากหลายสี ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา ดังต่อไปนี้

1. White clay หรือ kaolin ( ดินขาว ) อ่านว่า เกาลิน มีที่มาจากภูเขาสูงในประเทศจีน มีความอ่อนนุ่ม ดูดซับน้ำมันได้พอควร ครีมพอกหน้าส่วนใหญ่ มักใส่ kaolin มาลำดับแรกๆ หากมาจากประเทศจีน จะมีราคาถูกมาก ประเทศบราซิล อังกฤษ และอเมริกา เป็นผู้ผลิตดินขาวคุณภาพสูง อันดับต้นๆของโลก

2. bentonite clay ดินเถ้าภูเขาไฟสีเทา อุดมด้วยแร่ธาตุมากมาย แหล่งพบมากที่สุด คือ มลรัฐมอนทานาและไวโอมิง สหรัฐอเมริกา มีคุณสมบัติดูดซับสารพิษ เพ่ิมภูมิต้านทานให้แก่ผิว ไม่แพ้ง่าย

                 ดินเหนียวทั้ง 2 ชนิดนี้ รวมตัวอยู่ในยี่ห้อ DDF ; sulfur therapeutic mask ซึ่งผสม sulfur มากถึง 10% เหมาะสำหรับผิวมัน เป็นสิว อย่างยิ่ง แป้งใช้สัปดาห์ละครั้ง mask คืนวันอาทิตย์ รุ่งขึ้นไปทำงาน มีแต่คนชมว่าหน้าเนียน ใส เด้ง ทุกครั้ง

3. green clay หรือ แร่มอนต์เมอริลโลไนต์ (montmorillonite) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ดินเหนียวฝรั่งเศส พบมากในเหมืองหิน ประเทศฝรั่งเศส มีสีเขียวของเนื้อดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุชีวภาพ มีการดูดซับสูงที่สุด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยลดการอักเสบของผิว ดูดซับน้ำมันและสารพิษออกจากผิวได้ดีมาก ใครที่ชอบดูหนังฮอลลีวู้ด จะพบเห็นมาสก์ชนิดนี้เสมอ ในฉากที่นักแสดงพอกหน้าพอกตา แป้งชื่นชอบมาสก์ชนิดนี้ที่สุด เพราะดูดซับความมันเยิ้มส่วนเกินได้ชะงัด พบได้ในยี่ห้อ alba ; deep sea facial mask อันนี้ก็เริ่ด ทาแป้งติดง่ายมาก เนียนดีเหลือเกิน แต่หาซื้อยาก เพราะต้องสั่งผ่านเว็ปต่างประเทศ เท่านั้น

4.rhassoul clay ดินเหนียวสีแดง มีที่มาจากเทือกเขา Atlas ประเทศโมรอกโก หญิงสาวชาวโมรอกโก ใช้ดูแลผิวและผม ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยทำความสะอาดผิวล้ำลึก ทำให้ผิวมีความสมดุล พร้อมทั้งกระชับรูขุมขน ได้อีกด้วย มีซิลิกาสูงมาก ช่วยฟื้นฟูให้ผิวอ่อนนุ่ม , สังกะสี ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ,แมกนีเซียม ทำให้ผิวผ่อนคลาย ,แคลเซียม ช่วยให้กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ,โซเดียม ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว สปาที่ดีที่สุดทั่วโลก มักนิยมใช้มาสก์ชนิดนี้กันค่ะ

5.earth clay ดินเหนียวสีเหลืองอ่อน อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ อาทิเช่น ซิลิกา 70.85 % แมกนีเซียม 5.75% แคลเซี่ยม 1.62% มีคุณสมบัติกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยทำความสะอาดผิว ดูดซับความมันส่วนเกินได้ดี สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก และส่งออกเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตทั่วโลก ด้วยนะคะ

                 @ผิวธรรมดา-ผิวแห้ง โดยเฉพาะผิวแห้ง อายุที่มากขึ้น ต่อมไขมันทำงานลดลง ส่งผลให้ผิวขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ผิวจึงขาดความชุ่มชื้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ควรมาสก์ตามข้างบนนะคะ เดี๋ยวหนังหน้าจะเหี่ยวแห้งไปกันใหญ่ ควรเลือก tissue mask (มาสก์แผ่น) ที่อุดมด้วยอาหารบำรุงผิวชั้นเลิศ นานาชนิด ตามคุณภาพและราคา ส่วนผสมล้ำค่า จะแถมมาด้วยราคาสูง แต่ถ้าส่วนผสมธรรมดา ราคาจะจับต้องได้เสมอ ของดีราคาถูก ไม่มีในโลกหรอกค่ะ ยกเว้นเครื่องสำอางที่ทำการตลาดในเมืองไทย ไม่ได้ตามเป้าหมาย จึงต้องนำมา SALE (ลดราคา) ดีกว่าทิ้งให้เสียของ อาทิเช่น Darphin อ่านว่า ดาฟาง จากฝรั่งเศส,Juice Beauty จากอเมริกา ,DHC จากญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้ยกเคาน์เตอร์ กลับบ้านเกิดไปแล้ว อันนี้ นอกเรื่องนิดนึง ต่อค่ะ มาสก์แบบนี้ มีให้ซื้อหากันไม่หวาดไม่ไหว แต่แป้งไม่ชอบมาสก์ชนิดนี้ค่ะ เพราะแฉะแบะ กว่ามันจะซึมเข้าสู่ผิวหมด ถึงได้เหมาะกับผิวแห้ง งัยค่ะ

                   ใครมีผิวแบบไหนก็เลือกใช้บริการได้ตามสะดวก หลังจากหนังหน้าผ่านกรรมวิธีนี้แล้ว ใบหน้าจะขาวขึ้นชั่วคราว จากการที่เราขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วยการสครับผิว ตามด้วย มาสก์หน้าดูดซับความมัน หรือ เติมอาหารผิวล้ำลึก ไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อถูกๆหรือแสนแพง ร้อยละร้อย ใบหน้าขาว สว่างใส ขึ้นเห็นๆ แต่พอย่างเข้าวันที่ 5 หน้าเราจะเริ่มหยาบ หมองคล้ำ คงเดิม เพราะฉะนั้น จึงต้องสละเวลาดูแลผิวหน้าอย่างพิถีพิถันเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง นะคะ ความงดงามจะคงอยู่กับเราเนิ่นนานที่สุด

