แป้งปังปอนด์
วิตามินคุณภาพสูง กับการ ชะลอวัย สามารถเพิ่มความ ขาวใส และยกระดับ ภูมิต้านทาน อย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นเจอวิตามินปลอมค่ะ
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นปัญหาใหญ่หลวงสำหรับผู้ชายหลายคน จะเริ่มมาเยือนตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป มีปัจจัยหลายอย...
-
การดำเนินชีวิตประจำวันของคนเราทุกวันนี้ เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ไม่รู้จะรีบกันไปถึงไหน ยิ่งในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรที่ได้การ...
-
hamercandysiam.lnwshop.com ลูกอมรสกาแฟผลิตในมาเลเซีย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายดีอันดับหนึ่งประเภทบำรุงร่างกายและเพิ่มสมรรถภาพใน...
-
ในปัจจุบันนี้ แทบทุกคนจะเป็นภูมิแพ้กันทั้งสิ้น แป้งเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นมานมนานต้ังแต่เด็กๆจนกระทั่งเริ่มเรียนม.ต้น ช่วงเช้าจะมีน้...
-
เรียนแจ้งทุกท่านเพื่อโปรดทราบ แป้งย้ายการตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ และผิวพรรณ ประจำสัปดาห์มายัง https://pangpungpond.blogspot.com/ เนื่องจาก...
วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ย้อนรอยสารเคมีกำจัดแมลงที่เคยนึกว่าอยู่ไกลตัว(ตอนที่ 2)
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ออกกำลังกายตอนเช้าหรือออกกำลังกายตอนเย็นแบบไหนดีกว่ากัน
วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567
6 วิตามินที่ช่วยลดอาการไข้หวัดและภูมิแพ้
ลมหนาวเริ่มพัดความเย็นมาเยือนแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ภูมิภาคที่อยู่ใกล้กับจีนจะมีมวลอากาศเย็นเคลื่อนตัวเข้ามายังภาคอีสานและภาคเหนือของไทยทุกปีแทนที่มวลอากาศร้อนเดิมที่ลอยสูงขึ้น และเคลื่อนกลับขึ้นไปทางเหนือเรื่อยๆ กทม.ถึงไม่เคยหนาวเหมือนภาคอื่น อย่างดีแค่เย็นๆเท่านั้นเอง
อากาศอึมครึมขะมุกขะมัวไร้แสงแดดแบบนี้ เชื้อโรคทั้งหลาย เช่น แบคทีเรีย ราและไวรัสขยายพันธุ์ได้ดี ผู้คนแทบทุกช่วงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำมักจะเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัด หอบหืด ภูมิแพ้ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ,บี
แป้งเห็นเด็กๆป่วยจากไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถเกิดการติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ส่วนมากแล้วมักเกิดในเด็กเล็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 5 ปี จนแทบล้นโรงพยาบาลรัฐเลยนะคะ
หากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพหรือปัจจัยอื่น ๆ อาจเกิดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่
1. อาการแพ้หรือโรคหอบหืด ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงหรือกระตุ้นโรคหอบหืดรุนแรงมากขึ้นจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
2.ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากภูมิคุ้มกันลดลงมากผิดปกติ จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และการติดเชื้อร้ายแรงมากขึ้น หรือการติดเชื้อเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายได้ โรคที่พบได้แก่ การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) เป็นต้น
3.โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Disease) การทำงานที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน อาจส่งผลร้ายโดยย้อนกลับมาทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย จนทำให้เกิดภูมิแพ้ตัวเอง(โรคพุ่มพวง)
4.โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อที่ข้อต่อต่าง ๆ และโรคไทรอยด์ตาโปน ซึ่งเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันจู่โจมต่อมไทรอยด์
นอกจากโรคภัยไข้เจ็บที่ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรงแล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ได้แก่
1.พักผ่อนไม่เพียงพอ หากพักผ่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันสะสมไปเป็นนาน ๆ จะส่งผลให้ร่างกายมีฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น การมีความเครียดอย่างต่อเนื่องจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล(Cortisol) ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกัน เกิดความเสี่ยงต่ออาการอักเสบทั่วร่างกายและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
2.ขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ในทางกลับกัน หากไม่ออกกำลังกายจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงได้ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายสร้างสารเคมีชนิดดีที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง รู้สึกสดชื่น และมีภูมิต้านทานสูงขึ้น
