บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Ultra Vision สุดยอดวิตามินดูแลและปกป้องดวงตา

ตั้งแต่มีคอมพิวเตอร์เข้ามาเปลี่ยนโลกแห่งการสื่อสารให้ฉับไวรวดเร็วขึ้น ตามมาด้วยสมาร์ทโฟน ชีวิตยุคดิจิตอลจึงตกอยู่ภายใต้การจิ้มและการสไลด์นิ้ว 

ดวงตาของมนุษย์ถูกออกแบบมาเพื่อการมองเห็นสิ่งต่างๆรายรอบตัว ไม่ได้มีสายตาเพื่อจ้องจอคอมพิวเตอร์ แทบเล็ตหรือสมาร์ทโฟนตลอดทั้งวัน

ในชีวิตประจำวันเราจะพบเห็นแสงสีต่างๆเช่น ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้มแดง แสงสีน้ำเงินเป็นหนึ่งในแสงที่สามารถทะลุทะลวงได้ถึงจอประสาทตา เรียกได้ว่า มีพลานุภาพทำลายกระจกตาหรือจอประสาทตาได้มากกว่าแสงสีอื่น

แสงสีน้ำเงินพบได้ในอุปกรณ์ที่ใช้แสงสว่างจ้า เช่น จอคอมพิวเตอร์ แทบเล็ต โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ คนที่ชอบปิดไฟแล้วดูโทรทัศน์หรืออาศัยแสงสว่างจากโทรศัพท์มือถือในห้องมืด บอกได้เลยว่า คุณกำลังทำร้ายดวงตาที่ล้ำค่าโดยไม่รู้ตัว

จะมีใครรู้บ้างหรือไม่ว่า ดวงตาเปลี่ยนแสงให้กลายเป็นคลื่นไฟฟ้าและส่งไปที่สมอง ซึ่งจะแปลผลกลายเป็นภาพให้เรามองเห็น

การใช้งานดวงตามากเกินกำลังนานวันเข้า ความเสื่อมของสายตาจะเริ่มก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับอาการที่บ่งบอกว่า ดวงตากำลังแย่ลง เช่น สายตาล้า ปวดเบ้าตา แพ้แสง น้ำตาไหลพราก มีหลายคนมองเห็นจุดดำหรือรู้สึกเหมือนมีเส้นคล้ายใยแมงมุม  ลอยไปลอยมาในดวงตาตลอดเวลา นั่นคือ อาการวุ้นในตาเสื่อมเรียบร้อย 

Ultra Vision ยี่ห้อ Earth Nutrients ผลิตในอเมริกา มีส่วนผสมสำคัญ 3 ชนิด คือ Anthocyanins(Black Currant),Saffron และZeaxanthin 

Black Currant เป็นผลไม้เมืองหนาวที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดวงตาได้หลายอย่าง เช่น

1.เพิ่มความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับความมืด
2.เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในดวงตา
3.ชะลอความเสื่อมสภาพของสายตาในคนที่เป็นโรคต้อหิน
4.ลดความเมื่อยล้าของสายตาในผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน

Saffron หรือ หญ้าฝรั่น เป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงถึงแพงมาก

ปัจจุบันมีการปลูกหญ้าฝรั่นมากในสเปน ฝรั่งเศส ซิซิลี อิตาลี อิหร่านและแคชเมียร์ จะมีการเก็บเกสรตัวเมีย ดอกละสามอัน นำไปวางแผ่ไว้ในถาด ย่างไฟที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง จากนั้นจะนำมาปรุงแต่งรสชาติและกลิ่นของอาหาร 

หญ้าฝรั่นแห้งที่ได้ 1 กิโลกรัม เท่ากับผลผลิต 120,000 - 160,000 ดอก 
ดังนั้นจึงต้องเก็บเกสรตัวเมีย จากดอกของหญ้าฝรั่นด้วยมือจำนวนมาก ถึงจะได้ปริมาณตามที่ต้องการ ทำให้หญ้าฝรั่นจัดเป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงที่สุดในโลกโดยน้ำหนัก ในบรรดาเครื่องเทศทั้งหลาย โดยเฉลี่ยขายปลีกกันประมาณ 77,700 บาท