                   ขั้นตอนสุดท้ายที่ไม่ควรละเลย แป้งนวดหน้าทุกอาทิตย์ด้วย shiseido white lucent massage cream ใช้เป็นสิบกระปุกล่ะ เพราะการนวด คือการดีทอกซ์ผิวที่มีมาช้านาน กว่า 5000 ปี สาวญี่ปุ่น เค้าจะชอบนวดหน้าเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ช่วยให้โลหิตและน้ำเหลืองบริเวณผิวหน้าไหลเวียนดีขึ้น เพิ่มพลังผิวหน้าให้กลับนุ่มชุ่มชื่น เรียบเนียน ใสเด้ง ย้อนเวลาให้ผิวได้เป็นสิบปีเลยนะคะ ตอนแป้งทำเลเซอร์ หน้าไม่เหี่ยวแห้ง ไม่ลอกเป็นขุย ก็เพราะการนวดหน้านี่แหละค่ะ เคยซื้อเครื่องนวดหน้ามาราคาเกือบครึ่งหมื่น แรกๆ ใช้ทุกอาทิตย์ ช่วงหลังๆ กองอยู่ใต้ลิ้นชัก ไม่แม้แต่จะเหลียวแล เหมือนเราซื้อเครื่องออกกำลังกายมาใหม่ๆ พักเดียวเท่านั้นแหละ กลายเป็นที่ตากผ้าเช็ดตัว ซะงั้น 


                   จากนั้น ลงครีมบำรุงตามปกติ ตื่นเช้ามา หน้าสวยเด้ง ทาแป้งติดดีเหลือเกิน ว๊าย! ลืมบอกไป ถึงขั้นตอนการล้างหน้า ไม่ว่าเราจะโบกรองพื้นบางหรือหนาแค่ไหน ผิวหน้าก็ขาดออกซิเจน ปิดกั้นไม่ให้ผิวหายใจได้ตามปกติ ลองสังเกตุดูว่า หลังล้างหน้า หน้าจะแห้งตึงดั่งทะเลทราย นานวันเข้า ผิวจะเหี่ยวถาวร เค้าถึงไม่ให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ถึงแม้ว่า อุณหภูมิของน้ำอุ่น จะชะล้างสิ่งสกปรกได้ดีก็ตามที หน้าสะอาดจริง แต่เหี่ยวล้ำลึก เลยนะคะ นั่นเป็นเพราะ เราใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฤทธิ์ชะล้างสิ่งสกปรกมากเกินไป ผิวจึงขาดความสมดุล รวมถึงชะล้างน้ำมันบนผิวตามธรรมชาติออกไปอีกด้วย ใครที่ผิวแห้งมากๆ จะโหยหา น้ำมันบนผิวตามธรรมชาติที่สุด

                    แป้งเคยใช้เคล็นเซอร์ล้างหน้าเคาน์เตอร์แบรนด์ หลากหลายยี่ห้อ แต่มาลงตัวที่ Jabu'she cleansing lotion Made in Sweden อุดมไปด้วย cucumber extract เกรดพรีเมี่ยม คุณภาพสูง ช่วยรักษาสมดุลและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ,peach extract ปรับผิวให้สะอาดเรียบเนียน แถมมาด้วย chamomile extract ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง จากความไม่สมดุลของน้ำมันตามธรรมชาติที่ถูกชะล้างออกไป ให้ผิวหน้าผ่อนคลาย 

เคล็นเซอร์เพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ผสมสารสกัดจากธรรมชาติมากที่สุด ไร้สารเคมีตกค้าง หอมกลิ่นแตงกวาอ่อนๆ ชื่นใจจริงๆ ที่สำคัญ ไม่มี mineral oil , petrolatum ที่ก่อให้เกิดสิว ผิวแห้งผาก ผดผื่น ด้วยนะคะ เป็นครีมล้างคราบเครื่องสำอาง ฝุ่น สิ่งสกปรก ได้สะอาด ล้ำลึกที่สุด โดยไม่ต้องตามด้วยโฟมล้างหน้า เพิ่มความเหี่ยวแห้งกับผิวหน้า อีกต่อไป ใช้แค่ตัวเดียว เอาอยู่ค่ะ ลองใช้ดูนะคะ แล้วจะติดใจ

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เลือก skincare อย่างไรดีให้เห็นผลและคุ้มค่าเงิน ตอนจบ


ปัจจุบันมีครีมลดริ้วรอยหลากหลายยี่ห้อ ทั้งระดับล่าง ระดับกลางจนถึงเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคามีตั้งแต่หลักร้อยยันหลักหมื่นจนถึงสามหมื่นห้า(ปริมาณ40-50mlต่อกระปุก) ซึ่งส่วนใหญ่จะใส่สารสกัดที่เป็นธรรมชาติสุดๆ อย่างเช่น Lancome ; Absolue L'extrait สกัดจาก stem cell กุหลาบ ว๊าว! เก๋ไก๋ สไลเดอร์ ซะไม่มี หรือ Guerlain แบรนด์ชั้นนำของฝรั่งเศส ก็มีครีมลดริ้วรอยที่สกัดจากกล้วยไม้พันธุ์หายาก ราคาน่าจะเกือบสองหมื่นต่อกระปุก มีกระแสตอบรับดีพอสมควรนะคะ แต่แป้งไม่กล้าลองใช้หรอก ตอนรูดบัตร ปื้ด! รู้สึกดีอยู่นะ กลัวตอนใบแจ้งหนี้มา จะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ครีมลดริ้วรอยตัวไหนจะใช้ได้ผลกับใบหน้าของเรา ก็ดูส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์(Active Ingredient)งัยค่ะ เท่าที่เล็งไว้ แล้วราคาน่าคบหาที่สุด มีเพียงยี่ห้อเดียวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ครีมลดริ้วรอยที่ผลิตจากประเทศสวีเดน ยี่ห้อ Jabu'she อ่านว่า จาบูชิ ชื่อยังกะว่าเป็นแบรนด์ของญี่ปุ่นแน่ะ

แป้งรู้จักยี่ห้อนี้ครั้งแรก เมื่อปลายปีที่แล้วเองค่ะ เพื่อนแฟนที่อยู่สวีเดนเอามาฝาก บอกว่า ได้รางวัลผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ายอดเยี่ยมของประเทศสวีเดน 3 ปีซ้อน ใช้ดีมากๆ พอแป้งได้รับ Jabu'she eye cream ,Jabu'she 24hr soft cream และ Jabu'she 24hr original cream แป้งก็เก็บไว้ก่อนเพราะยังใช้ Shiseido white lucent ไม่หมด แถมด้วยยี่ห้ออื่นอีก 9 กระปุกวางเรียงรายบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วอีกอย่าง ครีมอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นรู้จักเลย