3.รับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การรับประทานกลุ่มคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลมาก ๆ จะส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดหรืออวัยวะต่างๆ เริ่มจาก ผดผื่นคัน โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เกาต์ ฯลฯ
4.เครียดสะสม ความเครียดส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง เพราะเมื่อในร่างกายมีความเครียดสูงขึ้น ฮอร์โมนความเครียดจะไปกดภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลงจนเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
วิตามินที่ช่วยลดอาการไข้หวัดและภูมิแพ้
1.วิตามินซี ช่วยในการลดระยะเวลาและความรุนแรงของโรคหวัด
รวมถึงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพอีกด้วย การวิจัยชี้ให้เห็นว่า การอักเสบมีส่วนสําคัญต่อกระบวนการเกิดภูมิแพ้ วิตามินซีอาจบรรเทาอาการอักเสบได้
โดยทั่วไป ไม่แนะนําให้รับประทานวิตามินที่เป็นกรดสังเคราะห์มากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน(ยกเว้นวิตามินชนิดเอสเตอร์(Ester)ซึ่งสกัดความเป็นกรดออกไปจนหมดสิ้น)เนื่องจาก
อาจนําไปสู่ผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง ตะคริว และท้องร่วง
ปริมาณวิตามินซีที่สูง จะรบกวนการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จําเป็นอื่นๆ ได้ หลายคนที่กินวิตามินซีเกิน 2000 มิลลิกรัม จะมีอาการปวดข้อบริเวณนิ้วมือ(วิตามินซีสามารถเพิ่มระดับออกซาเลตของร่างกายได้ ซึ่งวิตามินซีจะเปลี่ยนเป็นออกซาเลตที่ปริมาณมากกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน )
วิตามินซีทําหน้าที่แตกต่างจากยาต้านฮีสตามีน โดยช่วยลดปริมาณ
ฮีสตามีนที่ร่างกายผลิต แทนที่จะปิดกั้นตัวรับฮีสตามีน การวิจัยชี้ให้เห็นว่า ระดับฮีสตามีนอาจลดลงประมาณ 38% หลังจากที่ร่างกายได้รับวิตามินซี 2 กรัม (2000 มิลลิกรัม)
การได้รับวิตามินซีในปริมาณที่สูงขึ้นผ่าน IV(หลอดเลือดดำ)อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทาน
การศึกษาขนาดเล็ก ในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคติดเชื้อจำนวน 89 คน พบว่าผู้ที่ได้รับวิตามินซี 7.5 กรัม (7500 มิลลิกรัม)
ทางหลอดเลือดดํา มีฮีสตามีนในเลือดน้อยลงประมาณ 50%
การศึกษาพบว่า ผู้ที่มีอาการแพ้ได้รับประโยชน์จากการลดฮีสตามีนมากกว่าผู้ที่มีโรคติดเชื้อ ซึ่งหากมีภาวะติดเชื้อการเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวจะมีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซี
2.โปรไบโอติก(Probiotic)
แลคติกาเซอิบาซิลลัส เดิมเรียกว่า แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส
ในโปรไบโอติกอาจช่วยคืนสมดุลให้กับระบบจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ นับตั้งแต่โรคภูมิแพ้ไปจนถึงโรคอ้วน ความเครียดเรื้อรัง การรับประทานอาหารที่ผ่านการแปรรูป อาหารกลุ่มแป้งและน้ำตาลมากเกินไป ล้วนสร้างความเสียหายต่อระบบจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร
การคืนความสมดุล มีส่วนช่วยลดปฏิกิริยาตอบสนองต่ออาการแพ้ เนื่องจากแบคทีเรียที่สมดุลในลำไส้จะช่วยลดอาการอักเสบทั่วร่างกาย และปกป้องเยื่อบุลำไส้จากความเสียหายที่อาจทำให้ภูมิแพ้แย่ลงได้ แป้งคิดว่า มีผลจริงๆ เคยเจอกับตัวมาแล้ว ซึ่งหลายคนมองข้ามจุดนี้ไป
การศึกษาหนึ่งพบว่า การดูแลลำไส้ของเด็กให้มีแบคทีเรียแลคติกาเซอิบาซิลลัสอย่างเพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเมื่ออายุได้ 5 ปี ไม่มีอะไรที่ทำให้จามได้อีกแล้ว
การทบทวนการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2022 พบว่า โปรไบโอติกบรรเทาอาการแพ้อย่างมีนัยสําคัญ ช่วยปรับคุณภาพชีวิตในผู้ใหญ่และเด็กที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
มีโปรไบโอติกหลายสายพันธุ์ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริม แต่มีเพียงหยิบมือเดียวที่อาจช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้เพราะโปรไบโอติกจะไม่สามารถผ่านน้ำย่อยในกระเพาะอาหารยกเว้นมีเทคโนโลยีเคลือบแคปซูล มีผลทำให้อาหารเสริทราคาแพงยิ่งขึ้น อีกทางเลือกหนึ่งคือ รับประทานโปรไบโอติกจากอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต, เคเฟอร์, คอมบุชา, ผักดอง, เทมเป้, กิมจิ, มิโซะ, ขนมปังซาวโดว์ และครีมเปรี้ยว
3. เคอร์เซติน(Quercetin)
Quercetin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในพืชหลายชนิด ดูเหมือนว่าจะมีฤทธิ์ต้านอาการแพ้
งานวิจัยศึกษาแนะนําว่า Quercetin อาจปิดกั้นเส้นทางที่กระตุ้นการปล่อยฮีสตามีนเข้าสู่กระแสเลือด โดยป้องกันไม่ให้เซลล์เม็ดเลือดพิเศษที่เรียกว่า Mast cell แตกออกเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง (WBC) ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายและปล่อยฮีสตามีน
โปรดทราบว่า เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารที่อาจแพ้ (สารก่อภูมิแพ้) จะเกิดการผลิตสารเคมีที่เรียกว่า ฮีสตามีน(Histamine)
