บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

โปรไบโอติกส์ ( Probiotics ) คืออะไรนะ


กระแสของอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีมีการพูดถึงกันอย่างมากโดยเฉพาะในแง่มุมของประโยชน์ต่อสุขภาพมายาวนาน
โปรไบโอติกส์คือ แบคทีเรียชนิดดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ของมนุษย์ เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ แบคทีเรียที่สร้างกรดแลคติก ( lactic acid ) เช่น แล็กโตบาซิลลัส ( Lactobacillus ) และ ไบฟิโดแบคทีเรีย ( Bifidobacteria ) 
แบคทีเรียกลุ่มนี้พบในผลิตภัณฑ์อาหารหมัก ( fermentation ) เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต แหนม กิมจิ น้ำหมัก ( น้ำหมักป้าเช็ง ของเค้าก็มีประโยชน์นะเนี่ย เพียงแต่ควรจะใช้รับประทานเพียงอย่างเดียว ไม่ควรใช้หยอดบริเวณที่สะอาด เช่น ดวงตา ขนาดเราเอามือไปขยี้ตาเพียงครู่เดียว การอักเสบจะเกิดขึ้นทันที ) จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อโรค ซึ่งในระบบย่อยอาหารของมนุษย์จะมีแบคทีเรียชนิดดีและแบคทีเรียก่อโรคอาศัยอยู่ปะปนกันไปเปรียบเสมือนคนในสังคมที่มีคนดีและคนไม่ดีอยู่รวมกัน นั่นเอง
โดยปกติแล้วแบคทีเรียโปรไบโอติกส์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตส่วนใหญ่ คือแบคทีเรียในกลุ่ม แล็กโตบาซิลลัส ( Lactobacillus ) และ สเตร็บโตค็อกคัส  ( Streptococcus ) แต่จากการศึกษาคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของแบคทีเรียในลำไส้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน พบว่า ความจริงแล้ว ไบฟิโดแบคทีเรีย ( Bifidobacteria ) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในอุตสาหกรรมประเภทนี้
โปรไบโอติกส์ ( Probiotics ) ในรูปที่เป็นอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เมื่อรับประทานด้วยปริมาณที่พอเหมาะจะส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภค เช่น โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวหลากหลายยี่ห้อในท้องตลาด ( ต้องวางขายในตู้แช่เย็นเท่านั้น ) แต่ไม่นับรวมถึงนมเปรี้ยวพร้อมดื่มประเภทยูเอชที เพราะไม่มีแบคทีเรียกรดนมเหลืออยู่ เนื่องจากผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อที่ความร้อนสูง นอกจากผลิตภัณฑ์สำหรับคนแล้ว 
ในปัจจุบัน ยังมีโปรไบโอติกส์สำหรับส่งเสริมสุขภาพของปศุสัตว์และประมงอีกด้วย

 ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในผู้นำทางการศึกษาเรื่องแบคทีเรียในลำไส้ เป็นผู้บุกเบิกในการผลิตโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่ได้จากหมักของ Bifidobacteria ซึ่งแม้ว่ารสชาติจะไม่ดีเท่าผลิตภัณฑ์ที่หมักจาก Lactobacillus  ( ถึงว่าสิ รสชาติแย่มาก ) แต่ด้วยประโยชน์ที่มากกว่า จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้รักสุขภาพ
ในเมืองไทยมีโยเกิร์ตที่หมักโดย Bifidobacteria วางจำหน่ายแล้ว คือ แอคทีเวีย ดัชมิลล์ โยเกิร์ตโดยทั่วไป จะต้องมีแบคทีเรียชนิดดี 2 ชนิดคือ Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus แต่โยเกิร์ตของแอคทีเวีย ดมิลล์ จะมี Bifidobacteria เพิ่มมาด้วย ราคาจึงสูงกว่ายี่ห้ออื่นในท้องตลาด 
มีประโยชน์อย่างไร
1.ช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ลดอาการท้องผูกเนื่องจากกรดแลคติกที่จุลินทรีย์ บิฟิโดแบคทีเรีย ( bifidobacteria ) ผลิตขึ้น จะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และช่วยเพิ่มความชื้นของอุจจาระ ส่งผลให้สามารถขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น
2.ป้องกันและรักษาภาวะท้องเสียโดยไปยับยั้งแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่ก่อให้เกิดโรค 
3.เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ลดการติดเชื้อไข้หวัด 
4.ลดระดับไขมันในเลือดโดยไปลดระดับของแอลดีแอลคอเลสเตอรอล ( LDL-cholesterol ) พบในสัตว์ทดลอง
5.เพิ่มการดูดซึมของวิตามินและแร่ธาตุ เช่นแคลเซียมและแมกนีเซียม
6.ลดการอับเสบภายในร่างกาย โดยเฉพาะโรคติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอดและการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
 มนุษย์มีการนำเอาโปรไบโอติกส์มาใช้ในอาหาร เป็นเวลานานกว่าหลายร้อยปีหลายประเทศทั่วโลก อาหารที่มีส่วนประกอบของโปรไบโอติกส์ เช่น นมเปรี้ยว นัตโตะ มิโสะ,เทมเป้ของประเทศญี่ปุ่น โยเกิร์ต,คีเฟอร์ของประเทศแถบยุโรป นมแพะหมักของอินเดีย ชีสสด ซาวเคราท์ซึ่งเป็นกะหล่ำปลีหมักของเยอรมนี และกิมจิของประเทศเกาหลี 
ประเภทของโปรไบโอติกส์
1.แล็กโตบาซิลลัส ( Lactobacillus ) พบโปรไบโอติกส์ชนิดนี้มากที่สุด เช่น โยเกิร์ตและอาหารหมักอื่นๆ 
2.ไบฟิโดแบคทีเรีย ( Bifidobacteria ) แยกได้ครั้งแรกจากทารกที่กินนมแม่ ในปีค.ศ 1899 โดย Henry Tissier กุมารแพทย์ชาวฝรั่งเศส ทำงานที่สถาบันปาสเตอร์ กรุงปารีส แบคทีเรียนี้มีชื่อว่า Bacillus bifidus communis ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Bifidobacteria พบในพืชและน้ำนมมารดา มีการศึกษาทางคลีนิกคือ ป้องกันและรักษาโรคท้องร่วงในทารก
จะเห็นได้ว่า สุขภาพดีเริ่มต้นง่ายๆที่ลำไส้ คนทั่วไปอาจมองข้าม อันที่จริงมีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อเรากินทั้งพรีไบโอติกส์และโปรไบโอติกส์เข้าไปทุกวัน กระบวนการหมัก ( fermentation ) ภายในลำไส้ใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ การขับถ่ายจะเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ไม่ต้องใช้แรงเบ่งหน้ามืดตามัว สารพิษตกค้างในร่างกายจะน้อยลงเพราะได้ถูกขับออกไปทุกวัน รู้อย่างนี้ต้องรีบไปหาโยเกิร์ตมากินเสียแล้ว 
แต่แป้งกินส้มตำปลาร้า อาหารประจำชาติคนอีสานเกือบทุกวันอยู่แล้ว ถือได้ว่ากินโปรไบโอติกส์กับเค้าเหมือนกัน แถมยังเอาน้ำหมักจากแอปเปิ้ล ( ทำเอง หมักไว้ 2-3 ปี ) มาแช่ข้าวเหนียวก่อนหุงทุกครั้ง ข้าวเหนียวนุ่มมาก แซ่บเวอร์








ที่มา 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เรื่องเล่าจากผลข้างเคียงของยา

หนึ่งในเหตุผลที่แป้งจะไม่ใช้ยารักษาโรคที่ไม่ซับซ้อนเป็นตัวเลือกแรกเพราะเคยพบเจอกับผลข้างเคียงหลายอย่าง  ดังนั้นวิตามินจึงเป็นตัวเลือกอันดับห...

บทความยอดนิยม