ผ่านไป 3 เดือน น้องสะใภ้มาเยี่ยม เค้าผิวดีนะคะ แต่แห้ง ไม่มีอะไรให้ เลยยก Jabu'she eye cream ให้ พอมาเจอกันอีกที เค้าบอกว่า ใช้ดีมาก เนื้อครีมเข้มข้นสุดๆ ริ้วรอยใต้ตาเค้าหายไปเลย ว๊าย! ไม่ได้การล่ะ ไม่รู้ว่ามันดีขนาดนั้น จึงเป็นที่มาของการสืบค้นครีมบำรุงยี่ห้อนี้ค่ะ

ความลับอันน่าทึ่งของ Jabu'she

ผู้ที่คิดค้น สูตร QAL-100 ที่เป็น สารออกฤทธิ์ (Active Ingredients) ได้จดสิทธิบัตรไปทั่วโลก คือ ศาตราจารย์ Harry Beitner หัวหน้าภาควิชาผิวหนัง Karolinska University Hospital in Stockhlom,Sweden ซึ่งเป็นผู้พิจารณามอบรางวัลโนเบลให้กับผู้ชนะเลิศ ในสาขา medicine ทุกๆปี ป๊าด! เก่งอะไรปานนั้น

Jabu'she จดสิทธิบัตรไปทั่วโลก 25ประเทศ ในปี 2001 และเป็นครีมเคาน์เตอร์แบรนด์รายแรกและรายเดียวในโลกที่ถูกตีพิมพ์ ใน

1.British Journal of Dermatology (BJD) ค.ศ 2003 (วารสารทางการแพทย์ผิวหนังชั้นนำของอังกฤษ) เรื่องผลลัพธ์ของครีมต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย ที่มีส่วนผสมของ COQ 10 เข้มข้นมากถึง 1%เมื่อใช้ Jabu'she 24 hr original cream เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ริ้วรอยลึกลดลง 51% COQ 10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย โอ้ว ! น่าสนใจมากๆ ถึงขนาดได้รับการตีพิมพ์ ปกติ ไม่เคยมีครีมบำรุงเคาน์เตอร์แบรนด์ใดในโลกได้รับเกียรติเช่นนี้แสดงว่า ผลการทดลองทางคลีนิก ได้รับการยอมรับในระดับสากล นะเนี่ย

2.Journal of the American Academy Dermatology (AAD) ค.ศ 2005 (วารสารทางการแพทย์ผิวหนังชั้นนำของประเทศอเมริกา) เรื่อง กลไกการซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากแสงแดด เมื่อใช้ Jabu'she 24 hr original cream ที่มีส่วนผสมของ Alpha Lipoic Acid ความเข้มข้น 5% ทำให้ชั้นคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพ กลับมาเรียงตัวดีขึ้น แถมมาด้วยรูขุมขนมีขนาดเล็กลงและกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กรดอัลฟ่าไลโปอิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและสร้างสมดุลการทำงานของต่อมไขมัน สิวจึงลดลงตามไปด้วย ว๊าว! อันนี้น่าสนใจที่สุด แป้งใช้แค่ 3 เดือน รูขุมขนเล็กลงจริง ๆ แฮะ

3.Pacthderm porderm สถาบันวิจัยด้านผิวหนังที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน ค.ศ 2005 เรื่อง Jabu'she 24 hr original cream ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง อ่อนโยนปลอดภัยแม้กับผิวบอบบาง แพ้ง่าย ด้วยคุณสมบัติของ Acetyl l carnitine ที่เป็นอะมิโนโปรตีน ช่วยกระตุ้นให้วิตามินบี 3 ทำงานได้มากขึ้น โดยลงลึกถึงระดับเซลล์ ถนอมผิวให้แข็งแรง ใบหน้าจึงขาวใสขึ้นแบบไม่ง้อเลเซอร์


ปกติ คอลลาเจนจะมีมากที่สุดบริเวณผิวหนัง ที่เหลือเป็นกระดูกอ่อน ผังผืด เอ็น และข้อต่อ เมื่ออายุเกิน 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนจะเสื่อมสภาพและสร้างใหม่ได้น้อยลง จึงเป็นที่มาของริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น บ้านเรามีแดดแรงตลอดทั้งปี ซึ่งรังสี UV ในแสงแดดเป็นตัวเร่งทำให้คอลลาเจนที่ผิวเสื่อมสภาพไปอย่างรวดเร็ว และทำให้การเรียงตัวกันของคอลลาเจนไม่เป็นระเบียบ ผิวจึงขาดความเนียนกระชับ ซะงั้น

ปกติ แป้งไม่เคยเห็น ครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้ออื่นใดมีส่วนผสมที่ล้ำค่ากับผิวหน้าและได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลกเช่น Jabu'she มาก่อนเลย ยิ่งมี ,
Clinical Trials (การทดลองทางคลีนิก) ก็การันตีถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมของครีมลดริ้วรอยอันดับหนึ่งของโลกได้เป็นอย่างดี 

นอกจากวิตามินแต่ละตัวที่แป้งแนะนำ ยังมี Swiss Apple Stem Cell ,นวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งยุโรป ปี 2008 และครีมลดริ้วรอยที่ได้รับรางวัลดูแลผิวหน้ายอดเยี่ยมของสวีเดน 3 ปีซ้อน ชีวิตนี้ใช้แค่ 2 ตัวก็พอเพียงแล้วค่ะ ไม่ต้องโบกสารพัดครีมมากมายเหมือนเมื่อก่อน หน้าก็สวยใสเหนือกาลเวลาล่ะ เวลาเลือกซื้อครีมบำรุง อย่าลืม! หยิบยื่นสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผิวหน้าด้วยนะคะ ความงดงามเมื่อครั้งเยาว์วัย ได้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง อย่าเชื่อ! จนกว่าจะได้ลองเองค่ะ

Blog Skincare ที่เขียนขึ้นมานี้ มีข้อพิสูจน์ รวมถึงผลงานวิจัยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติและทั่วโลกมาแล้ว ไม่มีครีมเทพใดๆที่ทำให้หนังหน้าดีขึ้นภายใน 15 วัน หรอกค่ะ มีแต่ครีมที่มีส่วนผสมยอดเยี่ยม เป็นมิตรกับผิวหน้า ปลอดภัยในระยะยาว ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ลดริ้วรอย รูขุมขนกระชับ ใบหน้าขาวใส ในหลอดเดียว หากไม่ดีจริง วงการแพทย์ผิวหนังระดับโลก คงไม่ให้การยอมรับมากเท่านี้อีกแล้ว


