บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ข้อควรระมัดระวังในการดื่มเวย์โปรตีน

เวย์โปรตีน(Whey protein)คือ ของเหลวที่แยกออกจากนมในระหว่างการผลิตชีส เป็นผลพลอยได้จากการทำชีส จัดเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ เนื่องจากมีกรดอะมิโนจำเป็นครบทั้ง 9 ชนิด 

มีปริมาณแลคโตสต่ำ 


เวย์โปรตีนเป็นอาหารเสริมที่นิยมใช้ควบคู่กับการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน( Resistance Training )คือ การออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักหรือเครื่องมือช่วย เพื่อสร้างความแข็งแรงและเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ


เวย์โปรตีนแบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลัก ได้แก่ 


1.เวย์โปรตีนคอนเซนเตรท (whey protein concentrate) เป็นเวย์โปรตีนที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดาผงเวย์โปรตีนทั้ง 3 ชนิด มีปริมาณโปรตีนอยู่ระหว่าง 58-89% ไขมันและแลคโตส

มักพบเป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มโปรตีน โปรตีนอัดแท่งและผลิตภัณฑ์ทางโภชนาการหลายชนิด นอกจากนี้ยังใช้ในนมผงสำหรับทารกอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ 


2.เวย์โปรตีนไอโซเลท(whey protein isolate) เป็นเวย์โปรตีนที่มีระดับความเข้มข้นของเวย์โปรตีนอยู่ที่ 95% โดยมีแลคโตสและไขมันต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเพื่อควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตและไขมัน รวมถึงต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้กระชับขึ้น เวย์โปรตีนไอโซเลทอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตส แต่ไม่เหมาะหากแพ้นมวัว


3.เวย์โปรตีนไฮโดรไลเสท(whey protein hydrolysate) เป็นเวย์โปรตีนที่มีระดับความเข้มข้นของเวย์โปรตีนสูงที่สุดถึง 99%และมีราคาแพงที่สุดในบรรดาเวย์โปรตีนทั้งหมด 


เวย์ไฮโดรไลเสทเป็นเวย์โปรตีนที่ย่อยง่ายที่สุด เนื่องจากสายโปรตีนยาวๆ ที่เรียกว่าเปปไทด์ จะถูกย่อยให้สั้นลงก่อน จึงง่ายต่อการดูดซึม จัดเป็นเวย์โปรตีนที่ดีที่สุด มักพบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทางการแพทย์สำหรับภาวะขาดสารอาหาร


หมายเหตุ 

เวย์โปรตีนสำหรับเพิ่มน้ำหนักโดยเฉพาะ จะมีมอลโตเด็กซ์ตริน(Maltodextrin)เป็นส่วนประกอบหลัก ~69% ที่เหลือจะเป็นเวย์โปรตีนคอนเซ็นเตรทและอื่นๆ ปริมาณ 1 สกู๊ป(168กรัม)ให้โปรตีน 25 กรัม พลังงาน 625 แคลอรี่


ประโยชน์ที่ได้รับจากการบริโภคเวย์โปรตีนคุณภาพสูงในปริมาณเหมาะสมมีดังนี้


1.ช่วยลดน้ำหนัก เวย์โปรตีนคุณภาพสูง 1 สกู๊ป(31 กรัม)

ให้โปรตีน 25 กรัม พลังงาน 120 แคลอรี่ ช่วยในการลดไขมันในร่างกายและรักษามวลกล้ามเนื้อให้ดีขึ้น เวย์โปรตีนมีคาร์โบไฮเดรตต่ำแต่มีโปรตีนสูง ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน


จากการศึกษาพบว่า เวย์โปรตีนช่วยให้อิ่มท้อง ช่วยควบคุมความอยากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ไขมันในปริมาณน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละวัน


2.ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ 


เมื่อเราอายุมากขึ้น ไม่ว่าเพศชายหรือหญิงมวลกล้ามเนื้อจะลดลงตามธรรมชาติ เวย์โปรตีนอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่เสียหายและเสริมสร้างกล้ามเนื้อใหม่ 


3. ช่วยเพิ่มพลังงานขณะออกกำลังกายโดยไม่ทำให้เหนื่อยง่าย

4.ช่วยเพิ่มระดับกลูตาไธโอนในร่างกาย

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารที่ทำหน้าที่ต่อต้านการเกิดออกซิเดชันในร่างกาย เนื่องจากปฏิกิริยานี้ทำให้เกิดอนุมูลอิสระของสารต่างๆ ได้มากมายหลายชนิด จึงลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ


สารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในร่างกายคือ กลูตาไธโอน การผลิตกลูตาไธโอนขึ้นอยู่กับการรวมตัวของกรดอะมิโนหลายชนิด เช่น ซิสเทอีน ซึ่งบางครั้งมีปริมาณจำกัด ดังนั้นอาหารที่มีซิสเทอีนสูง เช่น เวย์โปรตีน อาจช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติของร่างกาย


5.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี(HDL)

การศึกษาหนึ่งในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน บริโภคเวย์โปรตีน 65 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่า ช่วยลดคอเลสเตอรอลรวมและ LDL (ไขมันเลว)ลงอย่างมีนัยสำคัญ


6.ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

7.ช่วยลดระยะเวลาการฟื้นตัวและอาการที่มาพร้อมกับการออกกำลังกายมากเกินไป เช่น กรดแลคติกคั่งในกล้ามเนื้อ 


ขณะที่เราออกกำลังกายอย่างหนัก กล้ามเนื้อจะมีการดึงเอาออกซิเจนมาใช้เป็นพลังงานในการเคลื่อนไหว ทำให้เกิด

