บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อนุมูลอิสระภายในร่างกาย ของแถมที่เราไม่ต้องการ


คนเราเกิดมาเพื่อดำรงชีวิต&กินเพื่ออยู่ แต่ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าอยู่เพื่อกิน จึงได้แสวงหาอาหารการกินแสนอร่อย ไม่ว่าไกลแค่ไหน ก็จะต้องดั้นด้นไปชิมให้ได้ ในความเป็นจริงอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกลับไม่ใช่อาหารที่มีรสอร่อยลิ้น เช่น ข้าวกล้อง สลัดที่อุดมไปด้วยผักใบเขียว แต่อาหารที่รสชาติอร่อยมากๆมักจะเป็นอาหารประเภทปิ้งย่าง ของทอดของมัน เค้ก ไอศครีม เบเกอรี่ เครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟเย็น ฯลฯ เมื่อก่อนแป้งก็เคยชอบกินอาหารปิ้งย่าง กลิ่นโปรตีนจากเนื้อสัตว์เมื่อโดนความร้อนผสมกับเครื่องเทศปรุงรส จะมีกลิ่นหอมโชยเตะจมูก น่ากินที่สุด เวลาเดินผ่านรถเข็นที่ขายไก่ย่าง หมูปิ้ง กลิ่นอาหารจะยั่วน้ำลายบวกกับข้าวเหนียวร้อนๆ โอ๊ย! เป็นตาแซ่บ

แต่ปัจจุบัน เนื่องจากวัยที่ล่วงเลยผ่าน&อนุมูลอิสระในร่างกายมีมากขึ้นตามกาลเวลาที่หมุนไป ทำให้แป้งลด ละ เลิก กินอาหารเหล่านั้น ตั้งแต่อายุ 27 ปีเป็นต้นมา ซึ่งเมื่อก่อนตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น จะชอบกินขนม ของหวาน เบเกอรี่มากมาย จากการอ่านหนังสือก็รู้อยู่แก่ใจว่า ไม่มีประโยชน์ แต่ก็หักห้ามใจไม่ไหว เมื่อเห็นขนม นมเนย ยังเคยคิดเสมอว่า เมื่อไหร่เราจะเลิกกินขนมขบเคี้ยว กรุบกรอบเสียทีนะ อายจัง !! ช่วงที่กินอาหารเหล่านี้ จำได้ว่า ระบบขับถ่ายไม่ดีเลย ยิ่งวันไหนกินขนมแยมโรลแสนอร่อยที่อุดมไปด้วยแป้งขัดขาว ไขมัน น้ำตาล เมื่อนั้นระบบขับถ่ายจะยอดแย่ ปกติก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วนะคะ จึงตัดใจเลิกซื้อขนม นมเนย เบเกอรี่ ทั้งปวง ยกเว้นไปกินอาหารบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมก็จะกินพอเป็นพิธี ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว แต่จะกินเพียงเล็กน้อย ไม่ตะกละตะกลามเหมือนในอดีตเพราะยึดถืออุดมคติที่ว่า" กินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน "ฟังดูดีเนอะ แต่แป้งคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะเคยเป็นพยาบาลขึ้นเวรตามโรงพยาบาลเห็นผู้ป่วยทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บที่ตัวเองได้สั่งสมมาทั้งสิ้น ยังคิดเลยว่า อุตส่าห์หาเงินมาตั้งนาน แต่เวลาเจ็บป่วยเนี่ย เหมือนเราเอาเงินไปทิ้งแม่น้ำเลย แค่เป็นไข้หวัดธรรมดา นอน Admit ในโรงพยาบาล คืนเดียวหมดไปร่วม 2 หมื่น ยิ่งถ้าไปโรงพยาบาลรัฐ เป็นไข้เลือดออก อย่าหวังจะได้นอนในโรงพยาบาลนะคะ ไม่ใช่เค้าใจจืดใจดำหรอกค่ะ เพราะไม่มีเตียงรับผู้ป่วยต่างหาก จึงต้องกลับไปบ้านไปพักรักษาตัวเอง แป้งตระหนักถึงการเจ็บป่วยดี จนกระทั่งได้มีโอกาสอ่านหนังสือชีวจิต ซึ่งอาจารย์ สาทิส อินทรกำแหง เป็นผู้ก่อตั้ง ยิ่งอ่านหลายๆเล่ม ก็แปรเปลี่ยนให้แป้งเปลี่ยนจากกินข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้อง ขนมปังขัดขาวมาเป็นขนมปังโฮลวีต งดนมวัว ดื่มนมถั่วเหลืองแทนค่ะ