เลือก skincare อย่างไรดีให้เห็นผลเลิศและคุ้มค่าเงิน ตอนที่ 4

 เมื่อก่อนแป้งเคยใช้ครีมบำรุงพร้อมกันทีเดียวเป็น 10 กระปุก ตั้งแต่ได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์(active ingredients) อย่างจริงจัง ทำให้รู้ว่า แรงโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การตลาดของเครื่องสำอางแบรนด์ดังหรือ local brand(ยี่ห้อที่ผลิตภายในประเทศ) มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ผู้หญิงถูกดูดเงินในกระเป๋าเพื่อซื้อครีมบำรุงชั้นเลิศมาโบกหน้า(อ่านคำโปรยของครีม แล้วเคลิบเคลิ้ม) ส่วนใหญ่จึงมีครีมบำรุงไม่ต่ำกว่า 5 กระปุก ทั้งที่ในความเป็นจริง หากครีมบำรุงที่มีครบในหนึ่งเดียว สำหรับปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย หลุมสิว ผิวหน้ามัน รวมกันในกระปุกเดียว คงจะดีไม่น้อย

 
นวัตกรรมที่ได้รางวัล Innovation Prize 2008 ในสาขา
 Best Active Ingredient จากงาน European Cosmetics Award ;
Swiss Apple Stem Cell ซึ่งเป็น สเต็มเซลล์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยง
เนื้อเยื่อที่ได้จากต้นแอปเปิ้ล พันธุ์ Uttwiler Spatlauber
 วุ๊ย! อ่านยากจริงๆเลย ปลูกที่ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์
เพียงแห่งเดียวในโลก ท่าทางคงจะมีไม่กี่ต้นเพราะนักวิจัยที่ได้รางวัล 
สังเกตุว่า ทำไม แอปเปิ้ลสีเขียวจึงเหี่ยวช้ากว่าพันธุ์อื่น 
ในลำต้นจะต้องมีสารอาหารที่ดีเลิศและมีคุณภาพเยี่ยม 
หล่อเลี้ยงอยู่แน่นอน จึงเป็นที่มาของรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม ดังกล่าว

แป้งไปสืบเสาะเจาะครีมบำรุงที่มี Swiss Apple Stem Cell ผสมอยู่
 มีคุณสมบัติ ฟื้นฟูแก้ไข เซลล์ผิวที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่
และกลับมาแข็งแรง ซึ่งแสงแดด มลภาวะ วัยที่ร่วงโรย
 ทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ไม่มีครีมบำรุงชนิดอื่นใดในโลก
ที่จะมีคุณสมบัติโดดเด่นได้มากเพียงนี้อีกแล้ว แค่ทาครีมบำรุง
เพียงกระปุกเดียว หลังทาโทนเนอร์ จบมั๊ยค่ะ

 แป้งเลิกโบ๊ะครีมนานาชนิดได้เกือบปีแล้วนะคะหลังจากที่ได้ลองใช้
ครีมบำรุงดังต่อไปนี้


1.Lancome absolue Precious Cells advanced regenerating

 and replenishing concentrate 25 ml ราคา 8500 บาท
               
 ซีรั่มเนื้อบางเบาซึมซับสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ที่ใช้ส่วนผสมของ
สารสกัดจากแอปเปิ้ลพันธุ์พิเศษ อุตวิลแลร์ สปัตโลแบร์
 (Uttwiler spatlauber) ซึ่งมีเพียงไม่กี่ต้นในโลก มีคุณสมบัติ
ในการชะลอความร่วงโรยได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งยังสามารถ
ช่วยเสริมกลไกการฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ผสาน
กับโพร-ซีเลนส่วนผสมสำคัญซึ่งเป็นนวัตกรรมหลักในการชะลอริ้วรอย

 เป็นโมเลกุลชนิดพิเศษที่ช่วยเสริมการสังเคราะห์องค์ประกอบสำคัญ
ต่างๆของสารระหว่างเซลล์พื้นฐานของผิว นอกจากนี้ลังโคมยังคัดสรร
ส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงอีกมากมายอาทิเช่น
 ข้าวบาร์เลย์ ถั่วเหลือง มันเทศป่า และสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล 
เพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิวในแต่ละชั้นผิว เนื้อซีรั่มบางเบามีกลิ่นหอมสดชื่น
ลึกล้ำของมะกรูด กระวาน ชาเขียว ตามด้วยความหอมละมุนของ
กุหลาบ และความหอมผ่อนคลายจากชาดำ และมะลิ

              
 2.life Extension ; Skin Stem Cell Serum 30 ml ราคา 1960 บาท 
ผลิตในอเมริกา
เซรั่มที่อุดมไปด้วยส่วนผสมที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจาก
ต้นแอปเปิ้ล เช่นเดียวกันกับ lancome แต่มีส่วนผสมชั้นเลิศเพิ่มมาอีก
แค่ตัวเดียวคือ hyarulonic acid ราคาจึงถูกกว่า lancome หลายเท่าตัว
อีกทั้งเป็น local brand ของอเมริกาอีกต่างหาก แค่ทาครั้งแรกก็สัมผัส
ได้ถึงผิวนุ่มเนียน ใสเด้ง ทาแป้งติดง่ายมากๆ แต่หาซื้อยาก
 เพราะต้องสั่งผ่านเว็ปต่างประเทศค่ะ

              
 3.Zoe' ; Precious Cells Caviar 15 ml ราคา 1250 บาท
 ผลิตในไต้หวัน วัตถุดิบจากอเมริกาและสวิสเซอร์แลนด์
               
วัตถุดิบเกรดเดียวกับยี่ห้อ life extension แต่มีส่วนผสมล้ำค่า
ที่ได้รับการพิสูจน์ทางงานวิจัยว่า สามารถลดริ้วรอยได้จริง คือ Q10(ubiquinone)ความเข้มข้น 0.5%
มากพอที่จะทำให้หน้าหายเหี่ยว แถมมี Cavair Extract เกรดพรีเมี่ยม
ที่ได้จากน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก อุดมไปด้วยอะมิโนโปรตีน
 พร้อมทั้งกรดไขมันจำเป็น ช่วยทำให้ผิวกระชับ ชุ่มชื้น เนียนนุ่มได้อีก
 ไม่พอ ยังมี Acetyl Hexapeptide-8 มีฤทธิ์คล้ายโบท็อกซ์
 ฟื้นฟูคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว เติมเต็มร่องลึก 
ปรับผิวให้เรียบเนียน ส่องสว่าง กระจ่างใส อีกต่างหาก

              
 แป้งขอแนะนำ ครีมบำรุงตัวที่ 3 ค่ะ เนื่องจาก ราคาไม่แรง
แถมมีโปรโมชั่นยั่วใจบ่อยๆ จึงใช้มาเกือบปีล่ะ 
ตอนนี้แนะนำให้คนใช้ร่วมร้อยคน(บอกต่อ) เพราะนอกจาก
 ผิวหน้าเนียน กระจ่างใส เต่งตึงแล้ว สิวที่เคยมีมาก็หายไปหมดเลย 
กระ ฝ้า จางลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ

