บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิธีดูแลผิวหน้าอย่างล้ำลึก คงความอ่อนเยาว์ได้เนิ่นนานนับสิบปี


                  การดูแลผิวให้สวย เนียนเรียบ สว่างใส นอกจากต้นทุนผิวสุขภาพดีที่มีมาแต่กำเนิดแล้ว เมื่อวันหมุนเวียนเปลี่ยนไป ใบหน้าเราก็เหี่ยวแห้งตามเวลาที่ล่วงเลย ทำอย่างไรดีที่จะฉุดรั้งความสวยใส ไว้กับเรานานๆ นอกจากการออกกำลังกายและกินวิตามินที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (ตัวการที่เร่งให้เราเข้าสู่วัยชราอันดับต้นๆ ) เลเซอร์ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย นะคะ

                 ผิวเปล่งประกาย นอกจาก DNA (รหัสพันธุกรรม) เป็นตัวกำหนดต่อมไขมันและสีผิวแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกมากมายที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส จากการใช้ชีวิตอย่างสิ้นเปลือง เช่น ความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย การกินอาหารที่ประโคมใส่ผงชูรส หรือ ปรุงแต่งใส่สารกันเสีย จนไม่รู้ว่าหน้าตาเก่าเป็นอย่างไร เช่น ไส้กรอก แหนม หมูยอ กุนเชียง ฯลฯ

                 การทาครีมบำรุงผิว เป็นการดูแลเบื้องต้น ที่จะช่วยให้ใบหน้าเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน แต่มีใครสังเกตุบ้างว่า ทาครีมบำรุงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะหากอายุ 20 ปีขึ้นไป เซลล์ผิวจะผลัดช้าลง ไม่เหมือนตอนเป็นเด็ก หรือ วัยรุ่นนะคะ การขัดผิวหน้าทุกสัปดาห์ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังด้านนอกสุด เรียงตัวซ้อนกันเป็นชั้นๆ โดยเซลล์ใหม่จะถูกสร้างจากด้านล่างแล้วดันขึ้นสู่ด้านบน เพื่อทดแทนส่วนของเซลล์ด้านบนที่หลุดลอกไป กลายเป็นเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เรียกว่า ขี้ไคล เป็นอีกวิธีง่ายๆที่ช่วยเผยผิวใหม่ ให้เนียนเรียบ พร้อมรับการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ในขั้นตอนต่อไป

                การขัดผิวหน้า เราจะเลือกใช้เม็ดสครับ ใครมีผิวแห้ง ควรเลือกเม็ดสครับชนิดละเอียด ไม่ระคายเคืองผิว ขัดวนเบาๆ ทั่วใบหน้า 1 นาที เท่านั้นเป็นพอ เดี๋ยวหน้าจะถลอกปอกเปิกกันหมด จากนั้น มาสู่ขั้นตอนพอกหน้า(mask ) เรามารู้จักกันก่อนนะคะว่า จะเลือกใช้อะไรดีกับหนังหน้าของเรา

               @ผิวธรรมดา-ผิวมัน เป็นสิว ควรเลือกมาสก์ดินเหนียว (clay mask) ที่มีส่วนผสมแร่ธาตุหลากหลายชนิด เช่น แร่ซิลิกา ช่วยฟื้นฟูให้ผิวอ่อนนุ่ม , สังกะสี ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ,แมกนีเซียม ทำให้ผิวผ่อนคลาย ,แคลเซียม ช่วยให้กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ,โซเดียม ช่วยรักษาความยืดหยุ่น มีลักษณะ เนื้อเนียนนุ่ม หลากหลายสี ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา ดังต่อไปนี้

1. White clay หรือ kaolin ( ดินขาว ) อ่านว่า เกาลิน มีที่มาจากภูเขาสูงในประเทศจีน มีความอ่อนนุ่ม ดูดซับน้ำมันได้พอควร ครีมพอกหน้าส่วนใหญ่ มักใส่ kaolin มาลำดับแรกๆ หากมาจากประเทศจีน จะมีราคาถูกมาก ประเทศบราซิล อังกฤษ และอเมริกา เป็นผู้ผลิตดินขาวคุณภาพสูง อันดับต้นๆของโลก

2. bentonite clay ดินเถ้าภูเขาไฟสีเทา อุดมด้วยแร่ธาตุมากมาย แหล่งพบมากที่สุด คือ มลรัฐมอนทานาและไวโอมิง สหรัฐอเมริกา มีคุณสมบัติดูดซับสารพิษ เพ่ิมภูมิต้านทานให้แก่ผิว ไม่แพ้ง่าย

                 ดินเหนียวทั้ง 2 ชนิดนี้ รวมตัวอยู่ในยี่ห้อ DDF ; sulfur therapeutic mask ซึ่งผสม sulfur มากถึง 10% เหมาะสำหรับผิวมัน เป็นสิว อย่างยิ่ง แป้งใช้สัปดาห์ละครั้ง mask คืนวันอาทิตย์ รุ่งขึ้นไปทำงาน มีแต่คนชมว่าหน้าเนียน ใส เด้ง ทุกครั้ง