ซึ่งฮีสตามีนทําให้เกิดอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแพ้ อ่านเพิ่มเติมที่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0fVEDgt54bYZRmjVf5yNQYEmxU25a7tBvjmieBnEuJC6H4TrMzeErT4hVgMH6ghgAl&id=100063482893567
การศึกษาที่ดําเนินการในปี 2022 เกี่ยวข้องกับอาสาสมัคร 66 คนที่มีอาการแพ้ตามฤดูกาล ครึ่งหนึ่งได้รับอาหารเสริมเคอร์ซิติน 200 มิลลิกรัม และครึ่งหนึ่งได้รับยาหลอก มีรายงานว่า อาการคันที่ตา จาม และน้ํามูกไหลลดลง หลังจากรับประทานอาหารเสริม 4 สัปดาห์
Quercetin มีจําหน่ายเป็นอาหารเสริม สามารถพบได้ในอาหารและสมุนไพรหลายชนิด เช่น แอปเปิ้ล ชาดําและชาเขียว บรอกโคลี องุ่น
ผักชีลาว ใบยี่หร่า หัวหอม ออริกาโน พริกชี้ฟ้า แครนเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ ผักโขมและคะน้า เชอร์รี่ ผักกาดหอม หน่อไม้ฝรั่ง
ผลข้างเคียง ได้แก่ ปวดศีรษะหรือปวดท้อง Quercetin อาจไม่ปลอดภัยหากมีโรคไตหรือกําลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
4. Vitamin D
วิตามินดีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ทำหน้าที่ช่วยควบคุมการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน การขาดวิตามินดีเชื่อมโยงกับโรคหอบหืด ภูมิแพ้ อาการคัดจมูกและกลากเกลื้อน
การทดลองแบบสุ่มแบบ double-blind และ placebo-controlled ในปี 2019 แสดงให้เห็นว่า การทานอาหารเสริมวิตามินดีร่วมกับยาลดภูมิแพ้ช่วยให้อาการดีขึ้นในคนที่ขาดวิตามินดี
การศึกษาอื่นในปี 2019 แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนภูมิแพ้จะมีผลการรักษาที่ดีขึ้นหากมีระดับวิตามินดีที่เหมาะสม
การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (allergen immunotherapy) เป็นการรักษา โดยฉีดสารก่อภูมิแพ้ที่คิดว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เข้าไปในร่างกายทีละน้อย แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนเพื่อให้สร้างภูมิต้านทานต่อสิ่งที่แพ้ วิธีนี้จะใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการมาก ซึ่งไม่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยา หรือไม่สามารถทนผลข้างเคียงของยาได้ หรือผู้ที่มีโรคภูมิแพ้หลายชนิดร่วมด้วย
5. Omega-3
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง อาจช่วยลดความเสี่ยงของการแพ้รวมถึงโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาที่มีไขมันในน้ําเย็น เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ปลาเฮอริ่ง และปลาซาร์ดีน ตลอดจนถั่วและเมล็ดพืช เช่น เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัท
6.Zinc(สังกะสี)
สังกะสีเป็นแร่ธาตุธรรมชาติที่พบในอาหารหลายชนิด ช่วยให้ร่างกายมีการพัฒนาและเจริญเติบโต สังกะสีอาจเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แต่ยังมีบทบาทในการรักษาบาดแผล การรับรสชาติ และการตอบสนองการแพ้
สังกะสีอาจช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากการแพ้ ผู้ที่ขาดสังกะสีมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่าผู้ที่ไม่ขาดสังกะสีถึง 5 เท่า
การศึกษาหนึ่ง กลุ่มตัวอย่างเกือบ 2,000 คน พบว่า ระดับสังกะสีในเลือดที่ลดลง ทําให้ระดับแอนติบอดีภูมิแพ้เพิ่มขึ้นหรือที่เรียกว่า IgE IgE ที่สูงขึ้นเชื่อมโยงกับการแพ้ตามฤดูกาลและโรคภูมิแพ้ประเภทอื่น ๆ อาจอธิบายได้ว่า ทําไมการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานอาหารเสริมสังกะสีสามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ตามฤดูกาลได้
อาหารเสริมสังกะสีในปริมาณสูง อาจทําให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ท้องร่วง ปวดท้อง และอาเจียนภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรับประทาน สเปรย์ฉีดจมูกที่มีสังกะสีอาจทําให้สูญเสียการรับกลิ่นชั่วคราว
ผลข้างเคียงต่างๆมีแนวโน้มที่จะหายไปภายในระยะเวลาอันสั้น อาหารเสริมสังกะสีไม่ควรเกินขีดจํากัดสูงสุด 40 มก.ต่อวัน
สังกะสีเป็นอีกหนึ่งอาหารเสริมที่มีแนวโน้มดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ในขณะที่จําเป็นต้องมีการศึกษาขนาดใหญ่ในมนุษย์ แต่ก็มีหลักฐานสําหรับศักยภาพของสังกะสีที่ช่วยลดภูมิแพ้ การบริโภคอาหารธรรมชาติที่มีสังกะสีสูง เช่น หอยนางรม อกไก่งวง และเมล็ดฟักทอง นับเป็นวิธีที่ดีเช่นกัน
ไม่แนะนำสังกะสี(Zinc)ในคนที่มีผิวแห้งหรือผิวผสม เพราะจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการแห้งจนระคายเคืองคันผิวหน้าหรือบริเวณร่างกายคะ
ที่มา :
9 Best Natural Antihistamines for AllergiesVerywell Healthhttps://www.verywellhealth.com › natur...
Vitamin C for Allergies: Effectiveness, Uses, and PrecautionsHealthlinehttps://www.healthline.com › nutrition
Natural antihistamines: Top 8 remedies for allergiesMedicalNewsTodayhttps://www.medicalnewstoday.com › a...