นักวิทยาศาสตร์จาก ARC Centre of Excellence in Vision Science ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์วิสัยทัศน์และมหาวิทยาลัย L'Aquila ในประเทศอิตาลี แนะนำว่าเครื่องเทศช่วยให้คนเป็นโรคสายตาเสื่อม กลับมามีสายตาปกติได้อีกครั้ง และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการ ป้องกันการเกิดโรคสายตาเสื่อมในวัยชรา


นักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Silvia Bisti ได้แสดงให้เห็นว่า หญ้าฝรั่นมีผลกระทบที่น่าทึ่งต่อยีนที่ควบคุมการทำงานของเซลล์วิสัยทัศน์ของดวงตา และไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากความเสียหาย แต่ยังเป็นตัวช่วยชะลอไม่ให้สายตาเสื่อม และบางครั้งจะเป็นตัวผลักดันให้สายตากลับมาเป็นปกติ จากโรคที่ทำให้ตาบอด เช่นโรคจอประสาทตาที่เกี่ยวกับอายุ (AMD) และเม็ดสีตาอักเสบ(retinitis pigmentosa)

Zeaxanthin(ซีแซนทีน)พบมากในพืช เช่น ดอกดาวเรือง และในจอประสาทตาของมนุษย์ ทำหน้าที่ปกป้องเซลล์รับภาพบริเวณจอประสาทตา 

มีความสำคัญในการมองเห็น โดยลูทีนจะทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในดวงตาและกรองแสงสีฟ้า(มีที่มาจากแสงคอมพิวเตอร์ แทบเล็ต จอโทรทัศน์) หรือ แสงแดดจ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา จึงช่วยบำรุงสายตา ไม่ให้จอประสาทตาเสื่อมเร็วก่อนวัยอันควร

พบปริมาณสูงในผักใบเขียว และผลไม้จำนวนมากที่มีสีสัน เช่น ผักโขม ผักคะน้าผักกาดเขียว ข้าวโพด แครอท และไข่แดง 

มีงานวิจัยหลายชิ้น แสดงให้เห็นว่า ลูทีนและซีแซนทีน ลดความเสี่ยงการเกิดโรคของดวงตา ซึ่งมีที่มาจากอายุ เช่น จอประสาทตาเสื่อม ( AMD คือ Age-related macular degeneration ) ซึ่งเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ที่มักมีผลต่อคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จากหลายสาเหตุ เช่น โภชนาการ การอยู่ในที่กลางแจ้งเป็นเวลานาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ความเครียด การสูบบุหรี่ ความเสื่อมสภาพของยีน และเป็นสาเหตุสำคัญของการตาบอดของประชากรในซีกโลกตะวันตก รวมถึงโรคต้อกระจกอีกด้วย

มีประโยชน์อย่างไร
1.ช่วยให้สายตามองเห็นภาพชัดเจนขึ้น ไม่เบลอ
2.ลดอาการเมื่อยล้าและปวดเกร็งของกล้ามเนื้อดวงตาภายหลังจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
3.ลดโอกาสการเกิดต้อหินและต้อกระจกได้เป็นอย่างดี
4.ลดอาการตาแห้งจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
5.ลดอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ดวงตาจากความเสื่อมที่เป็นไปตามอายุ
6.ลดอาการเคืองตา แสบตา ตามัว มองเห็นภาพซ้อน 
7.ป้องกันและบรรเทาอาการวุ้นในลูกตาเสื่อม (ผู้ป่วยมักจะมองเห็นหยากไย่หรือเป็นเส้นเทาดำขณะกลอกตา ปกติจะพบในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันจากการใช้สมาร์ทโฟน แทบเล็ตและคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็พบโรคนี้ได้ในวัยเพียง 20 ปี)
8.ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเม็ดสี ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการตาบอดในวัยชรา
9.ช่วยบรรเทาอาการโรคจอประสาทตาเสื่อม
10.ปรับปรุงลานสายตาให้มองเห็นชัดเจนเมื่ออยู่ในที่สลัว ทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้นเวลาอ่านหนังสือหรือต้องมองใกล้ๆ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยแสงสว่างมากขึ้น

11.เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้หญิงวัยทอง เมื่อสิ้นสุดการมีประจำเดือน  ระดับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนจะหมดลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อม 

