บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ไม่ควรที่จะมีใครต้องมาเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้(ตอนจบ)

ตำรับอาหารของเบิร์นสไตน์เป็นอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก

ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานบรรเทาและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ หรือลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน


ย้ำว่า ไม่ใช่อาหารลดน้ําหนัก แม้ว่าจะมีแนวโน้มว่าใครก็ตามที่ทําตามได้จะลดน้ําหนักได้


เนื่องจากจํากัดคาร์โบไฮเดรตอย่างมาก อาหารเบิร์นสไตน์จึงแตกต่างจากแนวทางการบริโภคอาหารสําหรับโรคเบาหวานที่ส่งเสริมโดยสมาคมทางการแพทย์ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงปัจจุบัน


อาหารเบิร์นสไตน์จํากัดจํานวนคาร์โบไฮเดรต 30 กรัมต่อวัน(ข้าวขาว 1 ทัพพี (โดยประมาณ) มีคาร์โบไฮเดรต 18 กรัม)


อาหารเบิร์นสไตน์ไม่มีกฎหรือแนวทางเกี่ยวกับโปรตีน ไขมัน หรือแคลอรี่ทั้งหมด 


อาหารของเบิร์นสไตน์ไม่ใช่อาหารลดน้ําหนัก แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดน้ําตาลในเลือด อาหารไม่สามารถพิจารณาได้ว่า "แคลอรี่ต่ํา" เนื่องจากไม่มีข้อจํากัด เกี่ยวกับปริมาณโปรตีนหรือไขมันที่คุณสามารถรับประทานได้


อาหารเบิร์นสไตน์ยังมีมุมมองที่แตกต่างของโปรตีนในอาหารมากกว่าแนวทางทางการแพทย์ส่วนใหญ่ ในขณะที่การจํากัดโปรตีนเป็นคําแนะนำหลักด้านโภชนาการโรคเบาหวานแบบดั้งเดิม ดร. เบิร์นสไตน์ไม่เห็นเหตุผลที่จะจํากัดการบริโภคโปรตีน เนื่องจากพอลดคาร์บลง เราจะไม่มีรู้สึกอิ่มหรือไม่มีเรี่ยวแรงเท่ากับตอนกินคาร์บเยอะๆ ดังนั้นการเพิ่มโปรตีนและไขมัน จะทำให้เรารู้สึกอิ่มและมีพลังงานมากขึ้นจากการเผาผลาญโปรตีนและไขมัน โดยที่ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

หมายเหตุ


1.ขนมอบและธัญพืชส่วนใหญ่ทำจากแป้งขัดสี ธัญพืชบางชนิดมีไขมันและน้ำตาลสูง เมื่อรับประทานเข้าไป ร่างกายจะย่อยและดูดซึมเป็นน้ำตาลอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง


2.พืชตระกูลถั่วทุกชนิด 

ดร.เบิร์นสไตน์แนะนำให้จำกัดการบริโภคพืชตระกูลถั่วในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตและใยอาหารสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ แม้ว่าถั่วจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นๆ เช่น โปรตีนและแร่ธาตุ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลอย่างเคร่งครัด การจำกัดปริมาณถั่วจึงเป็นสิ่งสำคัญ 


พืชตระกูลถั่วเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเมื่อย่อยแล้วจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด


3.ดร.เบิร์นสไตน์ไม่ได้ห้ามกินมะเขือเทศในการลดน้ำตาล แต่แนะนำให้จำกัดปริมาณที่บริโภคเนื่องจากมะเขือเทศมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นเบาหวานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลอย่างเข้มงวด


4.น้ำหวานจากอะกาเว่ (Agave Nectar) หรือที่เรียกกันว่า น้ำเชื่อมอะกาเว่ คือน้ำหวานที่สกัดจากต้นอะกาเว่ ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งสามารถพบได้ในแถบเม็กซิโกและอเมริกาใต้

5. พืชตระกูลถั่ว (Legumes) คือพืชที่อยู่ในวงศ์ Fabaceae (หรือ Leguminosae) ซึ่งมีลักษณะเป็นฝักและมีเมล็ดอยู่ภายใน ฝักและเมล็ดของพืชตระกูลถั่วสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด 


ตัวอย่างพืชตระกูลถั่วที่นิยมนำมาประกอบอาหาร ได้แก่

ถั่วเมล็ดแห้ง (Dry beans)เช่น ถั่วเหลือง, ถั่วแดง, ถั่วดำ, ถั่วขาว, ถั่วเขียว, ถั่วลันเตาถั่วฝัก (Fresh beans)เช่น ถั่วฝักยาว, ถั่วพู, ถั่วแขกถั่วอื่นๆ เช่น ถั่วลิสง, ถั่วชิกพี (chickpea), ถั่วเลนทิล, ถั่วลิมา, ถั่วเนย


6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้าหนึ่งออนซ์ครึ่งหรือเบียร์หนึ่งกระป๋องมีแนวโน้มที่จะมีผลต่อระดับน้ําตาลในเลือดขึ้นเล็กน้อย


เรียบเรียงโดย แป้งปังปอนด์





ที่มา :


Dr. Bernstein's Diabetes Diet: Pros, Cons, and How It Works


https://diatribe.org/diet-and-nutrition/which-yogurt-best-people-diabetes

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ไม่ควรที่จะมีใครต้องมาเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้(ตอนจบ)

ตำรับอาหารของเบิร์นสไตน์เป็นอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานบรรเทาและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ หรือ...

บทความยอดนิยม