Top 9 Foods and Supplements to Alleviate Allergy SymptomsFullscripthttps://fullscript.com › Blog
10 Best Supplements and Herbs for AllergiesGoodRxhttps://www.goodrx.com › ... › Allergies
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567
สุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำไส้
การค้นพบโพรไบโอติกเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อ Elie Metchnikoff หรือที่รู้จักกันในนาม "บิดาแห่งโพรไบโอติก" ได้สังเกตว่า ชาวชนบทในประเทศบัลแกเรียมีสุขภาพแข็งแรงแม้อยู่ในวัยชรามาก ท่ามกลางความยากจนและสภาพอากาศอันเลวร้าย เขาตั้งทฤษฎีว่าสุขภาพจะดีขึ้นและมีความชราช้าลง โดยการจัดการจุลินทรีย์ในลำไส้ด้วยแบคทีเรียที่เป็นมิตรกับโฮสต์ที่พบในนมเปรี้ยว ตั้งแต่นั้นมาการวิจัยยังคงสนับสนุนการค้นพบของเขาพร้อมกับประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้น
โพรไบโอติกมักถูกเรียกว่า "แบคทีเรียดี" เพราะช่วยให้ลำไส้แข็งแรง หากพูดถึงเรื่องแบคทีเรีย หลายๆคนอาจจะคิดถึงเชื้อโรคร้ายที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ แต่จริงๆ แล้วแบคทีเรียนั้นมีหลายประเภททั้งแบคทีเรียที่ก่อโรค และแบคทีเรียดีที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งเรียกว่า Probiotic
Probiotic คือกลุ่มแบคทีเรียหรือยีสต์ที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร และระบบอื่นๆ ของร่างกาย เมื่อมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและระบบอื่นๆ ของร่างกาย เนื่องจากจุลินทรีย์ที่เป็นมิตรเหล่านี้มีส่วนช่วยในการดูดซึมสารอาหาร การป้องกันโรค และรักษาภาวะที่ผิดปกติของร่างกาย
โพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียและยีสต์ที่มีชีวิตซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพเมื่อบริโภคในปริมาณมาก
โปรไบโอติกที่พบบ่อยที่สุดสองชนิดในท้องตลาด ได้แก่ แบคทีเรียชนิดดีที่เรียกว่า แลคโตบาซิลลัสและบิฟิโดแบคทีเรียม
ข้อควรทราบเกี่ยวกับโปรไบโอติก(Probiotic)
1.โปรไบโอติกสามารถทําให้เกิดปัญหาหัวใจได้หรือไม่
อายุรแพทย์โรคหัวใจ มักจํากัดเฉพาะผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเท่านั้น ซึ่งร่างกายอ่อนแอมีผลต่อการติดเชื้อ
2.สามารถรับประทานวิตามินร่วมกับโปรไบโอติกได้หรือไม่
วิตามินแต่ละตัวทำงานในรูปแบบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงไม่มีปฏิกิริยาระหว่างวิตามินและโปรไบโอติก หมายความว่า
การเพิ่มโปรไบโอติกพร้อมวิตามินของโดยทั่วไป ไม่มีปัญหาเลย! ไม่ว่าเราจะรับประทานวิตามินซี วิตามินดี วิตามินบี หรือแม้แต่แร่ธาตุ เช่น แมกนีเซียม สังกะสี หรือธาตุเหล็ก โปรไบโอติกจะไม่รบกวนเช่นกัน
3.ยาบางชนิดที่อาจทําปฏิกิริยากับโปรไบโอติกบางชนิด ได้แก่ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านเชื้อรา (เช่น clotrimazole, ketoconazole, griseofulvin, nystatin)
4.ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาก เช่น ผู้ที่ได้รับเคมีบําบัด ไม่ควรทานโปรไบโอติกเนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อ นักโภชนาการสามารถช่วยระบุโปรไบโอติกที่มีสายพันธุ์แบคทีเรียตามเงื่อนไขต่างๆ
จุลินทรีย์ที่ดีมีหลายสายพันธุ์
ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้น นอกจากช่วยเรื่องฟื้นฟูสุขภาพทั่วไปและสุขภาพทางเดินอาหารเหมือนกันแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่เฉพาะตัวเช่น
1.บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กติส (Bifidobacterium lactis)ช่วยรักษาอาการผิวหนังเป็นผื่นคันจากภูมิแพ้
2.แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ (Lacticaseibacillus casei )ช่วยเรื่องท้องร่วงจากการใช้ยาปฎิชีวนะ ติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอด ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ภูมิแพ้ต่างๆ และโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง
3.แลคโตบาซิลลัส แพลนทารัม (Lactobacillus plantarum )ช่วยเรื่องโรคสำไส้อักเสบ โรคลำไส้แปรปรวน และท้องร่วงในระหว่างการเดินทาง
4.แลคโตบาซิลลัส รามโนซัส (Lacticaseibacillus rhamnosus )ช่วยเรื่องท้องร่วงจากยาปฎิชีวินะ ท้องร่วงจากการติดเชื้อคลอสตริเดียมดิฟฟิไซล์
5.เมื่อใช้โปรไบโอติกครั้งแรก บางคนมีอาการท้องอืด ท้องอืด หรือท้องเสีย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลําไส้อาจส่งผลให้แบคทีเรียผลิตก๊าซมากกว่าปกติ อาจนําไปสู่อาการท้องอืดได้ อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะหายไปภายใน2-3 วัน
หรือหลายสัปดาห์ หลังจากรับประทานโปรไบโอติก
6.น้ําตาลและสารให้ความหวานเทียมไม่ดีต่อลําไส้ เนื่องจากอาจทําให้ลําไส้อิ่มตัวด้วยแบคทีเรีย 'ไม่ดี' มากขึ้น อาหารแปรรูปอาจทําให้เกิดความไม่สมดุลของแบคทีเรียและทําให้กระเพาะอาหารเกิดการทําลายแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
7.งานวิจัยบางฉบับพบว่า มีการเชื่อมโยงโปรไบโอติกกับการติดเชื้อร้ายแรงและผลข้างเคียงอื่นๆ ซึ่งคนที่มีแนวโน้มที่จะมีปัญหามากที่สุดคือ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ผู้ที่ได้รับการผ่าตัด และผู้ป่วยหนัก อย่าใช้โปรไบโอติกหากมีปัญหาเหล่านั้น
ที่มา :
When Probiotics Are Bad For You - Heart to Heart Medical ...hearttoheartmedicalcenter.com › Blog