กรดแลคติก (Lactic Acid) ที่เป็นของเสียจากกระบวนการดึงพลังงานมาใช้ เมื่อมีมากในกล้ามเนื้อจะส่งผลให้เกิดความปวดเมื่อยล้า หากมีมากจนร่างกายรับไม่ไหว อาจทำให้เกิดตะคริวได้ แต่กรดแลคติกจะสามารถสลายตัวได้ เมื่อกล้ามเนื้อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ


ผลข้างเคียงหากรับประทานเวย์โปรตีนมากเกินไป

1.อาจทำให้เกิดนิ่วในไต

เมื่อเรากินเวย์โปรตีน มีความเสี่ยงที่จะเกิดนิ่วในไต ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรง  จึงควรรับประทานใยอาหารและน้ำในปริมาณที่เพียงพอ


2. แลคโตส(Lactose)มีอยู่ในเวย์โปรตีน หากมีความไวต่อแลคโตส อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องการย่อยอาหารได้  เวย์โปรตีนไอโซเลทจะทำลายแบคทีเรียที่ดีในลำไส้และอาจทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องอืดและปวดท้อง


3. ความเสี่ยงของโรคเกาต์

ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานว่า เวย์โปรตีนเป็นสาเหตุโดยตรงของโรคเกาต์ แต่อาจทำให้เกิดปัญหาได้ หากมีประวัติเป็นโรคเกาต์

ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานเวย์โปรตีน 


4. ปัญหาเกี่ยวกับไต

การบริโภคเวย์โปรตีนมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับไต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทาน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของไตในระยะยาว


5. ปัญหาเกี่ยวกับตับ

การบริโภคเวย์โปรตีนมากเกินไป อาจทำให้การทำงานของตับแย่ลง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเวย์โปรตีน เนื่องจากอาจลดประสิทธิภาพของยารักษาตับ


6. ความเสี่ยงของโรคหัวใจ

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การบริโภคเวย์โปรตีนมากเกินไปอาจส่งผลอันตรายต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นผิดปกติ 


7. ความเป็นกรดในเลือดเพิ่มขึ้น

ผลข้างเคียงของการบริโภคเวย์โปรตีนคือ ค่า pH ในเลือดเพิ่มขึ้น เมื่อมีโปรตีนในเลือดมากเกินไป ไตจะมีปัญหาในการเผาผลาญโปรตีน ส่งผลให้ความเป็นกรดในเลือดเพิ่มขึ้น


8. เพิ่มความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

ความผิดปกตินี้เชื่อมโยงกับการบริโภคเวย์โปรตีนมากเกินไป

ทำให้เกิดอาการปวดข้อเมื่อรับประทานโปรตีนเป็นเวลานาน 

และอาจทำให้แร่ธาตุในกระดูกไม่สมดุล มีผลให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง


9.เกิดความอ่อนเพลีย

ปัญหาของระบบย่อยอาหารในบางคนต้องเผชิญเมื่อบริโภคเวย์โปรตีน เช่น เหนื่อยง่าย ไร้เรี่ยวแรง อาจมีอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหาร ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยสลายโปรตีนได้


10.อาจเร่งกระบวนการคีโตซีส

เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อระดับคีโตนในร่างกายผิดปกติ หากควบคุมอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและมีโปรตีนสูง พลังงานจะถูกเผาผลาญในร่างกายโดยใช้ไขมัน เมื่อไม่มีไขมันก็ใช้โปรตีน ทำให้ตับทำงานหนักขึ้นและอาจทำให้ตับถูกทำลายเมื่อเวลาผ่านไป


11.ท้องร่วง

อาการท้องร่วง เป็นผลกระทบของโปรตีนต่อระบบย่อยอาหาร อาจมีเลือดปนอยู่ในอุจจาระ โดยเฉพาะในเด็กทารก


12. หายใจดังเสียงครืด

หลายๆ คนมักมีอาการแพ้เวย์โปรตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่แพ้แลคโตส อาจหายใจลำบากร่วมด้วย 


13.คลื่นไส้

เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการรับประทานเวย์โปรตีน บางครั้งอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย 


14.การบริโภคเวย์โปรตีนในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดสิวได้


เวย์โปรตีนมีประโยชน์ หากเป็นนักกีฬาที่สร้างกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยที่มีภาวะทุพโภชนาการ หรือผู้สูงอายุ แต่คนส่วนใหญ่ได้รับโปรตีนเพียงพอในแต่ละวัน


ร่างกายมนุษย์ปกติสามารถใช้โปรตีนได้ครั้งละ 30-40 กรัมเท่านั้นแม้ว่าจะพยายามเพิ่มปริมาณการดื่มเวย์โปรตีน แต่การได้รับปริมาณที่มากกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์ ยกเว้นผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อเร่งด่วน คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเวย์โปรตีนเสริม หากรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว






ที่มา : 


15 Side Effects Of Whey Protein You Should Be Aware OfStyleCrazehttps://www.stylecraze.com › articles › u...


Whey protein: Health benefits, side effects, and dangersMedical News Todayhttps://www.medicalnewstoday.com › art...


10 Evidence-Based Health Benefits of Whey ProteinHealthlinehttps://www.healthline.com › nutrition


Whey Protein: Health Benefits and Potential Side EffectsCleveland Clinic Health Essentialshttps://health.clevelandclinic.org › is-whe...


ออกกำลังกาย...ให้หัวใจกันเถอะ | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospitalpaolohospital.comhttps://www.paolohospital.com › Article › Details › ออ...

วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566

ฝากล่อง Super Lock หัก อย่าเพิ่งทิ้งนะคะ

 ฝากล่อง Super Lock หัก อย่าเพิ่งทิ้งนะคะ
สามารถเคลมได้ตลอดอายุการใช้งาน(เฉพาะรุ่นที่ผลิตจำหน่ายเท่านั้น)

ทัพเพอร์แวร์ (Tupperware) เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงจากการผลิตผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในครัวเรือน โดยเฉพาะกล่องพลาสติกสำหรับใส่อาหาร ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมาตั้งแต่ช่วงปี 1950 - 1960 เป็นต้นมา จนคำว่า “ทัพเพอร์แวร์” กลายเป็นคำที่ใช้เรียกกล่องใส่อาหารที่ทำจากพลาสติก แม้ว่าจะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์
ทัพเพอร์แวร์ก็ตาม

Tupperware Corporation เป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่ผลิตสายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้านซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ในครัว อุปกรณ์เตรียมอาหาร ภาชนะจัดเก็บ และผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในครัวและในบ้าน

ช่วงทศวรรษ 1930 สหรัฐอเมริกาและทั่วโลกกำลังเผชิญเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ Mr.Earl Tupper ไม่ใช่แค่ต้องพยายามหาเลี้ยงชีพเหมือนเพื่อนร่วมชาติ แต่ต้องหาทางลุกขึ้นใหม่ให้ได้เพราะบริษัทที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งเพิ่งล้มละลายไป

ผู้ก่อตั้งคือ Earl Tupper(เอิร์ล ทัพเพอร์) เขาเริ่มต้นใหม่ด้วยการไปสมัครเป็นพนักงานของ DuPont บริษัทใหญ่ด้านเคมีของสหรัฐฯ หลังกลับบ้านทุกวันเขามานั่งคิดว่าจะนำเศษพลาสติกเหลือใช้ที่หัวหน้าให้มาไปต่อยอดอะไร โดยเขาลองนำเศษพลาสติกไปหลอมและขึ้นรูปเป็นกล่องน้ำหนักเบาพร้อมฝาปิด

เมื่อเห็นว่ากล่องพลาสติกเหล่านี้น่าจะขายได้ Earl Tupper ก็ออกลาจาก DuPont และตั้งบริษัทขึ้นเมื่อปี 1946 ในชื่อ Tupperware ซึ่งมาจากนามสกุลตัวเอง ที่แปลตรง ๆ ว่า ภาชนะ (Ware) ของ Tupper นั่นเอง

กล่องพลาสติกใส่อาหารชื่อดังในไทยที่คุ้นเคยดี มีทั้งแบรนด์ Super Lock และ Lock & Lock

สองแบรนด์ที่มีความคล้ายคลึงด้านชื่อที่มีคำว่า Lock เหมือนกัน

1.แบรนด์ Super Lock เป็นแบรนด์กล่องบรรจุอาหารจากประเทศไทย

แบรนด์ Super Lock มีต้นกำเนิดจากการพัฒนาต่อยอดของธุรกิจโรงงานทำพลาสติก หจก. เจ ซี พี พลาสติก ของตระกูล เจริญจิตมั่น ที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2522

ในอดีต หจก. เจ ซี พี พลาสติก รับทำ OEM ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก โดยมีตลาดหลักคือ บริษัทญี่ปุ่น ก่อนที่จะต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกแบรนด์ตัวเอง จากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ

จนในปี 2549 หจก. เจ ซี พี พลาสติก เปิดตัวกล่อง Super Lock กล่องเก็บอาหารที่นำเทคโนโลยีล็อก 2 ชั้น ป้องกันอากาศจากภายนอกสู่ภายใน พร้อมเทคโนโลยีป้องกันแบคทีเรีย(Microban)จากสหรัฐอเมริกาออกมาทำตลาด ในราคาที่ถูกกว่ากล่องประเภทเดียวกันจากต่างประเทศ

2.แบรนด์ Lock & Lock เป็นแบรนด์จากประเทศเกาหลี มีต้นกำเนิดจาก บริษัท Established Kukjin Retail ที่ก่อตั้งในปี 2521
โดยบริษัท Established Kukjin Retail ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Hanacobi ในปี 2537

และในปี 2542 บริษัทได้เปิดตัวกล่องบรรจุอาหารชื่อ Lock & Lock ที่มีจุดเด่นฝากล่องที่ปิดสนิททั้ง 4 ด้าน

ส่วนในประเทศไทยบริษัท ล็อกแอนด์ล็อก เข้ามาทำธุรกิจผ่านความร่วมมือระหว่างบริษัท ล็อกแอนด์ล็อก เกาหลี และ บมจ. ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ เปิดบริษัท ล็อกแอนด์ล็อก (ประเทศไทย) จำกัด
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Lock & Lock ทั้งกล่องบรรจุอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ในประเทศไทย

ในส่วนนี้จะกล่าวถึงเฉพาะแบรนด์ Super Lock ที่สามารถเคลมฝาได้ตลอดอายุการใช้งาน แป้งเปลี่ยนฝาที่หักโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เสียแค่ค่าลงทะเบียนไปรษณีย์เท่านั้น

มีขั้นตอนดังนี้
1.ทักแชทไปที่ https://www.facebook.com/superlockbymicronware/shop แจ้งว่า ‘’ฝาหัก ต้องทำอย่างไรบ้าง’’
2.จะมีแอดมินเพจ Super Lock by Micronware ส่งลิงค์ให้กรอกข้อมูลก่อนส่งฝาที่หักไปเคลม ซึ่งจะต้องส่งตัวล็อกฝาที่ชำรุดและฝากล่องที่เคลมมาด้วย
3.รอรับฝากล่องใหม่สวยๆส่งตรงบ้านได้เลย ใช้เวลา 45-60 วันแล้วแต่รอบการผลิต แต่รุ่นที่แป้งส่งไปเคลม ราว 1 เดือนเศษ ก็ได้รับฝากล่องอันใหม่แล้วคะ