3. green clay หรือ แร่มอนต์เมอริลโลไนต์ (montmorillonite) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ดินเหนียวฝรั่งเศส พบมากในเหมืองหิน ประเทศฝรั่งเศส มีสีเขียวของเนื้อดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุชีวภาพ มีการดูดซับสูงที่สุด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยลดการอักเสบของผิว ดูดซับน้ำมันและสารพิษออกจากผิวได้ดีมาก ใครที่ชอบดูหนังฮอลลีวู้ด จะพบเห็นมาสก์ชนิดนี้เสมอ ในฉากที่นักแสดงพอกหน้าพอกตา แป้งชื่นชอบมาสก์ชนิดนี้ที่สุด เพราะดูดซับความมันเยิ้มส่วนเกินได้ชะงัด พบได้ในยี่ห้อ alba ; deep sea facial mask อันนี้ก็เริ่ด ทาแป้งติดง่ายมาก เนียนดีเหลือเกิน แต่หาซื้อยาก เพราะต้องสั่งผ่านเว็ปต่างประเทศ เท่านั้น

4.rhassoul clay ดินเหนียวสีแดง มีที่มาจากเทือกเขา Atlas ประเทศโมรอกโก หญิงสาวชาวโมรอกโก ใช้ดูแลผิวและผม ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยทำความสะอาดผิวล้ำลึก ทำให้ผิวมีความสมดุล พร้อมทั้งกระชับรูขุมขน ได้อีกด้วย มีซิลิกาสูงมาก ช่วยฟื้นฟูให้ผิวอ่อนนุ่ม , สังกะสี ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ,แมกนีเซียม ทำให้ผิวผ่อนคลาย ,แคลเซียม ช่วยให้กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ,โซเดียม ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว สปาที่ดีที่สุดทั่วโลก มักนิยมใช้มาสก์ชนิดนี้กันค่ะ

5.earth clay ดินเหนียวสีเหลืองอ่อน อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ อาทิเช่น ซิลิกา 70.85 % แมกนีเซียม 5.75% แคลเซี่ยม 1.62% มีคุณสมบัติกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยทำความสะอาดผิว ดูดซับความมันส่วนเกินได้ดี สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก และส่งออกเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตทั่วโลก ด้วยนะคะ

                 @ผิวธรรมดา-ผิวแห้ง โดยเฉพาะผิวแห้ง อายุที่มากขึ้น ต่อมไขมันทำงานลดลง ส่งผลให้ผิวขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ผิวจึงขาดความชุ่มชื้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ควรมาสก์ตามข้างบนนะคะ เดี๋ยวหนังหน้าจะเหี่ยวแห้งไปกันใหญ่ ควรเลือก tissue mask (มาสก์แผ่น) ที่อุดมด้วยอาหารบำรุงผิวชั้นเลิศ นานาชนิด ตามคุณภาพและราคา ส่วนผสมล้ำค่า จะแถมมาด้วยราคาสูง แต่ถ้าส่วนผสมธรรมดา ราคาจะจับต้องได้เสมอ ของดีราคาถูก ไม่มีในโลกหรอกค่ะ ยกเว้นเครื่องสำอางที่ทำการตลาดในเมืองไทย ไม่ได้ตามเป้าหมาย จึงต้องนำมา SALE (ลดราคา) ดีกว่าทิ้งให้เสียของ อาทิเช่น Darphin อ่านว่า ดาฟาง จากฝรั่งเศส,Juice Beauty จากอเมริกา ,DHC จากญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้ยกเคาน์เตอร์ กลับบ้านเกิดไปแล้ว อันนี้ นอกเรื่องนิดนึง ต่อค่ะ มาสก์แบบนี้ มีให้ซื้อหากันไม่หวาดไม่ไหว แต่แป้งไม่ชอบมาสก์ชนิดนี้ค่ะ เพราะแฉะแบะ กว่ามันจะซึมเข้าสู่ผิวหมด ถึงได้เหมาะกับผิวแห้ง งัยค่ะ

                   ใครมีผิวแบบไหนก็เลือกใช้บริการได้ตามสะดวก หลังจากหนังหน้าผ่านกรรมวิธีนี้แล้ว ใบหน้าจะขาวขึ้นชั่วคราว จากการที่เราขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วยการสครับผิว ตามด้วย มาสก์หน้าดูดซับความมัน หรือ เติมอาหารผิวล้ำลึก ไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อถูกๆหรือแสนแพง ร้อยละร้อย ใบหน้าขาว สว่างใส ขึ้นเห็นๆ แต่พอย่างเข้าวันที่ 5 หน้าเราจะเริ่มหยาบ หมองคล้ำ คงเดิม เพราะฉะนั้น จึงต้องสละเวลาดูแลผิวหน้าอย่างพิถีพิถันเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง นะคะ ความงดงามจะคงอยู่กับเราเนิ่นนานที่สุด