5 Possible Side Effects of Probiotics - Healthlinewww.healthline.com › nutrition › probioti...
Probiotics, Prebiotics & Synbiotics: Benefits, Definition, Side ...www.medicinenet.com › probiotics › article
Could You Benefit From a Probiotic Supplement? | Everyday ...www.everydayhealth.com › digestive-health
วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วิตามินช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้จริงหรือ
1.วิตามินซี ช่วยในการลดระยะเวลาและความรุนแรงของโรคหวัด
รวมถึงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพอีกด้วย การวิจัยชี้ให้เห็นว่า การอักเสบมีส่วนสําคัญต่อกระบวนการเกิดภูมิแพ้ วิตามินซีอาจบรรเทาอาการอักเสบได้
โดยทั่วไป ไม่แนะนําให้รับประทานวิตามินที่เป็นกรดสังเคราะห์มากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน(ยกเว้นวิตามินชนิดเอสเตอร์(Ester)ซึ่งสกัดความเป็นกรดออกไปจนหมดสิ้น)เนื่องจาก
อาจนําไปสู่ผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง ตะคริว และท้องร่วง ปริมาณวิตามินซีที่สูง ยังสามารถรบกวนการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จําเป็นอื่นๆ ได้
วิตามินซีทําหน้าที่แตกต่างจากยาต้านฮีสตามีน โดยช่วยลดปริมาณ
ฮีสตามีนที่ร่างกายผลิต แทนที่จะปิดกั้นตัวรับฮีสตามีน การวิจัยชี้ให้เห็นว่า ระดับฮีสตามีนอาจลดลงประมาณ 38% หลังจากที่ร่างกายได้รับวิตามินซี 2 กรัม (2000 มิลลิกรัม)
การได้รับวิตามินซีในปริมาณที่สูงขึ้นผ่าน IV(หลอดเลือดดำ)อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทาน
การศึกษาขนาดเล็ก ในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคติดเชื้อจำนวน 89 คน พบว่าผู้ที่ได้รับวิตามินซี 7.5 กรัม (7500 มิลลิกรัม)
ทางหลอดเลือดดํา มีฮีสตามีนในเลือดน้อยลงประมาณ 50%
การศึกษาพบว่า ผู้ที่มีอาการแพ้ได้รับประโยชน์จากการลดฮีสตามีนมากกว่าผู้ที่มีโรคติดเชื้อ ซึ่งหากมีภาวะติดเชื้อการเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวจะมีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินซี
ปลายปีที่แล้ว แป้งป่วยเป็นภูมิแพ้กำเริบ มีอาการน้ำมูกไหล ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ ไอ โดยจะไอแห้งๆในเวลากลางคืน(ช่วงที่อากาศเริ่มเย็น)และคันคอมากจนต้องลุกขึ้นมาไอ ทำให้สะดุ้งตื่นช่วงเช้าตรู่เวลาประมาณ 6 โมง(แป้งเปิดแอร์ 28 องศา ช่วง 6 โมงอุณหภูมิในห้องนอนจะลดต่ำลงเหลือ 25 องศา) ถือว่าเย็นมากสำหรับคนป่วย ความเย็นคือสาเหตุที่กระตุ้นภูมิแพ้ ส่งผลให้แป้งคันคอจนไอแห้ง)
บอกก่อนว่า แป้งไม่ได้ไปหาหมอและกินยาแผนปัจจุบันสักเม็ดเพราะไม่อยากได้ผลข้างเคียงของยาที่แถมมาด้วย เลยลุกมากิน Ester-c 1000 mg จำนวน 1 เม็ด แล้วนอนต่อ ต่ออาการคันคอยังคงอยู่ ตัดสินใจลุกไปกิน Ester-c 1000 mg อีก 2 เม็ด ภายใน 10-15 นาที แป้งหายคันคอเป็นปลิดทิ้ง พอตื่นขึ้นมาสดชื่นเสียจริง
ส่วนสาเหตุที่ภูมิแพ้กำเริบเพราะแป้งออกกำลังกายในฟิตเนส 2 ชม.ครึ่ง ปกติเล่นแค่ 1 ชม.พอดีเห็นว่า เป็นวันหยุดเลยเล่นเพลินจน
ร่างกายอ่อนล้า เมื่อใดที่เราไร้เรี่ยวแรง พลังชีวิตจะตก ในที่นี้จะหมายถึงระดับภูมิคุ้มกันจะต่ำลงด้วย ภูมิแพ้ถามหาสิคะ
คืนต่อมา ราวตี 5 เศษ อาการหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ยังคงอยู่ คราวนี้เด้งลุกจากเตียงไปกิน Ester-c 1000 mg จำนวน 2 เม็ดรวดเดียว อีก 15 นาทีต่อมา ไม่คันคอและไอ นอนต่อได้สบาย
คืนสุดท้าย 6 โมงกว่า แป้งคันคอแล้วจะไอเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าอาการคันคอลดลงมาก ไม่คันคอเท่า 2 คืนแรก เริ่มไอแค่แค๊กเดียว แป้งลุกไปกิน Ester-c 2 เม็ด ไม่ถึง 10 นาที อาการคันคอหายไปสิ้นสุดความทรมาน ใช้เวลา 3 คืน หายป่วยจากภาวะหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้ซะที 🎉 🎊 🎉
สาเหตุที่กินวิตามินซีเพียงเม็ดเดียวแล้วอาการกำเริบจากภูมิแพ้ยังคงอยู่ เนื่องจากวิตามินซีจะออกฤทธิ์ได้ดีและมีประสิทธิภาพในตอนที่ร่างกายเจ็บป่วยต้องมีปริมาณ( Dose)มากกว่า 2000 mg ขึ้นไป กินแค่เม็ดเดียวแทบไม่มีประโยชน์อันใดเพราะระดับฮีสตามีนลดลงน้อยมาก(เทียบจากงานวิจัย) ความเจ็บป่วยยังคงอยู่เท่าเดิม แป้งทดลองมาแล้วคะ
