โรคเบาหวาน คือ 1 ใน 5 กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งเป็น
กลุ่มโรคที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบสาธารณสุขของประเทศไทย ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพกว่า 4 แสนล้านบาท หรือกว่า 75% ของงบประมาณสุขภาพทั้งหมดถูกใช้ไปสำหรับรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs
ความอันตรายของโรคเบาหวานคือ
มักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาในกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคไตวายเรื้อรัง ฯลฯ
ปัจจุบันเรารู้ว่า อาหารเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค NCDs
อาจดูเหมือนว่า มีความยุ่งยากในการเลือกอาหารการกิน ถ้าหากคุณไม่อยากป่วย ต้องไปหาหมอนั่งรอหลายชั่วโมงเพื่อพบแพทย์ แล้วได้คุยไม่ถึง 5 นาที สุดท้ายได้รับยากลับบ้านเป็นตะกร้า กินยารักษาโรคหนึ่ง กลับได้ของแถม(ที่ไม่มีใครอยากได้)คือ ผลข้างเคียงของยา เรียกว่า เจ็บป่วย 1 โรคแถมผลข้างเคียงอีก 1 โรคเสมอ
พึงระลึกไว้ว่ายาเป็นสารเคมี ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรักษาและบรรเทาความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นของมนุษย์ชั่วคราว ไม่ควรที่จะมีผู้ป่วยคนไหนต้องกินยารักษาโรคไปตลอดชีวิต ถึงแม้ในอดีตจะพบว่าโรคหลายอย่างรักษาไม่หาย แต่กลับไม่ใช่โรคเบาหวานชนิดที่ 1
(ต้องฉีดอินซูลินตลอดชีวิต)
Richard K.Bernstein (ริชาร์ต เค เบิร์นสไตน์)เป็นเด็กที่มีน้ำหนักมากและป่วยหนัก ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ในปี 1946 เมื่ออายุ 12 ปี ในเวลานั้นแผนการรักษาโรคคือ อาหารคาร์โบไฮเดรตสูง การฉีดอินซูลินทุกวันและพบแพทย์ตามนัดทุกเดือนเพื่อตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด เบิร์นสไตน์ประสบกับภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงของโรคเป็นเวลาหลายปี ทั้งๆที่พยายามปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด
ในปี 1969 ขณะนั้นอายุ 40 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนอาชีพจากวิศวกร เบิร์นสไตน์ได้ซื้อเครื่องวัดระดับน้ําตาลในเลือด ซึ่งในอดีตจะใช้เฉพาะโรงพยาบาลเท่านั้น เขาเริ่มทดสอบระดับน้ําตาลในเลือดตลอดทั้งวัน เพื่อพยายามหาว่าปัจจัยใดที่จะทําให้ระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นหรือลดลง
เขาพยายามศึกษาหาแนวทางอื่นๆที่น่าจะจัดการกับเบาหวานได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ โดยเช็คน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่องว่าสัมพันธ์กับอาหาร กิจวัตรประจำวันและปริมาณอินซูลินที่ใช้อย่างไร แล้วจึงปรับเรื่องอาหาร
เบิร์นสไตน์สามารถจัดการระดับน้ำตาลได้ด้วยการผสมผสานระหว่างอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ํา(การแพทย์สมัยก่อนจำเป็นต้องให้กินอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงเนื่องจากเมื่อฉีดอินซูลินเข้าไป ระดับน้ำตาลจะลดฮวบฮาบ)การออกกําลังกาย และอินซูลินในปริมาณที่น้อยกว่าอาหารที่รับประทาน ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างของโรคเบาหวานในอดีตได้รับการแก้ไขแล้ว
ในขณะที่คำแนะนำทางการแพทย์ยังถือว่าสารอาหารหลักคือคาร์โบไฮเดรต แต่เบิร์นสไตน์ใช้แนวทางโลว์คาร์บ(คาร์โบไฮเดรตต่ำ)เน้นไปที่โปรตีนและไขมัน ทำให้ควบคุมน้ำตาลได้ดีในระดับที่วงการแพทย์เคยเชื่อว่า‘‘ไม่น่าจะเป็นไปได้’’
เบิร์นสไตน์ได้พยายามเสนอแนวคิดใหม่ แต่ไม่ได้รับการยอมรับเนื่องจากไม่ใช่แพทย์ เรียกได้ว่า พูดไปเถอะ พูดเท่าไหร่ก็ไม่มีใครสนใจฟังอยู่ดี(อันนี้แป้งเติมเอง)
จึงได้ตัดสินใจเข้าเรียนในโรงเรียนแพทย์เมื่ออายุ 45 ปี โดยเรียนต่อเฉพาะทางด้านต่อมไร้ท่อและได้รับปริญญาจากวิทยาลัยการแพทย์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เปลี่ยนสถานะจากวิศวกรมาประกอบวิชาชีพเวชกรรมในฐานะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ (Endocrinologist)
นพ.เบิร์นสไตน์ ได้ใช้แนวทางโลว์คาร์บในการรักษาให้กับผู้เป็นเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ทำให้ผู้ป่วยควบคุมเบาหวานให้อยู่ในระยะสงบและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมจำนวนมาก
นพ.เบิร์นสไตน์ยังอุทิศตนให้ความรู้ในการจัดการเบาหวานกับประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังได้เขียน Dr. Bernstein’s Diabetes Solution ซึ่งเป็นทั้งหนังสือและตำราสำหรับผู้เป็นเบาหวานและบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
หนังสือดร. Bernstein's Diabetes Solution ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1997 และอัปเดตในปี 2011 เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น ปั๊มอินซูลิน เครื่องวัดน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่อง(CGM)ยา รวมถึงอินซูลินที่สูดดมและสูตรอาหารได้กลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานสําหรับผู้ป่วยและแพทย์ทั่วโลก
หนังสือเล่มนี้ท้าทายคําแนะนําด้านอาหารคาร์โบไฮเดรตและสนับสนุนการบําบัดโรคเบาหวานด้วยการจํากัดคาร์โบไฮเดรตแทนด้วยโปรโตคอลอินซูลินโดยละเอียดและกลยุทธ์การจัดการไลฟ์สไตล์มุ่งเป้าไปที่การบรรลุระดับน้ําตาลในเลือดให้เป็นปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้ เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้สําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เย้!!