 ซึ่งทาเกือบปี กระ เพิ่งจะจางลง คาดว่าเกิดจากผิวเสียหายจากการ
ทำเลเซอร์มาก่อน แต่คนอื่นเค้าทาแค่เดือนเดียว นอกจากหน้าไม่มัน 
สิวยังหาย หน้าฟูเด้ง นุ่มเนียน ขาวใสแบบไม่ง้อเคาน์เตอร์แบรนด์ 
พอกันทีกับการประโคมครีมบำรุงเป็น10 กระปุกสำหรับสาวผิวมัน
อย่างแป้ง จากสูงสุดคืนสู่สามัญ

 กระปุกเดียว เอาอยู่ สินค้าคุณภาพจากนวัตกรรมระดับโลก
 หาซื้อได้ที่ jabushe shop เดอะมอลล์ 3 รามคำแหง ชั้น 1
tel.081-8453461

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เลือก skincare อย่างไรดีให้เห็นผลและคุ้มค่าเงิน ตอนที่ 3

 
                  การทาครีมหลายๆตัว ไม่ว่าจะเป็น ครีมลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน whitening ครีมยกกระชับ สารพัดครีมที่เราคิดไปเองว่าจะช่วยให้หนังหน้าดีขึ้นมาบ้าง หรือ ใบหน้าจะสวยใสเหมือนวัยรุ่น ทั้งๆที่ ผิวหน้าเสื่อมสภาพจากวัยที่ล่วงเลย สีผิวไม่สม่ำเสมอจากแสงแดด ริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยจากมลภาวะ คนส่วนใหญ่มักจะหลงเพ้อไปตามคำโฆษณาของนายทุนผู้ประกอบธุรกิจเครื่องสำอาง ยิ่งอ่านคำโปรยโฆษณาตามนิตยสารต่างๆ แม้กระทั่งแผ่นพับของเครื่องสำอางแบรนด์ดังหรือlocal brand (เครื่องสำอางที่ผลิตภายในประเทศ) ต่างสรรค์สร้างคำพูดเริ่ดหรูว่าทาครีมของเค้าแล้ว จะสวยโดดเด้ง ริ้วรอยหายวับไปกับตา ผิวขาวใสเหมือนในอุดมคติ ยิ่งเคาน์เตอร์แบรนด์ที่มีสูตรสิทธิบัตรไปทั่วโลก จะตอกย้ำความภูมิใจในผลิตภัณฑ์นั้นจะช่วยแก้สารพันปัญหาบนใบหน้าที่หมองคล้ำ ดำแดดเหมือนโดนของได้ชะงัด

                  ในความเป็นจริง ยิ่งเราทาครีมบำรุงมากเท่าไหร่ การอุดตัน ตกค้างของเนื้อครีมที่เหนียวข้นและสารกันเสียยิ่งมีมากเท่านั้น หากเป็นคนผิวธรรมดาชนิดเนียนละเอียด รูขุมขนเล็กดั่งสาวเกาหลี จะไม่ค่อยเกิดปัญหาผิว แต่ถ้าไม่ใช่ที่กล่าวมา เราทาครีมหมดทั้งเคาน์เตอร์ก็ไม่ได้ทำให้ผิวสวยขึ้นมาแต่อย่างใด ยิ่งที่โฆษณาว่า ลดเลือนริ้วรอย กระ ฝ้า ปัญหาสิว ผิวอุดตัน ส่วนใหญ่มักแยกครีมบำรุงคนละกระปุก ปัญหาผิวมักจะเริ่มปรากฎชัดเจนเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป อยากจะใช้แค่กระปุกเดียวแต่ปัญหาหนังหน้าอย่างอื่น ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ต้องทาครีมบำรุงมากกว่า 5 กระปุกขึ้นไป บางคนกว่าจะได้นอน ปาเข้าไปเที่ยงคืน(รอให้ครีมแต่ละตัวซึมซาบสู่ผิว) ไม่งั้นเดี๋ยวไม่สวย ลำบากไปหรือเปล่าเนี่ย

                  แป้งเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ครีมบำรุง เซรั่ม สารพัดยี่ห้อ(หลงเชื่อโฆษณา อ่านแล้วเคลิบเคลิ้ม)ไม่ต่ำกว่า 10 ขวดในตอนเช้าและกลางคืน เป็นคนใจร้อนและชอบลองครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ กลัวว่าหากใช้แค่ตัวเดียว จะเห็นผลช้า ผิวหน้าจะเหี่ยวล้ำหน้าไปก่อน จึงไม่เคยรีรอที่จะใช้ครีมบำรุงแค่ตัวเดียว แป้งไม่ได้มีต้นทุนสุขภาพผิวดีตั้งแต่เกิดจึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษ ถามว่า ผิวหน้าดีขึ้นมั๊ย หลังจากที่ประโคมครีมบำรุงนานาชนิด ขอตอบอย่างภาคภูมิใจมากค่ะ ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่ ดีกว่าไม่ได้ทาอ่ะค่ะ

                  หลังจากที่เริ่มสังเกตุใบหน้าหลังจากทำเลเซอร์และการใช้ครีมบำรุง ทำให้รู้ว่า เลเซอร์ลงลึกถึงชั้นหนังแท้ และกระตุ้นให้คอลลาเจนหดตัวเพียงชั่วคราว ส่งผลให้ผิวหน้ากระชับ ริ้วรอยลดลง หน้าขาวใส ทาครีมอะไรก็สวยเด้งไปหมด สักพักทุกอย่างกลับคืนดังเดิม อ้าว! แล้วครีมที่เราทาลงไปมิได้ช่วยชะลอความชราของใบหน้าเลยหรือนี่ คิดได้ดังนั้น จึงเริ่มต้นศึกษาหาข้อมูลว่า ส่วนประกอบ(ingredients)แต่ละตัวที่ล้ำค่าผสมอยู่ในเครื่องสำอางนั้น ซึ่งใส่มาให้แค่วิญญาณ(ปริมาณน้อย ดูได้จากการเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ตัวที่มีผลเลิศกับผิวจะอยู่กลางๆ ค่อนไปท้ายหรือบางทีไม่มีเลย) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเฉยๆ,บำรุงล้ำลึกหรือแค่เคลือบผิวให้อุดตัน (เกิดสิวอักเสบ)กันแน่