หมายเหตุ
มีบางรุ่นที่ไม่สามารถเคลมได้ เนื่องจากเลิกผลิตไปแล้ว
ต้องเป็นฝากล่องรุ่นที่ยังจำหน่ายอยู่เท่านั้น กรุณาตรวจสอบรุ่นก่อนส่งเคลมนะคะ

อย่าลืม!!เพื่อป้องกันความผิดพลาด เราจะต้องกรอกรหัสของฝาที่จะเปลี่ยนทุกครั้ง

แป้งใช้ Super Lock มาร่วม 20+ปี แต่ไม่เคยเคลมเพราะมีกล่องหลายแบบหลายขนาด เลยไม่ค่อยได้ใช้งานทั่วถึง เพิ่งมาใช้บ่อยๆช่วงหลังนี่เอง ตอนแรกไม่รู้ว่าเคลมได้ ทิ้งไปบ้างก็มี รุ่นที่ส่งไปเคลมมี 2 ไซส์ จำได้ว่า ซื้อมาตอนลดราคา 50% คุ้มซะไม่มีคะ







ที่มา

Tupperware พลาสติกเหลือใช้ สู่กล่องอเนกประสงค์คู่ครัวทั่วโลกMarketeer Online https ://marketeeronline . co › archives

ทัพเพอร์แวร์ ผู้ผลิตกล่องใส่อาหารชื่อดัง เสี่ยงขาดสภาพคล่อง หลัง ...MarketThink https :// www . marketthink . co › ...



วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Green Antioxidant Complex สารต้านอนุมูลอิสระแห่งความเยาว์วัย

 ทุกวันนี้มนุษย์ต้องสัมผัสกับสารพิษมากกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งส่งผล
กระทบหลายอย่าง ตั้งแต่มลพิษจากการจราจร(PM 2.5) ควันบุหรี่ สารพิษปนเปื้อนจากยาฆ่าแมลงไปจนถึงโลหะหนัก  ฯลฯ

ระดับสารพิษตกค้างในร่างกาย หากสะสมต่อเนื่องยาวนานจะเชื่อมโยงโดยตรงกับความเสียหายของปอด( ผู้หญิงสูงอายุหลายคนตรวจพบมะเร็งปอด ทั้งๆที่ไม่เคยสูบบุหรี่และคนในบ้านไม่สูบบุหรี่ วันๆอยู่แต่ในบ้าน)ความเสียหายของไมโทคอนเดรีย โรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ ระบบภูมิคุ้มกัน การอักเสบ ฯลฯ

ดังนั้นการกินอาหารจากพืชหลากหลายชนิดแทนอาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันสูง ส่งผลให้การอักเสบลดลง นั่นคือพื้นฐานของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนหรืออาหารจากพืช

Green Antioxidant Complex ยี่ห้อ Esmeralde ผลิตในอเมริกา ประกอบด้วยส่วนผสมคุณภาพสูงจากพืชสีเขียวนานาชนิด เช่น Wheat Grass,Organic Barley Grass,Moringa,Broccoli Sprout,Kale สกัดรวมเป็นหนึ่งในเม็ดเดียว

มีส่วนประกอบสำคัญ ดังต่อไปนี้

1. Wheat Grass(ต้นอ่อนข้าวสาลี) ต้นอ่อนข้าวสาลีเมื่อถูกตัดแล้วจะกลายเป็นน้ำผลไม้หรือทำให้แห้งและบดเป็นผง เมื่อบริโภคแล้วจะมีรสชาติเหมือนดิน ประกอบด้วยเอนไซม์ กรดอะมิโน วิตามินและแร่ธาตุ รวมทั้งฟลาโวนอยด์ อัลคาลอยด์ แทนนิน มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีพลังงานเพิ่มขึ้น ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ 

เกษตรส่วนใหญ่นิยมปลูกข้าวสาลีเพื่อให้สัตว์กิน แต่ได้รับความนิยมในบทบาทอาหารเสริมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

2.Organic Barley Grass(หญ้าข้าวบาร์เลย์)มักถูกขนานนามว่าเป็น superfood และใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อเร่งการลดน้ำหนัก เสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน และบำรุงสุขภาพโดยรวม

หญ้าข้าวบาร์เลย์เป็นส่วนผสมในน้ำผลไม้และสินค้าเพื่อสุขภาพ มักผสมควบคู่ไปกับผักใบเขียวอื่นๆ เช่น คะน้า ผักโขม และต้นอ่อนข้าวสาลี

ข้าวบาร์เลย์มีวิตามินเอสูง เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การเติบโตของเซลล์ และการมองเห็น  นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีบทบาทสำคัญตั้งแต่สุขภาพผิว การรักษาบาดแผล ไปจนถึงสุขภาพช่องปาก

3.Moringa oleifera(มะรุม)เป็นพืชที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ประโยชน์ต่อสุขภาพอาจมีตั้งแต่การเร่งการสมานแผล กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและการอักเสบในบาดแผลที่ผิวหนัง รวมถึงเส้นใยมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยย่อยอาหาร อาจช่วยป้องกันลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผล เนื่องจากฤทธิ์ต้านการอักเสบ

สารสกัดจากมะรุมอาจช่วยรักษาความผิดปกติของกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ทำให้มะรุมเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาการท้องผูก