Bernstein เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 15 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา ศิริอายุรวม 90 ปี แสดงว่า แนวทางการรักษาภาวะเบาหวานคือ โลว์คาร์บ(คาร์โบไฮเดรตต่ำ)เน้นโปรตีนและไขมัน เพิ่งเริ่มมีมา 35 ปีนี่เองนะคะ
หมายเหตุ
1.โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (type 1 diabetes mellitus)เกิดจากเซลล์ตับอ่อนถูกทำลายจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ขาดอินซูลิน มักพบในเด็ก ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 จำเป็นต้องได้รับอินซูลินไปตลอดชีวิต ในรูปแบบยาฉีด เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปกติที่สุด และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการขาดอินซูลิน ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
2.โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (type 2 diabetes mellitus)เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ร้อยละ 95 ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน มักพบในผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนร่วมด้วย
การวินิจฉัยเบาหวาน ทำได้โดยวิธีใดวิธีหนึ่งใน 4 วิธี ดังต่อไปนี้
1. มีอาการโรคเบาหวานชัดเจน ได้แก่ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมาก น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่มีสาเหตุ ร่วมกับตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเวลาใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร ถ้ามีค่า ≥200 มก./ดล.
2. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (อย่างน้อย 8ชั่วโมง) ≥ 126 มก./ดล.
3. การตรวจความทนต่อกลูโคส โดยให้รับประทานกลูโคส 75 กรัม แล้วตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่ 2 ชั่วโมง ถ้ามีค่า ≥ 200 มก./ดล.
4. การตรวจระดับน้ำตาลสะสม (A1C) ≥ 6.5%
ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกือบ 50% จะเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตลอดชีวิต บางคนอาจสูญเสียการมองเห็น ในขณะที่หลายคนเกิดโรคไตวายเรื้อรังจนต้องฟอกไตตลอดชีวิต
3.แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ (Endocrinologist) คือแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและรักษาโรคและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับระบบต่อมไร้ท่อและฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย เช่น โรคเบาหวาน, โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์, โรคกระดูกพรุน, และภาวะผิดปกติของต่อมใต้สมองและต่อมหมวกไต,วัยหมดประจำเดือน
4. เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง (Continuous Glucose Monitoring หรือ CGM) คืออุปกรณ์ที่ใช้ติดตามระดับน้ำตาลในเลือดตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเจาะเลือดซ้ำๆ เหมือนเครื่องตรวจน้ำตาลแบบเดิม CGM ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพสามารถติดตามระดับน้ำตาลในเลือดได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรักษาได้ทันท่วงที
#เบิร์นสไตน์,Berstein, Richard K.Bernstein (ริชาร์ต เค เบิร์นสไตน์,NCDs,โรคเบาหวาน,โลว์คาร์บ, คาร์โบไฮเดรตต่ำ,NCD,CGM,แป้งปังปอนด์
ที่มา :
Diabetes pioneer Dr Richard Bernstein passes away at age of ...diabetes.co.ukhttps://www.diabetes.co.uk › news › apr
นพ.ชัชวาล ลีลาเจริญพร Phimai Diabetes Remission Training Center
Dr. Bernstein's Diabetes Diet: Pros, Cons, and How It WorksVerywell Healthhttps://www.verywellhealth.com › bernsteins-diabetes-d...
โรคเบาหวาน คืออะไรสมาคม โรค เบาหวาน แห่ง ประเทศไทยhttps://www.dmthai.org › index.php › 2018-diabates-31