จะดีแค่ไหนที่เรากินวิตามินลดน้ำหนักแล้วส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง ชะลอความชราได้อีกด้วย วิตามินที่ว่านี้เป็นสารสกัดจากชาเขียว ( green tea ) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมาช้านาน เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติเรียกว่า โพลีฟีนอล ที่มีศักยภาพเรียกว่า catechin ( คาเทชิน ) นับเป็นโพลีฟีนอลที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพและประสิทธิภาพมากที่สุดในการกำจัดอนุมูลอิสระเรียกว่า epigallocatechin gallate ( EGCG )
โดยทั่วไปชาเขียวมีปริมาณคาเฟอีน 20-45 mg. ต่อถ้วย ( 240 ml. ) เมื่อเทียบกับชาดำ ซึ่งมีปริมาณคาเฟอีน 50 mg และกาแฟมีปริมาณคาเฟอีน 95 mg ต่อถ้วย
ชาเขียว ( green tea ) มีผลในการยับยั้งภาวะโรคต่างๆ โดยมีงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่าการดื่มชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายได้แก่
1.มีการศึกษาหนึ่ง พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำ มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นตับอ่อน นักวิจัยเชื่อว่า ระดับสูงของโพลีฟีนอลในชาเขียวจะช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งและหยุดการเจริญเติบโต
2.ชาเขียวมีฤทธิ์ต่อต้านการเกิดโรคของระบบหลอดเลือดหัวใจ
3.ชาเขียวมีฤทธิ์ในการลดความอ้วน มีงานวิจัยระบุว่า ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน จึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักของร่างกาย โดยสาร EGCG ในชาเขียวจะส่งสัญญาณให้เซลล์ไขมันย่อยไขมันมากขึ้น ซึ่งจะถูกปล่อยเข้ากระแสเลือดและถูกนำมาใช้เป็นพลังงานจากเซลล์ที่ต้องการ เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เป็นต้น
4.มีการศึกษาหนึ่ง พบว่า หากบริโภคชาเขียว 10 ถ้วยต่อวัน สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้ แต่ถ้าน้อยกว่า 4 ถ้วยต่อวัน จะไม่ส่งผลใดๆ
5.มีการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่า ชาเขียวสามารถลดปริมาณของไขมันที่ดูดซึมจากอาหาร แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันในมนุษย์
6.ชาเขียวอาจเพิ่มหน่วยความจำ มีงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร phychopharmacology แนะนำชาเขียวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ หน่วยความจำ
การดื่มชาเขียวบรรจุขวดตามท้องตลาดทั่วไป เราจะไม่ได้รับประโยชน์ข้างต้น เนื่องจากชาเขียวถูกเจือจางด้วยน้ำเปล่ามากเกินไปแถมใส่น้ำตาลมาเพียบ คุณค่าจึงด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด บางคนดื่มชาเขียวจนน้ำตาลขึ้นก็มี แนะนำ ชงชาเขียวดื่มเป็นถ้วยตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่นโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย อันนี้จะได้ประโยชน์เต็มพิกัดค่ะ
หากจะกินสารสกัดชาเขียวเพื่อหวังผลในการลดน้ำหนัก ควรเลือกยี่ห้อที่มีคาเฟอีน 110 mg ต่อแคปซูล โดยจะต้องกินวันละ 2 แคปซูล เท่ากับว่า เราจะได้ปริมาณคาเฟอีน 220 mg ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่ร่างกายรับได้ จึงไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนชนิดต่างๆเติมเข้าไปในระหว่างวันอีก มิฉะนั้นจะทำให้นอนไม่หลับ คลื่นไส้ หัวใจเต้นเร็วขึ้นได้ อย่าดูแต่ปริมาณโพลีฟีนอลและคาเทชินอย่างเดียวนะคะ
แป้งเลือกกิน ripped fuel extreme fat burner ยี่ห้อ twinlab ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า ออกกำลังกายตามปกติ พร้อมงดอาหารประเภทแป้งไขมัน น้ำตาล เน้นโปรตีน ปรากฎว่า 2 เดือน น้ำหนักลงไป 2 กก. อืม!! น่าทึ่งมาก อีกอย่างช่วงที่กินวิตามินตัวนี้ เรี่ยวแรงเยอะขึ้น อารมณ์ดีมากมาย รู้สึกมีความสุข เป็นเพราะฤทธิ์ของคาเฟอีนที่ผสมในสารสกัดชาเขียวแน่ๆเลยค่ะ