4. Broccoli Sprout(สารสกัดต้นอ่อนบรอกโคลี) รสชาติคล้ายกับหัวไชเท้า อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี แคลเซียม และไฟเบอร์สูงอย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงสารประกอบที่เรียกว่า กลูโคราฟานิน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของสารเคมีล้างพิษที่เรียกว่า ซัลโฟราเฟน

ในความเป็นจริง อาหารไม่มีซัลโฟราเฟนจริงๆ แต่มีกลูโคราฟานิน เมื่อกินเข้าไปจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตซัลโฟราเฟน ซัลโฟราเฟนเป็นสารประกอบพืชธรรมชาติที่อุดมด้วยกำมะถัน ซึ่งอยู่ภายใต้ตระกูลไอโซไทโอไซยาเนตและมักพบในผักตระกูลกะหล่ำ ซัลโฟราเฟนผลิตขึ้นเมื่อกลูโคราฟานินสัมผัสกับเอนไซม์ไมโรซิเนส ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาเมื่อผักเหล่านี้ถูกตัด สับ หรือเคี้ยว ซัลโฟราเฟนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านการเกิดมะเร็ง

ซัลโฟราเฟน(Sulforaphane)เป็นไฟโตนิวเทรียนท์(Phytonutreint)จัดอยู่ในกลุ่มของสารเคมีที่พบในอาหารจากพืชที่ช่วยลดการอักเสบ ปกป้องเซลล์จากความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น อาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็งและป้องกันโรคหัวใจ

บรอกโคลีและต้นอ่อนบรอกโคลี เป็นแหล่งของกลูโคราพานิน  ซึ่งกระตุ้นการผลิตซัลโฟราเฟน ผักตระกูลกะหล่ำอื่นๆ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และกะหล่ำดาว มีสารตั้งต้นของซัลโฟราเฟนเช่นกัน แต่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าบรอกโคลี

5.Kale(ผักเคล)เป็นพืชตระกูลคะน้า มีชื่อเรียกว่า คะน้าใบหยิก
ได้ฉายาว่า ราชินีผักใบเขียว เป็นผักที่แคลอรี่ต่ำแต่มีไฟเบอร์สูง 
มีวิตามินเค 684% วิตามินเอ 206% และ วิตามินซี 134% ต่อสัดส่วนร่างกายควรได้รับต่อวัน

ผักคะน้าอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีคลอโรฟิลล์สูง อาจช่วยให้ร่างกายลดการดูดซึมสารเฮทเทอโรไซคลิก อะโรมาติก เอมีน (heterocyclic aromatic amines) หรือสารก่อมะเร็งจากอาหารประเภทปิ้งย่างเข้าสู่ร่างกาย เต็มไปด้วยวิตามิน K, A ,C 
และแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ธาตุเหล็ก 

สารต้านอนุมูลอิสระและไฟโตนิวเทรียนท์ ช่วยปรับสภาพผิวพรรณ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ส่งเสริมการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยปลดปล่อยพลังงานจากอาหาร 

มีประโยชน์อย่างไร
1.เพิ่มระดับพลังงาน เมื่อระดับออกซิเจนหมุนเวียนสูงขึ้น ระดับพลังงานจะดีขึ้นและความแข็งแกร่งทางกายภาพจะเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย
2.จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระได้ด้วยการกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

ในความเป็นจริง ผู้ที่ได้รับเชื้อโรค เช่น ไวรัสหรือแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายและไม่มีอาการหากมีสุขภาพแข็งแรง แต่ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ(ภูมิแพ้) ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น อย่าง ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด ไซนัสอักเสบ  ฯลฯ

3.ปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหาร,ลดก๊าซในช่องท้องที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องอืด

4.ลดตาคล้ำได้เนื่องจากมีวิตามินเคสูง จึงเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ตา

5.มีฤทธิ์ลดการสะสมของแบคทีเรีย จึงลดการเกิดกลิ่นในร่างกายโดยเฉพาะที่อับชื้นได้ดี เช่น กลิ่นเท้า ลดกลิ่นเหงื่อ,กลิ่นปาก,กลิ่นลมหายใจ
6.มีส่วนช่วยระบบขับถ่าย จึงลดปัญหาท้องผูก
7.อุดมไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซี ส่งผลให้จุดด่างดำจางลงเร็วขึ้น
8.เพิ่มการไหลเวียนโลหิต มีผลทำให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์และเซลล์มีสุขภาพดีเมื่ออายุมากขึ้น ไม่เสื่อมโทรมไปตามวัย
9.ช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในผิวหนัง จึงทำให้ลดการเกิดสิวอักเสบและสิวหัวดำได้
10.หากรับประทานร่วมกับ Ester-c 1000 mg วันละ 1  เม็ด ช่วยทำให้ใบหน้าขาวใสขึ้น แลดูสุขภาพดี

หมายเหตุ
ผลข้างเคียง อาจท้องเสียหรือเป็นตะคริว

แป้งเริ่มกินวิตามิน Green Antioxidant Complex ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า-เย็น เป็นเวลา 3 เดือน สังเกตการเปลี่ยนแปลงดังนี้