เมื่อสองเดือนที่แล้ว แป้งไปห้างบิ๊กซี รามคำแหงเพื่อหาซื้อเครื่องปรุงรสต่างๆ พอเดินเข้าบริเวณซุปเปอร์มาร์เก็ต รู้สึกตาพร่าเวลามองดูผู้คนรอบตัว เลยกระพริบตาหลายๆครั้ง ตาจึงหายพร่า  

พออีก 3 วันมีความจำเป็นต้องหาซื้อขนมคุ๊กกี้เพื่อเป็นของฝาก ตอนที่เดินไปบริเวณซุปเปอร์มาร์เก็ต รู้สึกตาพร่า มองสิ่งของหรือผู้คนไม่ค่อยชัด ต้องกระพริบตาถี่ๆ อีกทั้งมีความรู้สึกว่า แสงจากหลอดไฟนีออนบริเวณนี้สว่างจ้ากว่าปกติ อืม! แป้งรับรู้ถึงความผิดปกติ น่าจะเริ่มมีปัญหาทางสายตาเสียแล้ว

แป้งทดลองกินวิตามิน Ultra Vision ยี่ห้อ Earth Nutrients ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า-เย็น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ปรากฏว่า พอไปเดินห้างบิ๊กซีอีกครั้ง โอ้โห! คราวนี้ตาไม่พร่าเลือน มองอะไรคมชัดแจ๋วเหมือนเดิมล่ะค่ะ แบบว่า ดีใจสุดๆ หลังจากกินครบ 2 เดือน เลยลดวิตามินเหลือวันละ 2 เม็ด เพื่อรักษาระดับวิตามินในกระแสเลือดให้คงที่ 

เด็กเล็กวัยประถมต้องมาใส่แว่นเพราะสายตาสั้น สาเหตุจากใช้สายตากับแทบเล็ต คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนมากเกินไป รอบตัวแป้งมีแต่คนเป็นวุ้นในตาเสื่อม บางคนก็เป็นจอประสาทตาเสื่อม

แป้งแนะนำวิตามิน Ultra Vision ให้กับผู้สูงอายุ 82 ปีที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งไปฉายแสงเลเซอร์ที่ไม่ทำให้เกิดความร้อนภายหลัง(Photodynamic Therapy)มาแล้ว ไม่ได้ผลตอบรับที่ดี จักษุแพทย์บอกว่า มีแต่ทรงกับทรุด ทำเอาผู้ป่วยรายนี้จิตใจห่อเหี่ยว พอกินได้ 3 เดือน ครบเวลานัดตรวจติดตามการรักษา ปรากฏว่า ในอดีตจากที่เคยมองเห็นเส้นตรงกลายเป็นเส้นโค้งบิดเบี้ยว พอคราวนี้กลายเป็นเกือบเป็นเส้นตรง
ว๊าว!ได้ยินแบบนี้ แป้งตื่นเต้นและดีใจสุดๆเลยค่ะ

เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนหรือปลูกถ่ายดวงตาใหม่ได้ รวมทั้งส่วนจอประสาทตาไม่สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ ชิ้นส่วนของดวงตาที่สามารถเปลี่ยนได้ คือกระจกตาดำ จะต้องรอกระจกตาบริจาค แล้วนำมาผ่าตัดเปลี่ยนเฉพาะบริเวณกระจกตา และเลนส์ตา ซึ่งถ้าขุ่นจะเรียกว่าต้อกระจก สามารถผ่าตัดออก แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียม ให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า การรักษาและฟื้นฟูโรคทางสายตาในปัจจุบัน ไม่มียารับประทาน มีแต่วิตามินเท่านั้นที่จะช่วยให้ค่าสายตาดีขึ้นหรือดีกว่าเดิม อย่ารอให้ดวงตาคู่สวยแย่ลงเรื่อยๆจากจอประสาทตาเสื่อมจนกลายเป็นตาบอดไปเลยนะคะ

สอบถามและสั่งซื้อได้ที่ 
Tel.081-845-3461
Id line : noi_nunoy2512





เรื่องเล่าจากผลข้างเคียงของยา

หนึ่งในเหตุผลที่แป้งจะไม่ใช้ยารักษาโรคที่ไม่ซับซ้อนเป็นตัวเลือกแรกเพราะเคยพบเจอกับผลข้างเคียงหลายอย่าง  ดังนั้นวิตามินจึงเป็นตัวเลือกอันดับห...

บทความยอดนิยม