                  บางแบรนด์ โม้มาได้ว่า ทาครีมที่เต็มไปด้วย silicone จะช่วยลดริ้วรอยซึ่งอ่านจากส่วนผสมแล้วไม่น่าเป็นไปได้ เพราะไม่ได้มีส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์ (active ingredients) ช่วยในการลดริ้วรอยได้เลย ประกอบกับได้ทดลองทาครีมที่หลังมือ พอเกลี่ยครีมเสร็จ อุ๊ย! ทำไมหลังมือเรียบขึ้น จึงได้คิดเพ้อฝันไปว่า ครีมตัวนี้จะช่วยปัดริ้วรอยใต้ตาให้หายวับได้แน่นอน ว๊าว! แต่แป้งก็อยากลองนะคะ จัดมาเลย 3 หลอด แค่บีบครีมที่เหนียวข้น เกลี่ยครีมยากเหลือเกิน ป้ายลงใต้ตา วินาทีที่ครีมพยายามแทรกซึมลงผิว แป้งรู้ได้เลยทันที เวรกรรม! หลอกกันนี่หว่า

                   เป็นที่มาของการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับส่วนผสมที่ลดเลือนริ้วรอยได้จริงๆ หลังจากได้ข้อมูลมากพอ จึงสรุปได้ว่า ครีมเคาน์เตอร์แบรนด์ ใช้ผลการทดลองในห้องปฎิบัติการมาเป็นมาตรวัดว่าใช้ครีมบำรุงแล้ว ริ้วรอยจางลง สีผิวสม่ำเสมอ รูขุมขนกระชับขึ้น บลาๆๆ ซึ่งผลการทดลองทางคลีนิกใช้กลุ่มตัวอย่างน้อยเกินไปด้วยซ้ำ (บางแบรนด์ใช้แค่20-80คน ซึ่งส่วนใหญ่ให้คะแนนความพึงพอใจ จากการสะกดจิต คิดไปเองทั้งนั้น ) แต่พอเรานำมาใช้ในสภาพผิวปกติหรือผิวที่ย่ำแย่ ชำรุดทรุดโทรม ประกอบกับวัยที่โรยรา หาได้เกิดประโยชน์กับผิวแต่อย่างใด อีกทั้งต้นทุนผิวก็ไม่ได้ดีเด่อยู่แล้ว จึงได้มองหาส่วนประกอบที่สามารถชุบชีวิตผิวใหม่ ถึงแม้จะไม่เทียบเคียงเลเซอร์ แต่กลับทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างผิวชนิดที่ไม่เคยได้รับจากครีมบำรุงใดๆ มาก่อนเลย

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เลือก skincare อย่างไรดีให้เห็นผลเลิศและคุ้มค่าเงิน ตอนที่2

 
                             
พูดถึง mineral oil ในแง่ของการซึมซาบเข้าสู่ผิวหนัง แค่เคลือบผิวหน้าไว้เฉยๆ ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นแต่ประการใดทั้งสิ้น แถมยังล้างออกให้สะอาดยากเสียอีก เนื่องจากมีโมเลกุลใหญ่มาก จะตกค้างอยู่บนใบหน้าของเรา นานวันเข้า พอออกนอกบ้านถูกแสงแดด ใบหน้าจะแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ส่งผลให้เกิด กระ ฝ้า ตามมาในที่สุด เพราะ mineral oil เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ผิวแห้งมากขึ้น จากการที่ผิวหายใจไม่ออก และจะแห้ง(เหี่ยว)ในระยะยาวอีกด้วย ว๊าย! นอกจากทำให้เกิดผดผื่นแพ้ ระคายเคือง อุดตันรูขุมขน ทำให้สิวอักเสบไม่พอนะเนี่ย 
                            
 mineral oil ไม่ได้มีข้อดีเลย ทำไม? นายทุนผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องสำอางทั่วโลกถึงยังนิยมผสมลงในเครื่องสำอาง ไม่เว้นแม้กระทั่ง baby lotion ของเด็กทารก โถ!! ช่างไม่สงสารเด็กบ้างเสียกระไร มีเหตุผลเดียว คือ ราคาถูกมาก แต่จะว่าเค้าไม่ได้หรอก เราไปซื้อของเค้ามาใช้เองต่างหาก
                           
 หันมาดูบ้านเราบ้างนะคะ เป็นที่นิยมอย่างมากในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกชนิดเพราะมันเคลือบผิวไว้ จึงรู้สึกอ่อนนุ่ม เลยพากันคิดว่าถนอมผิวหน้า ลองพลิกดูส่วนผสมแทบทุกไลน์เครื่องสำอาง มี mineral oil ทั้งสิ้น ใน primer  รองพื้น ครีมบำรุงผิว แป้งฝุ่น รวมถึง cleansing oil ด้วย และอีกเยอะค่ะ
                           
mineral oil,petrolatum,paraffin,liquidum paraffinum ทั้ง 4 ตัวนี้ มีความหมายอย่างเดียวกัน เป็นผลพลอยได้จากการสกัดน้ำมันปิโตรเลียม ในอุตสาหกรรมพลังงานทั้งสิ้น เพียงแต่ต่างกันแค่รูปลักษณ์ เท่านั้นเอง
                          
  ที่จริงมีสารสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติมากมายที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอดภัยกับผิว เช่น jojoba oil,sweet almond oil,olive oil,macadamia oil,avocado oil,argan oil ฯลฯ แต่มีราคาสูง พลอยทำให้ต้นทุนสูงตามไปด้วย หากดีต่อผิวจริง แป้งก็ไม่ลังเลที่จะซื้อนะคะ
                          
 cleansing oil ยี่ห้อดัง แป้งใช้ของเค้าตั้งหลายขวด ช่วงนั้นทำเลเซอร์ รูขุมขนจึงเล็ก สิวจึงไม่ปะทุ แต่จะมีมาตลอด ต้องไปฉีดสิวทุกอาทิตย์ มาวันหนึ่ง เกิดเอะใจ จึงพลิกอ่านส่วนผสมด้านหลังกล่อง แม่เจ้า! mineral oil เต็มๆ (ส่วนประกอบในเครื่องสำอางจะเรียงลำดับส่วนผสม จากมากไปหาน้อย)

 เจอล่ะ ต้นเหตุของสิวอักเสบ มิน่า! ตอนล้างหน้าก็นุ่มดีอยู่หรอก พักเดียวเท่านั้นแหละ แค่เดินจากห้องน้ำ เอาตูดหย่อนลงเก้าอี้แต่งตัว ทำไมหน้าถึงได้แห้งตึงยังกะทะเลทรายซาฮาร่าอย่างนี้ สงสัยมาตั้งนานแล้ว จากนั้นมา ลาขาดเลยค่ะ ไม่ว่าจะซื้อเครื่องสำอางที่ไหน ไม่เว้นต่างประเทศ 