ที่มา ;
http :www.medicalnewtoday.com/article/269538.php
โดยทั่วไปชาเขียวมีปริมาณคาเฟอีน 20-45 mg. ต่อถ้วย ( 240 ml. ) เมื่อเทียบกับชาดำ ซึ่งมีปริมาณคาเฟอีน 50 mg และกาแฟมีปริมาณคาเฟอีน 95 mg ต่อถ้วย
ชาเขียว ( green tea ) มีผลในการยับยั้งภาวะโรคต่างๆ โดยมีงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่าการดื่มชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายได้แก่
1.มีการศึกษาหนึ่ง พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำ มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นตับอ่อน นักวิจัยเชื่อว่า ระดับสูงของโพลีฟีนอลในชาเขียวจะช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งและหยุดการเจริญเติบโต
2.ชาเขียวมีฤทธิ์ต่อต้านการเกิดโรคของระบบหลอดเลือดหัวใจ
3.ชาเขียวมีฤทธิ์ในการลดความอ้วน มีงานวิจัยระบุว่า ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน จึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักของร่างกาย โดยสาร EGCG ในชาเขียวจะส่งสัญญาณให้เซลล์ไขมันย่อยไขมันมากขึ้น ซึ่งจะถูกปล่อยเข้ากระแสเลือดและถูกนำมาใช้เป็นพลังงานจากเซลล์ที่ต้องการ เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เป็นต้น
4.มีการศึกษาหนึ่ง พบว่า หากบริโภคชาเขียว 10 ถ้วยต่อวัน สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้ แต่ถ้าน้อยกว่า 4 ถ้วยต่อวัน จะไม่ส่งผลใดๆ
5.มีการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่า ชาเขียวสามารถลดปริมาณของไขมันที่ดูดซึมจากอาหาร แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันในมนุษย์
6.ชาเขียวอาจเพิ่มหน่วยความจำ มีงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร phychopharmacology แนะนำชาเขียวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ หน่วยความจำ
การดื่มชาเขียวบรรจุขวดตามท้องตลาดทั่วไป เราจะไม่ได้รับประโยชน์ข้างต้น เนื่องจากชาเขียวถูกเจือจางด้วยน้ำเปล่ามากเกินไปแถมใส่น้ำตาลมาเพียบ คุณค่าจึงด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด บางคนดื่มชาเขียวจนน้ำตาลขึ้นก็มี แนะนำ ชงชาเขียวดื่มเป็นถ้วยตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่นโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย อันนี้จะได้ประโยชน์เต็มพิกัดค่ะ
หากจะกินสารสกัดชาเขียวเพื่อหวังผลในการลดน้ำหนัก ควรเลือกยี่ห้อที่มีคาเฟอีน 110 mg ต่อแคปซูล โดยจะต้องกินวันละ 2 แคปซูล เท่ากับว่า เราจะได้ปริมาณคาเฟอีน 220 mg ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่ร่างกายรับได้ จึงไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนชนิดต่างๆเติมเข้าไปในระหว่างวันอีก มิฉะนั้นจะทำให้นอนไม่หลับ คลื่นไส้ หัวใจเต้นเร็วขึ้นได้ อย่าดูแต่ปริมาณโพลีฟีนอลและคาเทชินอย่างเดียวนะคะ
แป้งเลือกกิน ripped fuel extreme fat burner ยี่ห้อ twinlab ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า ออกกำลังกายตามปกติ พร้อมงดอาหารประเภทแป้งไขมัน น้ำตาล เน้นโปรตีน ปรากฎว่า 2 เดือน น้ำหนักลงไป 2 กก. อืม!! น่าทึ่งมาก อีกอย่างช่วงที่กินวิตามินตัวนี้ เรี่ยวแรงเยอะขึ้น อารมณ์ดีมากมาย รู้สึกมีความสุข เป็นเพราะฤทธิ์ของคาเฟอีนที่ผสมในสารสกัดชาเขียวแน่ๆเลยค่ะ
ที่มา ;
http :www.medicalnewtoday.com/article/269538.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น