                   ขั้นตอนสุดท้ายที่ไม่ควรละเลย แป้งนวดหน้าทุกอาทิตย์ด้วย shiseido white lucent massage cream ใช้เป็นสิบกระปุกล่ะ เพราะการนวด คือการดีทอกซ์ผิวที่มีมาช้านาน กว่า 5000 ปี สาวญี่ปุ่น เค้าจะชอบนวดหน้าเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ช่วยให้โลหิตและน้ำเหลืองบริเวณผิวหน้าไหลเวียนดีขึ้น เพิ่มพลังผิวหน้าให้กลับนุ่มชุ่มชื่น เรียบเนียน ใสเด้ง ย้อนเวลาให้ผิวได้เป็นสิบปีเลยนะคะ ตอนแป้งทำเลเซอร์ หน้าไม่เหี่ยวแห้ง ไม่ลอกเป็นขุย ก็เพราะการนวดหน้านี่แหละค่ะ เคยซื้อเครื่องนวดหน้ามาราคาเกือบครึ่งหมื่น แรกๆ ใช้ทุกอาทิตย์ ช่วงหลังๆ กองอยู่ใต้ลิ้นชัก ไม่แม้แต่จะเหลียวแล เหมือนเราซื้อเครื่องออกกำลังกายมาใหม่ๆ พักเดียวเท่านั้นแหละ กลายเป็นที่ตากผ้าเช็ดตัว ซะงั้น 


                   จากนั้น ลงครีมบำรุงตามปกติ ตื่นเช้ามา หน้าสวยเด้ง ทาแป้งติดดีเหลือเกิน ว๊าย! ลืมบอกไป ถึงขั้นตอนการล้างหน้า ไม่ว่าเราจะโบกรองพื้นบางหรือหนาแค่ไหน ผิวหน้าก็ขาดออกซิเจน ปิดกั้นไม่ให้ผิวหายใจได้ตามปกติ ลองสังเกตุดูว่า หลังล้างหน้า หน้าจะแห้งตึงดั่งทะเลทราย นานวันเข้า ผิวจะเหี่ยวถาวร เค้าถึงไม่ให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ถึงแม้ว่า อุณหภูมิของน้ำอุ่น จะชะล้างสิ่งสกปรกได้ดีก็ตามที หน้าสะอาดจริง แต่เหี่ยวล้ำลึก เลยนะคะ นั่นเป็นเพราะ เราใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฤทธิ์ชะล้างสิ่งสกปรกมากเกินไป ผิวจึงขาดความสมดุล รวมถึงชะล้างน้ำมันบนผิวตามธรรมชาติออกไปอีกด้วย ใครที่ผิวแห้งมากๆ จะโหยหา น้ำมันบนผิวตามธรรมชาติที่สุด

                    แป้งเคยใช้เคล็นเซอร์ล้างหน้าเคาน์เตอร์แบรนด์ หลากหลายยี่ห้อ แต่มาลงตัวที่ Jabu'she cleansing lotion Made in Sweden อุดมไปด้วย cucumber extract เกรดพรีเมี่ยม คุณภาพสูง ช่วยรักษาสมดุลและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ,peach extract ปรับผิวให้สะอาดเรียบเนียน แถมมาด้วย chamomile extract ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง จากความไม่สมดุลของน้ำมันตามธรรมชาติที่ถูกชะล้างออกไป ให้ผิวหน้าผ่อนคลาย 

เคล็นเซอร์เพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ผสมสารสกัดจากธรรมชาติมากที่สุด ไร้สารเคมีตกค้าง หอมกลิ่นแตงกวาอ่อนๆ ชื่นใจจริงๆ ที่สำคัญ ไม่มี mineral oil , petrolatum ที่ก่อให้เกิดสิว ผิวแห้งผาก ผดผื่น ด้วยนะคะ เป็นครีมล้างคราบเครื่องสำอาง ฝุ่น สิ่งสกปรก ได้สะอาด ล้ำลึกที่สุด โดยไม่ต้องตามด้วยโฟมล้างหน้า เพิ่มความเหี่ยวแห้งกับผิวหน้า อีกต่อไป ใช้แค่ตัวเดียว เอาอยู่ค่ะ ลองใช้ดูนะคะ แล้วจะติดใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เรื่องเล่าจากผลข้างเคียงของยา

หนึ่งในเหตุผลที่แป้งจะไม่ใช้ยารักษาโรคที่ไม่ซับซ้อนเป็นตัวเลือกแรกเพราะเคยพบเจอกับผลข้างเคียงหลายอย่าง  ดังนั้นวิตามินจึงเป็นตัวเลือกอันดับห...

บทความยอดนิยม