ปล.ช่วงที่ป่วย ไม่ได้กินวิตามินใดๆ ยกเว้น Ester-c
2.โพรไบโอติก(Probiotic)
แลคติกาเซอิบาซิลลัส เดิมเรียกว่า แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส
ในโพรไบโอติกอาจช่วยคืนสมดุลให้กับระบบจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ นับตั้งแต่โรคภูมิแพ้ไปจนถึงโรคอ้วน ความเครียดเรื้อรัง และการรับประทานอาหารที่ผ่านการแปรรูปและมีน้ำตาลมากเกินไป ล้วนสร้างความเสียหายต่อระบบจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร
การคืนความสมดุล มีส่วนช่วยลดปฏิกิริยาตอบสนองต่ออาการแพ้ เนื่องจากแบคทีเรียที่สมดุลในลำไส้จะช่วยลดอาการอักเสบทั่วร่างกาย และปกป้องเยื่อบุลำไส้จากความเสียหายที่อาจทำให้ภูมิแพ้แย่ลงได้ แป้งคิดว่า มีผลจริงๆนะคะ ซึ่งหลายคนมองข้ามจุดนี้ไป
การศึกษาหนึ่งพบว่า การดูแลลำไส้ของเด็กให้มีแบคทีเรียแลคติกาเซอิบาซิลลัสอย่างเพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเมื่ออายุได้ 5 ปี ไม่มีอะไรที่ทำให้จามได้อีกแล้ว
การทบทวนการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2022 พบว่า โปรไบโอติกบรรเทาอาการอย่างมีนัยสําคัญ ช่วยปรับคุณภาพชีวิตในผู้ใหญ่และเด็กที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
อย่างไรก็ดี มีโปรไบโอติกหลายสายพันธุ์ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริม แต่มีเพียงหยิบมือเดียวที่อาจช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้ อีกทางเลือกหนึ่งคือ รับประทานโปรไบโอติกจากอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต, เคเฟอร์, คอมบุชา, ผักดอง, เทมเป้, กิมจิ, มิโซะ, ขนมปังซาวโดว์ และครีมเปรี้ยว
ความจริงแป้งทำกิมจิ แตงกวาดอง แหนมเห็ดนางฟ้ากินเอง(เพิ่งเริ่มกินตอนต้นปี)โดยกระบวนการหมักดองเพื่อให้เกิดจุลินทรีย์ชนิดดีหรือเรียกว่า โปรไอติก(probiotic)จะไม่มีการเติมน้ำส้มสายชูหรือกรดน้ำส้ม(citric acids)ในแตงกวาดองเพราะแป้งเคยมีอาการกรดไหลย้อนมาก่อน เลยไม่อยากเติมกรดสังเคราะห์ลงไปอีกคะ
แต่พอกินซ้ำๆเลยพาลจะเบื่อ เลยมองหาโปรไบโอติกจากโยเกิร์ตแทน แป้งจะเอาโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย(135 กรัม)ปั่นรวมกับน้ำใบย่านาง 300 ml+ผักกาดขาว 2 ใบ ใช้เวลาปั่นเพียง 30 วินาที(ความร้อนจากการปั่นที่กินเวลานานขึ้น จะลดคุณค่าของใบย่านางลง) ดื่มได้ทุกวันร่วม 3 เดือน ยังไม่เบื่อแต่กลับชอบมากเพราะเห็นผลชัดเจน
แป้งสังเกตว่า เมื่อก่อนเวลาเราทำกับข้าวหรือทำงานบ้านโดยไม่เปิดแอร์ สักพักเหงื่อจะท่วมตัว+หัวชื้น พอผมเปียกแล้วโดนพัดลมเพียงแค่พัดผ่าน เราจะจามฮัดเช้ยทันที อ๋อ!!ภูมิแพ้มาอีกล่ะ
ตั้งแต่กินโยเกิร์ตปั่นรวม ถึงแม้หัวแป้งจะเปียกแฉะโดนพัดลมแค่ไหน ไม่มีไอจามแต่อย่างใดแถมระบบย่อยอาหารดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเวลากินธัญพืชท้องไม่อืดบวมเหมือนเคย เมื่อก่อนจะกินลูกเกดดำซัลตานา(ผลิตในตุรกี)ไม่ได้เลย สาเหตุคือ กระบวนการผลิตจะใส่สารซัลไฟต์เพื่อฟอกสีและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ยีสต์และแบคทีเรีย ทำให้เก็บรักษาอาหารได้นาน ซึ่งกินทีไร ท้องอืดทันตา ตอนนี้กินได้ชิลๆ ไม่ท้องอืดแต่อย่างใด
หมายเหตุ
1.แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส พบในโยเกิร์ตหลายยี่ห้อ
2.ใบย่านางและผักกาดขาวมีฤทธิ์เย็น เหมาะกับคนที่เป็นกรดไหลย้อน ช่วยปรับสมดุลร่างกายได้ดี ทั้งนี้ใบย่านางมีฤทธิ์เย็น โปรดระมัดระวังในการกินเพราะจะเกิดตะคริว มือชาได้ง่าย
3.แป้งเคยกินโปรไบโอติกที่เป็นอาหารเสริมแค่เม็ดเดียว มีอาการท้องอืดบวมอย่างหนัก เลยตัดสินใจมองหาแบบธรรมชาติดีกว่า
ที่มา :
9 Best Natural Antihistamines for AllergiesVerywell Healthhttps://www.verywellhealth.com › natur...
Vitamin C for Allergies: Effectiveness, Uses, and PrecautionsHealthlinehttps://www.healthline.com › nutrition
Natural antihistamines: Top 8 remedies for allergiesMedicalNewsTodayhttps://www.medicalnewstoday.com › a...