1.เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ครีมบำรุงที่ใช้ประจำหมดเกลี้ยง เลยลองครีมตัวใหม่ วันรุ่งขึ้น มีสิวอักเสบขึ้นเหนือริมฝีปากซึ่งบริเวณนี้เนื้อเยื่อจะอ่อนกว่าส่วนอื่น ความจริงแป้งไม่เป็นสิวนานแล้ว เลยปล่อยเลยตามเลย พอสิวยุบภายใน 3-4 วัน รอยดำตามมาเช่นเคย แต่จางลงเร็วมากเมื่อเทียบกับในอดีต กล่าวคือ รอยดำจางลงภายใน 3 เดือนโดยที่แป้งไม่ได้ทายาลดสิว(5%Benzoyl peroxide)หรือยาลดรอยดำ(Skinoren)เลย ปกติรอยดำแบบนี้ ตั้งแต่อายุ 40+ปี จะอยู่ข้ามปีข้ามภพข้ามชาติเนื่องจากผิวเริ่มแห้งและระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจากวัยที่เพิ่มขึ้น รอยดำจึงไม่จางง่ายๆ เมื่อก่อนกลายเป็นกระเฉยเลยคะ

2.สังเกตว่า ใบหน้าเรียบเนียน ขาวใสขึ้น ทดลองให้แม่กิน ครบ 3 เดือน แม่บอกว่า ‘’หน้าขาวขึ้น สงสัยจะคิดไปเอง ‘’แป้งเลยตอบว่า 
‘’ไม่ได้คิดไปเองหรอกแม่ หนูก็หน้าขาวขึ้นเหมือนกัน’’

3.ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา ไม่เป็นสิวง่าย
ปกติเวลากินเค้กที่ทำเอง จะใช้เนยฝรั่งเศสยี่ห้อ President ซึ่งเป็นเนยคุณภาพสูง ไขมันมาเต็ม แค่ชิ้นเดียว วันรุ่งขึ้น สิวผดจะเริ่มมา พอกินเค้กติดต่อกัน 2 วัน จะมีสิวอักเสบเม็ดเล็กๆขึ้นตามไรผม เลยต้องหยุดกินไปโดยปริยาย แต่พอกินวิตามินตัวนี้ สังเกตว่า ไม่มีสิวขึ้นสักเม็ด  หน้าก็เกลี้ยงเกลาเชียวคะ

4.รู้สึกได้ถึงพลังงานที่เพิ่มขึ้น ปกติแป้งเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงและเหนื่อยง่ายจากพาหะธาลัสซีเมีย ช่วงอายุเริ่ม 40 ปีนี่เห็นได้ชัดเจนมาก เลยไม่ค่อยสนใจวิตามินเกี่ยวกับผิวพรรน ผิวดีหน้าสวยแต่ข้างในทรุดโทรมอยากมีพละกำลังมากกว่า จีงสรรหาวิตามินที่เพิ่มพลังงานมาตลอด 10 ปี

คนเราหากทำอะไรแล้วไม่เหนื่อยง่าย จะมีความสุขในการใช้ชีวิต
อยากทำนั่นโน่นนี่ ทำงานบ้านติดต่อกันหลายชม.จนเหงื่อท่วมยังไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายเหมือนย้อนวัยชัดๆ ต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องสรรหาวิตามินเพิ่มพลังงานหลายตัว พอมากินวิตามิน Green Antioxidant Complex คือ เอาอยู่เลยคะ

ไม่มีอาหารจากธรรมชาติหรืออาหารเสริมใดๆ  ที่สามารถทดแทนอาหารที่มีความสมดุลได้  หากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และรับประทานวิตามินเสริม เป็นทางเลือกที่ดีในการบูรณะร่างกายไม่ให้ระดับอนุมูลอิสระสูงต่อเนื่อง(ความเสียหายต่อ DNA จากกระบวนการทำงานของเซลล์ตามธรรมชาติ และความเสียหายเพิ่มเติมบางอย่างที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ความเครียดหรือการรับประทานอาหารที่ไม่ดี)จนเกิดความเสียหายต่อเซลล์ 

เริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ วันไหนๆเราจะแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ดีกว่าต้องไปนั่งรอหมอเพื่อรับยารักษาโรคที่โรงพยาบาลนะคะ





สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่

hamercandysiam.lnwshop.com

Tel .061-7429944
Line id : 0617429944








ที่มา :

Is Wheatgrass Worth the Hype? 7 Benefitsclevelandclinic . org https:// health . clevelandclinic . org › is-whe...

Barley Grass: Benefits, Uses, and Precautions - Healthlinehealthline . comhttps:// https://www.. healthline . com › nutrition

6 Science-Based Health Benefits of Moringa oleifera - Healthlinehealthline . comhttps:// https://www.. healthline . com › nutrition

5 Powerful Benefits You Need To Know About Broccoli ...lovelifesupplements . co . ukhttps:// https://www.. lovelifesupplements . co . uk › ...

สำหรับมะเร็งชนิดใดที่ฉันควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมซัลโฟราเฟน?addon . lifehttps:// addon . life › บล็อก

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ประโยชน์ของกิมจิ สุดยอดผักดองเกาหลี มีคำกล่าวไว้ว่า ถ้าอาหารรักษาโรคไม่ได้ ยาก็เอาไม่อยู่หรอก

เมื่อเวลาผ่านไป มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ หากเราอายุมากขึ้นเรื่อยๆ สุขภาพจะเสื่อมถอยและสมรรถภาพจะลดลงแถมโรคภัยคอยรุมเร้า
บางคนอาจเคยฝันถึงคืนวันที่มีสุขภาพดีๆ เคยรับประทานอาหารได้เยอะ จัดบุฟเฟต์ทุกอาทิตย์ รสเผ็ดจัดหวานเจี๊ยบได้หมด กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ท้องไส้ไม่ปั่นป่วน พออายุถึงวัยเลข 5 หลายสิ่งที่เคยกินอร่อยในอดีต จะไม่สามารถกินได้เหมือนเดิม