แป้งจะยืนพินิจพิจารณาส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงเสมอ เป็นสิทธิประโยชน์ของตัวเรา หากเราไม่อ่านให้ละเอียด ผลเสียจะตกอยู่กับใบหน้าและร่างกายของเรา ใครก็ช่วยเราไม่ได้ หากเราไม่ช่วยตัวเองเสียก่อน
                          
 ว่าไป แป้งก็เกือบแล้วเช่นกัน เคยอยากใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบรนด์ชั้นสูง ขวดล่ะเกือบหมื่นบาท โชคดีมากๆที่แป้งเผอิญได้ tester มาจากการตัดคูปองจากนิตยสารชื่อดัง ปกติยี่ห้อนี้ไม่เคยให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้เลยนะคะ เค้าขายดีอยู่แล้ว แป้งรีบพลิกอ่านส่วนประกอบด้านหลังซอง อ๊าก! มี mineral oil อยู่ด้วย แต่ราคาแพงขนาดนี้ น่าจะเป็น mineral oil เกรดสูงนะ(คิดเอาเอง)
                          
ช่วงต้นปีที่แล้ว แป้งไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้-ฮาร์บิ้น โดยเฉพาะที่ฮาร์บิ้นมีอุณหภูมิ-35 องศาเซียลเซียส พื้นที่ติดชายแดนรัสเชียแถมได้อิทธิพลลมหนาวจากเทือกเขาไซบีเรียอีกต่างหาก หนาวเย็นได้อีกค่ะ อากาศแห้งมาก คนที่มีผิวแห้งถึงกับจมูกลอกเลยค่ะ แต่ในโรงแรมติดฮีตเตอร์(เครื่องทำความร้อน) ค่อยยังชั่วหน่อย 

ก่อนนอนแป้งควัก tester ครีมที่ได้มาทาหน้า เผอิญมันเหลือ จึงทาหน้าให้แฟนด้วย แฟนแป้งเป็นคนเชื้อสายจีน ผิวละเอียดมาก พอตื่นขึ้นมา คุณพระคุณเจ้า! แป้งมีสิวรอบคาง 3 เม็ด ส่วนแฟนมีสิวที่ข้างแก้ม 1 เม็ด แป้งรีบขอโทษขอโพยแฟนยกใหญ่
                          
ตัวสุดท้ายที่จะพูดถึงคือ lanolin สารสกัดที่ได้จากน้ำมันหล่อเลี้ยงขนแกะ มีความอ่อนนุ่ม ซึ่งปกป้องขนแกะไม่ให้แห้งกรอบจากสภาพแวดล้อมและอากาศที่หนาวเย็น ส่วนใหญ่จะมาจากนิวซีแลนด์ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี จำเป็นต้องรักษาความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิว lanolin จึงมีปริมาณน้ำมันมาก พลเมืองเค้ามีรูขุมขนเล็ก จึงไม่เกิดปัญหาสิวแต่อย่างใด 

บ้านเราอากาศร้อน พอต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ ขับน้ำมันออกมาบวกกับ lanolin จึงเกิดการอุดตันผิว สิวระเบิดอย่างช่วยไม่ได้ แต่ในคนผิวแห้ง กลับชอบค่ะเพราะ lanolin เหนียวข้น ผิวจึงอ่อนนุ่มขึ้นตั้งเยอะ ในเคาน์เตอร์แบรนด์หรูจะเคลมว่า ไม่มีส่วนผสมของ lanolin นะจ๊ะแต่ผสม petrolatum แทน(แป้งเคยอ่านส่วนผสม เลยเติมให้เองค่ะ) เนื่องจาก lanolin มีราคาถูกมาก จึงเป็นส่วนผสมในครีมบำรุงผิวหลายๆแบรนด์ ในบ้านเราด้วย หนุ่มสาวผิวมัน รูขุมขนกว้าง ระวังให้ดีค่ะ
                         
 อยากบอกว่า ใบหน้าของเรามีค่ามากนะคะ จะเลือกใช้ครีมอะไรก็ตามที ให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่เป็นมิตรกับผิว โดยเฉพาะทั้ง 5 ส่วนผสมนี้ ส่วนประกอบอื่นๆ อ่านไม่ออก ไม่เป็นไร ให้มองหา จารึกหัวใจอัคนีทั้ง 5 (ติดละครเย็นช่อง 7 เรื่อง มนต์รักแก้บน ฮามากๆ ชอบเด็กผมทรงกะลาครอบที่สุด) หากไม่ได้มีผิวแห้ง รูขุมขนเล็ก กรุณาเดินผ่านไป มิฉะนั้น สิวจะมาเยือนท่านก่อน แล้ว กระ ฝ้า ตามมาสมทบภายหลัง เวลาจะซื้อครีมอะไรมาโบกหน้า คิดนิดนึง คุ้มมั๊ยเนี่ย?   

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เลือก skincare อย่างไรให้ได้ผลและคุ้มค่าเงิน ตอนที่1


  ผิวหน้าผู้หญิงแม้กระทั่งผู้ชายจำเป็นต้องทาครีมบำรุง 
เพื่อให้ความชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่จะเลือกอย่างไรดีและไม่ให้เป็นสิว 
ยิ่งสมัยนี้เลือกยากเข้าไปใหญ่ 

ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยเติบโตปีละ20%
 ส่งผลให้มีเครื่องสำอางน้องใหม่พาเหรดกันเข้ามาให้เราเลือกซื้อกัน
ไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียว
 แบรนด์ที่มีอยู่แล้ว ยังลองใช้ไม่หมดทั้งเคาน์เตอร์เลย ขยันออกไลน์
ใหม่ๆ มายั่วใจผู้หญิงที่รักสวยรักงามเสียจริงๆ                           
ก่อนอื่น เรามารู้จักสภาพผิวก่อนดีกว่ามั๊ยค่ะ มีอยู่หลายแบบ 
ตั้งแต่ ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสมและผิวแพ้ง่าย 
สาวเกาหลีส่วนใหญ่มีผิวธรรมดาชนิดเนียนละเอียด รูขุมขนเล็กมาก
  ซึ่งเป็นผลมาจากDNA (รหัสพันธุกรรม) เป็นตัวกำหนดต่อมไขมัน
และสีผิว อีกทั้ง บ้านเมืองเค้ามีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
 แดดก็ไม่ค่อยมี ผิวพรรณขาวใส โดดเด่นเหลือเกิน
 ยิ่งอากาศแห้งมากเท่าไหร่ จึงต้องเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าอยู่เสมอ 
ครีมบำรุงจึงมีส่วนผสมของน้ำมันปริมาณมากมาย
 นี่เป็นที่มาของผิวหน้าสวยเด้งของสาวเกาหลี อากาศเมืองไทย
มีแค่ 3ฤดูเท่านั้นนะคะคือ ร้อน,ร้อนมากและร้อนฉิบหาย  