18 supplements for allergy relief and preventiondr. ronald hoffmanhttps://drhoffman.com › article › 18-sup...
วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
โรคภูมิแพ้ที่ใครหลายคนไม่อาจเอาชนะได้
โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบบ่อยในคนไทยและหลายล้านคนทั่วโลกสร้างความทุกข์ทรมานไปพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ต่ำลง ยิ่งป่วยนานวัน การอักเสบในร่างกายจะคงอยู่นานขึ้น
โรคนี้เกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย แล้วกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารนั้นมากผิดปกติ ภายหลังเมื่อได้รับสารนั้นเข้าไปอีก ภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะกระตุ้นให้เกิดอาการ ซึ่งจะเกิดอาการเฉพาะในคนที่แพ้เท่านั้น ในคนปกติจะไม่เกิดอาการแต่อย่างใด
โรคภูมิแพ้ไม่ใช่แค่ทำให้คัดจมูก หายใจมีเสียงหวีดและจามเท่านั้น ละอองเกสรและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ยังสามารถทำลาย DNA ในจมูก ไซนัสและปอด ทำให้เกิดการอักเสบซึ่งส่งผลให้อาการแพ้รุนแรงขึ้นรวมถึงภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง นอกจากนี้ละอองเกสรดอกไม้ยังสามารถทำให้อาการหอบหืดกำเริบได้
การศึกษาหนึ่งของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่า การเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินมีสาเหตุมาจากปฏิกิริยาตอบสนองต่อละอองเกสรและหญ้าอันเนื่องจากโรคหอบหืดนั้น
มีมากถึง 60,000 เคสต่อปี ส่วนประชากรไทยราว 18 ล้านคน ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ พบในเด็กมากถึง 40 % ผู้ใหญ่ 26 %
โรคภูมิแพ้ เป็นกลุ่มของโรคที่แสดงอาการได้กับหลายระบบของร่างกาย อาการของโรคภูมิแพ้ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคภูมิแพ้ที่เป็น ซึ่งพยาธิสภาพนั้นเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ทํางานมากเกินไป ทําให้เยื่อบุที่อวัยวะต่างๆ มีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากเกินไป ทำให้เกิดการตอบสนองที่มากผิดปกติของอวัยวะนั้นๆ เช่น
1.กรณีเป็นที่ตา เรียกว่า เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic conjunctivitis) ผู้ป่วยจะมีอาการคัน เคืองตา ตาแดง นํ้าตาไหล หนังตาบวม แสบตา
2.กรณีเป็นที่จมูก เรียกว่า โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic rhinitis) หรือโรคแพ้อากาศ ผู้ป่วยจะมีอาการจาม คันจมูก นํ้ามูกไหลออกมาทางจมูกหรือไหลลงคอ คัดจมูก คันเพดานปากหรือคอ
3.กรณีเป็นที่หลอดลม เรียกว่า โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด (asthma) ผู้ป่วยจะมีอาการ ไอ หอบเหนื่อย หายใจขัด แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงวี้ด หายใจลําบากหรือหายใจเร็ว โดยเฉพาะเวลาตอนกลางคืน ตอนเช้ามืด หรือขณะออกกําลังกายหรือขณะเป็นไข้หวัด
4.กรณีเป็นที่ผิวหนัง เรียกว่า โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (atopic dermatitis) ผู้ป่วยจะมีอาการ คัน มีผดผื่นตามตัว ผื่นมักแห้ง แดง มีสะเก็ดบางๆ หรือมีนํ้าเหลืองแห้งกรังปกคลุมอยู่
ในเด็กเล็ก มักเป็นที่แก้ม ก้น หัวเข่าและข้อศอก ส่วนเด็กโตมักเป็นที่ข้อพับของแขนและขา ในรายที่เป็นเรื้อรัง ผิวหนังบริเวณที่เป็น จะหนาตัวขึ้นและมีสีคลํ้าขึ้น
นอกจากนั้นผิวหนังอาจเกิดการอักเสบ จากการสัมผัสกับสารบางชนิดที่แพ้ได้ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เครื่องสําอาง ผิวหนังอาจมีการอักเสบเป็นตุ่มนูนคันหรือใหญ่เป็นปื้นนูนแดงและคันมากที่เรียกว่า ลมพิษ ซึ่งมักจะเกิดจากการแพ้อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเล หรือ แพ้แมลงกัดต่อย หรือแพ้ยา
5.กรณีเป็นที่ระบบทางเดินอาหาร เรียกว่า โรคแพ้อาหาร (food allergy) ผู้ป่วยจะมีอาการ อาเจียน คลื่นไส้ ท้องเสีย ปากบวม ปวดท้อง ท้องอืด อาจมีอาการของระบบทางเดินหายใจ (เช่น หอบหืด, แพ้อากาศ) และผิวหนัง (เช่น ผื่นคัน, ลมพิษ) ร่วมด้วย อาหารที่เป็นสาเหตุได้บ่อย ได้แก่ นมวัว ไข่ ถั่ว อาหารทะเล ผัก และผลไม้บางชนิด ผงชูรส สารกันบูด สารแต่งกลิ่นและสี
ภูมิแพ้ที่กล่าวมาทั้ง 5 ข้อ แป้งเป็นครบหมด ยกเว้นข้อ 3