สาเหตุสำคัญคือ มีการเปลี่ยนแปลงของระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารและลำไส้ถดถอย รวมถึงเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหารทำงานได้น้อยลง  เวลารับประทานอาหารเข้าไปจึงเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูกได้ง่าย

การเลือกรับประทานผักและผลไม้สด อาจช่วยลดปัญหาของ
ระบบย่อยอาหารได้ แต่ผักสดหลายชนิดมักจะมีก๊าช ส่งผลให้ท้องอืดท้องเฟ้อนะคะ

โปรไบโอติกคือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งเมื่อได้รับในปริมาณที่เพียงพอ จะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ตามรายงานงานของสมาคมวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศเพื่อโปรไบโอติกและพรีไบโอติก(ISAPP)แม้ว่าเราจะได้รับแบคทีเรียชนิดดีกระตุ้นการย่อยอาหารเพียงเล็กน้อยจากอาหารเสริม แต่มีอาหารมากมายที่มีโปรไบโอติกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

อาหารหมักดองหลายชนิดมีประโยชน์ต่อสุขภาพและอุดมไปด้วยสารอาหารรวมถึงไฟเบอร์และจุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งอาจทำหน้าที่เป็นโปรไบโอติก แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสแบบเดียวกับที่พบในโยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์หมักอื่น ๆ ก็พบได้ในกิมจิเช่นกัน

การบริโภคสิ่งที่เรียกว่า "แบคทีเรียชนิดดี" ในกิมจิสามารถช่วยรักษาระบบย่อยอาหาร ลดอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการลำไส้แปรปรวนและลำไส้อักเสบ กรดแลคติกจากการหมัก ช่วยเพิ่มระดับของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ส่งผลให้อาการท้องผูกดีขึ้น

กิมจิเป็นอาหารหลักของเกาหลี มีต้นกำเนิดเมื่อ 3,000 ปีก่อน เป็นระบบการเก็บรักษาเพื่อให้อาหารคงอยู่เป็นเวลานาน

กิมจิมีวิตามินเอ บี ซี แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และกรดอะมิโน
ปริมาณกิมจิ 150 กรัม ประกอบด้วย
    •    พลังงาน 23 แคลอรี่
    •    โปรตีน 1 กรัม
    •    ไขมันต่ำกว่า 1 กรัม
    •    คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม
    •    ไฟเบอร์ 2 กรัม

มีประโยชน์อย่างไร

1.ดีต่อลำไส้เช่นเดียวกับผักและอาหารหมักดองอื่นๆ
กิมจิอุดมไปด้วยโปรไบโอติก ซึ่งแบคทีเรียชนิดดีเหล่านี้เชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งหมดนี้เริ่มต้นในระบบทางเดินอาหาร

การกินกิมจิสามารถช่วยปรับปรุงสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ ด้วยการช่วยให้การย่อยอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น

2.กิมจิอาจช่วยเพิ่มสุขภาพภูมิคุ้มกัน

การย่อยอาหารของกิมจิส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน โปรไบโอติกในกิมจิมีประโยชน์ต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน เพราะการทำงานของภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่เกิดขึ้นในลำไส้

เมื่อไมโครไบโอมในลำไส้หรือที่เรียกกันว่าสมดุลของแบคทีเรีย
อยู่ในสภาพดี ระบบภูมิคุ้มกันจะสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น

3. อาจช่วยลดคอเลสเตอรอล
กิมจิอาจช่วยลดคอเลสเตอรอล ในการศึกษาวิจัยปี 2018
นักวิจัยให้อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงแก่หนู โดยหนูบางตัวได้รับสารสกัดจากกิมจิ หนูที่กินกิมจิมีระดับไขมันในตับและการไหลเวียนโลหิตต่ำกว่าหนูที่กินแต่อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง

แม้ว่าความสัมพันธ์ที่แน่นอนระหว่างกิมจิกับคอเลสเตอรอลจะไม่ชัดเจนนัก แต่งานวิจัยหลายชิ้น พบว่าคนที่กินกิมจิเป็นประจำมักจะมีระดับคอเลสเตอรอลที่ "ไม่ดี" (LDL) ต่ำกว่า

4. กิมจิสามารถปรับปรุงการทำงานของหัวใจ
กิมจิยังช่วยให้หัวใจดีขึ้นด้วยการเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ด้วยส่วนผสมอย่างขิงและพริกแดงร้อน สารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้เซลล์ที่เสียหายมีความเสถียรซึ่งสามารถเร่งกระบวนการเกิดโรคได้ ดังนั้นการมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงสามารถปกป้องเซลล์จากโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ

5. อาจช่วยในเรื่องการอักเสบ
การอักเสบที่มากเกินไปหรือเรื้อรังส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ
โปรไบโอติกในกิมจิมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในลำไส้ได้

การศึกษาในสัตว์ชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารจุลชีววิทยา พบว่า
โปรไบโอติกสายพันธุ์เฉพาะที่พบในกิมจิช่วยลดสัญญาณการอักเสบในลำไส้ได้หลายอย่าง

6. กิมจิช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา
กิมจิเป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีชื่อว่า เบต้าแคโรทีน
โดยเฉพาะส่วนผสมหลักอย่างกะหล่ำปลี ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ มีความสำคัญต่อสุขภาพของดวงตาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น และเป็นหนึ่งในสารอาหารที่สำคัญในแง่ของสายตา

7. อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อยีสต์
โปรไบโอติกในกิมจิสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อยีสต์ได้
การติดเชื้อยีสต์ที่ผู้หญิงคุ้นเคยมากที่สุดเกิดขึ้นเมื่อ เชื้อราแคนดิดา (Candida)ซึ่งปกติไม่เป็นอันตราย เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วภายในช่องคลอด