 แต่สาวไทยบ้านเราเข้าใจผิดอย่างมหาศาล ผิวหน้ามัน
แถมรูขุมขนกว้างเป็นอุกกาบาต พากันแห่ไปซื้อครีมที่ผลิตในเกาหลี
มาใช้ ทาไปได้ไม่กี่ชั่วโมง เยิ้มไหลย้อยเลยค่ะ 

ยิ่ง ฤดูฝนบ้านเรา จะทำให้ ความชื้นในอากาศมีมากกว่าปกติ
 เวลาทาครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จะทำให้ซับมันกันทั้งวันเลย 
บางคนถึงกับอุดตัน สิวขึ้นก็มีไม่น้อย
                          
 พูดถึงเรื่องสิว เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ(ลงโทษ)แล้วนะคะ
 แต่เป็นสิ่งที่เราทำให้เกิดเองต่างหาก

แป้งมีฮอร์โมนแอนโดรเจนในตัวเยอะมาก เพราะผิวหน้าและผิวกาย 
มันไปหมด ข้อดีคือไม่แก่ ไม่เหี่ยวง่าย
เพราะมีน้ำมันเคลือบผิวตามธรรมชาติมาก จึงทำให้แลดูแก่ช้า

 ยังนึกเลยว่า จะต้องมีสิวตลอดชีวิตแน่นอน 
พราะแม่ของแป้งขนาดหมดประจำเดือนแล้ว ยังมีสิวประปราย 
ไม่อยากเชื่อเลย แป้งจะต้องมีชะตาผิวแบบแม่

 แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะแป้งมีแค่สิวผดเม็ดเล็กๆนิดเดียว 
สิวอักเสบไม่มีเลยค่ะ แถมหน้าขาวใสด้วยนะคะ
 คาดว่าน่าจะเกิดจากการกินวิตามินและเลือกครีมทาผิว
ให้เหมาะกับใบหน้า สิวจึงไม่มากวนใจ เย้! รอดจากการเป็นสิวแล้วเรา
                          
 เวลาเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหน้า จะต้องอ่านส่วนประกอบ
ว่าไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดสิว ส่วนใหญ่ชื่อส่วนผสมจะเป็นชื่อทางเคมี 
อ่านออกแต่แปลไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
 หรืออ่านไม่ออกก็ไม่ต้องไปสนใจ ให้มองหาชื่อสารต่อไปนี้ก็พอ
 แล้วจงหลีกเลี่ยงนะคะ
                          
 1.mineral oil
                          
 2.petrolatum
                           
 3.paraffin
                          
 4.liquidium paraffinum
                          
 5.lanolin
                          
 mineral oil คือ สิ่งสุดท้ายหรือผลพลอยได้
จากการทำน้ำมันปิโตรเลียม หากจะกำจัดสารเหล่านี้ทิ้ง 
มีต้นทุนที่สูงมาก 

อุตสาหกรรมน้ำมันจึงนำมาขายยังได้ราคาดีกว่าเสียอีก 
ทั้งมีราคาถูกมาก ไม่เน่า ไม่มีกลิ่นหืน ไม่มีวันหมดอายุ
 มักนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและอุตสาหกรรมยา
ที่เป็นครีมหรือเจล(สังเกตุได้จากเวลาทายาที่เป็น
ครีมนวดคลายกล้ามเนื้อ หากบีบยามาเยอะ
 นอกจากยาจะไม่ซึมเข้าสู่ผิวหนังแล้วยังกลายเป็นขี้ไคลอีกต่างหาก)                                                                                                                                                                                            
                           
 แต่ในบทนี้เราจะพูดในแง่ของ mineral oil 
ที่ถูกนำมาผสมในเครื่องสำอางทั่วโลก มีทั้งแบรนด์ราคาถูก
และราคาแพง เนื่องจากมีคุณสมบัติเคลือบผิว
 ทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม แต่ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นผิวแต่ประการใด
 เปรียบได้กับฟิล์มบางๆเคลือบผิว
(ผิวหนังทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียออกมาในรูปเหงื่อ) 

แต่พอเราทาครีมหรือโลชั่นที่ผสม mineral oil 
จะทำให้ผิวหนังหายใจไม่ออก ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น
 ประกอบกับอากาศร้อน ต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ 
ทั้งน้ำมันและเหงื่อรวมตัวกัน จึงรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ 
น่ารำคาญไปหมด
                           
 ความรู้สึกเช่นนี้ จะไม่เกิดกับคนที่มีสภาพผิวแห้ง
เพราะต่อมไขมันทำงานน้อยกว่าผิวชนิดอื่นๆ
 กลับชื่นชอบเสียอีก(มั๊ง)ค่ะ



ใบหน้าที่สวยงามคือประตูที่เปิดกว้างไปสู่โอกาสที่มากกว่า 
แต่สิ่งที่จะพาคุณก้าวขึ้นบันไดขั้นสูงสุดได้นั้นจะควบคู่ไปกับ
 ความสามารถ ความฉลาด บุคลิกภาพ ความเชื่อมั่นในตัวเอง
 และการมองโลกในแง่ดี 

แป้งมีรูปหน้ากลมผสมเหลี่ยม เมื่อครั้งไปทำเลเซอร์
 พนักงานที่คลีนิกชวนให้ฉีดโบทอกซ์เพื่อลดกราม ทำให้หน้าเรีย
ว แป้งตอบไปว่า โอว!ไม่ค่ะ คุณน้องขา พี่ภูมิใจม๊าก
ที่หน้าเหลี่ยมเหมือน แองเจลิน่า โจลี่ 
ดาราระดับเอลิสต์ของ hollywood

 พี่ไม่อยากหน้าเรียวเหมือนสาวเกาหลีหรอกค่ะ
 มันไม่อินเตอร์เนชั่นแนล อีกอย่าง หน้าตอบมากๆ
 ดูไม่มีราศีเอาเสียเลย เวลาถ่ายรูปก็เฉดดิ้ง เอียงหน้า 
แค่นี้ก็งามแล้วจ้า 

เรื่องเล่าจากผลข้างเคียงของยา

หนึ่งในเหตุผลที่แป้งจะไม่ใช้ยารักษาโรคที่ไม่ซับซ้อนเป็นตัวเลือกแรกเพราะเคยพบเจอกับผลข้างเคียงหลายอย่าง  ดังนั้นวิตามินจึงเป็นตัวเลือกอันดับห...

บทความยอดนิยม