ยิ่งข้อ 5 เนี่ย ช่วงอายุ 30-46 ปี อาการแพ้กำเริบปีละ 1-2 ครั้ง แต่ละครั้งจบที่เข้าห้องฉุกเฉิน ฉีดยา CPM+Dexamethasone เข้าเส้นเลือด พัก 1-2 ชม.แล้วกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน
4 ปีที่แล้ว แป้งดื่มน้ำฝรั่ง(เห็นพนักงานเทจากแกลลอนไม่ใช่ยี่ห้อดัง)ที่โรงแรมแค่แก้วเดียว เพียง 2 ชม.ผ่านไป ภูมิแพ้ที่ระบบทางเดินอาหารกำเริบมีอาการคันตามผิวหนัง ตาบวมท้องบวม พอไปห้องฉุกเฉิน เล่าอาการให้แพทย์ฟัง ยังจำคำพูดได้ดีว่า ’’คุณแพ้หนักขนาดนี้ ยังจะดื่มน้ำผลไม้อยู่อีกเหรอ‘‘ ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก พอฉีดยาสูตรเดิมเข้าเส้นเลือดเสร็จ กลับมาพักที่บ้าน ตั้งปณิธานว่า ''จะเลิกดื่มน้ำผลไม้ตลอดชีวิต''
ปัจจุบัน โรคภูมิแพ้ของแป้งอยู่ในระยะสงบ ไม่ไอจามยามค่ำคืน ดื่มน้ำผลไม้กล่องยี่ห้อทิปโก้ได้สบาย ไม่มีอาการแพ้อาหารเหมือนในอดีต อาหารที่เคยแพ้กลับกินได้หมดทุกอย่าง เคยแพ้เม็ดสีเฉดชมพูในอายชาโดว์หรือบรัชออน แป้งสามารถทาได้ไม่มีอาการคันระคายเคืองเลย ดีใจสุดๆคะ
ช่วงนี้ไวรัสที่มากับสายฝนกำลังระบาด หลายคนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไม่ก็โควิด พานอนซมกันเยอะมากๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ดังคำกล่าวที่ว่า ความไม่มีโรคเป็นพรอันประเสริฐ หากไม่อยากเจ็บป่วย พยายามดูแลตัวเองให้ดี กินวิตามินต่อเนื่อง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ปล่อยวาง พักผ่อนเยอะๆนะคะ
ขอบคุณมากมายที่ติดตามอ่านจนจบคะ
ที่มา :
รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสนภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยาFaculty of Medicine Siriraj Hospitalคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
Estimates of Present and Future Asthma Emergency ...AGU Publicationshttps://agupubs.onlinelibrary.wiley.com › ...
วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
ยาแก้แพ้กับผลข้างเคียงที่คุณอาจไม่เคยรู้
ย้อนรอยสารเคมีกำจัดแมลงที่เคยนึกว่าอยู่ไกลตัว(ตอนที่ 2)
24 ต.ค.2567 เป็นข่าวฮือฮาเมื่อเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ร่วมกับ นิตยสารฉลาดซื้อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงผลการตรวจสา...
บทความยอดนิยม
-
ความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นปัญหาใหญ่หลวงสำหรับผู้ชายหลายคน จะเริ่มมาเยือนตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป มีปัจจัยหลายอย...
-
การดำเนินชีวิตประจำวันของคนเราทุกวันนี้ เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ไม่รู้จะรีบกันไปถึงไหน ยิ่งในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรที่ได้การ...
-
hamercandysiam.lnwshop.com ลูกอมรสกาแฟผลิตในมาเลเซีย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายดีอันดับหนึ่งประเภทบำรุงร่างกายและเพิ่มสมรรถภาพใน...
-
ในปัจจุบันนี้ แทบทุกคนจะเป็นภูมิแพ้กันทั้งสิ้น แป้งเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นมานมนานต้ังแต่เด็กๆจนกระทั่งเริ่มเรียนม.ต้น ช่วงเช้าจะมีน้...
-
เรียนแจ้งทุกท่านเพื่อโปรดทราบ แป้งย้ายการตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ และผิวพรรณ ประจำสัปดาห์มายัง https://pangpungpond.blogspot.com/ เนื่องจาก...
-
Mentalk เป็นลูกอมโสมทะเลทรายเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เกรดพรีเมี่ยมชื่อดังในตำนาน ผลิตในประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วยสมุนไพรชั้นเยี่ยม ปราศจากสารเคมีใ...
-
วิตามินที่กล่าวถึงต่อไปนี้ เรียกว่า borage oil ( น้ำมันโบราจ ) บางคนอาจไม่ค่อยคุ้นเคยห...
-
คนที่มีความสุขกับการกิน ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรเข้าปาก มักจะเอร็ดอร่อยเสมอ บางทีกินแค่นิดเดียว แต่น้ำหนักขึ้นเอาๆ พยายามลดการกินลง แต่ไม่ได้ผลเ...
-
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า grape seed ช่วยในเรื่องการลดเม็ดสีที่เกิดจากการทำลายของแสงแดด ส่งผลให้สีผิวสม่ำเสมอ และขาวใสขึ้น ลองมาดูกันดีกว่...
-
แป้งได้รับข้อความขอบคุณจากหลังไมค์ท่านหนึ่ง ซึ่งอ่านบทความในบล็อก’’Goutless ชาลดอาการกำเริบโรคเกาต์อย่างเห็นผลชะงัด’’ ซึ่งพ่อของผู้อ่านท่าน...