การศึกษาบางชิ้น แสดงให้เห็นว่า แบคทีเรียชนิดดีบางสายพันธุ์ที่พบในกิมจิมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพเพื่อต่อสู้กับเชื้อราที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อยีสต์ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดการติดเชื้อ

8.กิมจิสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้
การศึกษาขนาดเล็กที่ดำเนินการกับผู้เข้าร่วมการทดลองที่เป็น
เบาหวาน เผยให้เห็นว่า ความทนทานต่อกลูโคสดีขึ้นหลังจากรับประทานอาหารหมักที่มีส่วนประกอบของกิมจิเป็นเวลาอย่างน้อย 8 สัปดาห์ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า กิมจิสามารถช่วยลดความต้านทานต่ออินซูลินและปรับปรุงการเผาผลาญกลูโคสได้

หากชอบรับประทานทานขนมหวาน การเพิ่มกิมจิในอาหารอาจเป็นประโยชน์ เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเกิดความผันผวน

ข้อควรระมัดระวัง
โดยทั่วไปแล้ว กิมจิปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ เว้นแต่ว่าจะมีอาการแพ้ส่วนผสมใดๆ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น แก๊สและท้องอืด(หากไม่คุ้นเคยกับอาหารหมักดองหรืออาหารที่มีเส้นใยสูง)

กิมจิแบบดั้งเดิมมักจะร้อนจัดจากรสเผ็ด ความเผ็ดนั้นสามารถกระตุ้นกรดไหลย้อนในผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นได้
รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ อาจเกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารและลำไส้ได้เช่นกัน

หากไม่ได้ทำกิมจิเอง ให้ตรวจสอบฉลากอาหารเพื่อดูปริมาณเกลือ เนื่องจากผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจมีเกลือมากถึง 3% ควรมองหาแบบที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ เนื่องจากการพาสเจอร์ไรส์จะฆ่าแบคทีเรียที่มีประโยชน์ เช่นเดียวกับน้ำนมดิบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นนมแกะ นมแพะ หรือนมวัวที่มีอายุมากจะมีโปรไบโอติกสูง ผลิตภัณฑ์นม
พาสเจอร์ไรส์ส่วนใหญ่ไม่มีแบคทีเรียชนิดดีต่อสุขภาพ

โปรดระลึกไว้ว่า ผลิตภัณฑ์กิมจิหลายชนิดมีโซเดียมอยู่มาก ดังนั้นควรควบคุมปริมาณอาหารเพื่อไม่ให้กินเกลือมากเกินไป อย่างไรก็ตาม มีการศึกษา 2 ชิ้นที่ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคกิมจิกับการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิตสูง

ตอนอายุ 30 ปี แป้งทำงานเป็นพยาบาลประจำแผนกตรวจสุขภาพในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีหน้าที่จัดและจ่ายยาให้พนักงานตามความเหมาะสมกับอาการป่วยเบื้องต้น

ทุก 2-3 วัน จะมีผู้บริหารฝ่ายขายอายุน่าจะ  65-66 ปี มาขอเบิกยาธาตุน้ำแดง(เป็นยาขับลมในกระเพาะและลำไส้ ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด)ขวดละ 60 ml.ประจำ เป็นเวลาราวครึ่งปี ทุกครั้งที่จ่ายยา พลางนึกในใจว่า คนอะไรจะท้องอืดได้ทุกวี่ทุกวัน พิลึกจริง

เวลาผ่านมา 19 ปี แป้งถึงได้เข้าใจชัดแจ้งจากการสังเกตร่างกายตัวเองว่า อ๋อ!! คนเราเมื่อมีอายุมากจะมีน้ำย่อยในกระเพาะอาหารน้อยลง การบีบและคลายตัวของกระเพาะอาหาร และลำไส้ทำงานไม่ปกติ ย่อยอาหารได้ไม่ดี ที่มาของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ นั่นเอง

แป้งเริ่มกินกิมจิ(ทำเอง)เกือบ 2 เดือนโดยจะกินแนมแทนผักสดในมื้อเย็น พบว่า ถึงแม้จะกินอาหารที่มีรสเผ็ด พอกินกิมจิตามเข้าไป กลับไม่มีอาการกรดไหลย้อนกำเริบ หรือกินกิมจิในมื้อกลางวันตามหลังของมันของทอด ก็ไม่มีอาการจุกเสียดท้อง ท้องอืด แถมระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วย เมื่อเทียบกับกินโยเกิร์ตวันละ 1 ถ้วย ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับระบบย่อยอาหาร ยกให้กิมจิชนะเลิศ



ที่มา :

“กิ ม จิ” กับ ข้อ ควร ระวัง ก่อน กิน - สำนักโภชนาการกระทรวงสาธารณสุขhttps://nutrition2.anamai.moph.go.th › rrhlnews

10 Health Benefits of Kimchi, According To NutritionistsWomen's Healthhttps://www.womenshealthmag.com › food

What are the effects of kimchi on human health?News-Medical.nethttps://www.news-medical.net › news

Health Benefits of KimchiWebMDhttps://www.webmd.com › ... › Reference

Top 5 health benefits of kimchiBBC Good Foodhttps://www.bbcgoodfood.com › guide

เรื่องเล่าจากผลข้างเคียงของยา

หนึ่งในเหตุผลที่แป้งจะไม่ใช้ยารักษาโรคที่ไม่ซับซ้อนเป็นตัวเลือกแรกเพราะเคยพบเจอกับผลข้างเคียงหลายอย่าง  ดังนั้นวิตามินจึงเป็นตัวเลือกอันดับห...

บทความยอดนิยม