เรามีเพียงหนึ่งร่างกายที่ถือกำเนิดบนโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยมลพิษรอบตัว เช่น นอนดึก พักผ่อนน้อย มีระดับความเครียดสูง กินอาหารไขมันสูง ปิ้งย่าง ของทอดของมัน อาหารแปรรูป หมายถึง อาหารที่ดูไม่ออกว่า หน้าตาเก่าเป็นอย่างไร เช่น ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง ฯลฯ แสงแดด ควันบุหรี่ ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์จากท่อไอเสียรถยนต์ เบนซิน 1,3 บิวทาไดอีน (บิวทาไดอีนตัวนี้ได้มาจากน้ำมันปิโตรเลียม แต่ละปีมีการผลิตสารตัวนี้ปริมาณมาก ร้อยละ 75 ผลิตยางสังเคราะห์ใช้กับรถยนต์และ อีกส่วนหนึ่งเอาไปทำพลาสติก ) ยิ่งตามเมืองใหญ่ๆ ผู้คนนิยมขับรถยนต์กันมากขึ้นเพื่อความสะดวกสบาย ชีวิตเหนือระดับเหล่านี้ ล้วนก่อให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายทั้งสิ้น

อนุมูลอิสระ ( free radical ) คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้ออกซิเจนในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน ผลพลอยได้จะมีออกซิเจนซึ่งเป็นอิเลคตรอนอิสระที่สามารถทำปฏิกิริยาทางเคมีกับโมเลกุลบางชนิดในร่างกาย ก่อให้เกิดเซลล์เสื่อมสภาพ ทำลายเนื้อเยื่อ เลวร้ายที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมกลายเป็นเซลล์มะเร็งที่น่าสะพรึงกลัว


ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ยังคงต้องการอากาศบริสุทธิ์คือออกซิเจนในการหายใจ และต้องการอาหารเพื่อดำรงชีพ จึงไม่อาจหยุดยั้งการเกิดอนุมูลอิสระขึ้นได้ แต่สามารถชะลอความชราได้ง่ายๆโดยที่ไม่ต้องไปหาซื้ิอที่ไหนคือการกินให้น้อยลงและออกกำลังกายให้มากขึ้น บางคนจะค้านว่า ถ้ากินน้อยเกินไป ก็ไม่มีเรี่ยวแรงสิ ถูกต้องค่ะ แต่คนส่วนใหญ่มักจะกินเกินความต้องการของร่างกาย ยิ่งกินมากเท่าไหร่ การเผาผลาญอาหารจะเกิดขึ้นมาก อนุมูลอิสระจะมีมากเป็นเงาตามตัวเท่านั้น เป็นของแถมที่ไม่อยากได้เลยจริงๆนะเนี่ย ที่เห็นชัดเจนคือ ไขมันที่พอกพูนตามส่วนต่างๆของร่างกาย นานวันเข้ากลายเป็นโรคอ้วนซะงั้น ท่องให้ขึ้นใจ กินมาก แก่เร็ว เพราะต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญอาหาร อาหารที่มีแคลอรี่สูง จะทำให้เข้าสู่วัยชราอย่างรวดเร็ว หากไม่อยากแก่ นอกจากกินให้น้อยลง ออกกำลังกาย กินผักผลไม้สด อย่านอนดึก พยายามไม่เครียด ยังต้องกินวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพสูงเพื่อยับยั้งอนุมูลอิสระในร่างกายที่เกิดขึ้นตามปกติอีกด้วยนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิตามินกับการดูแลสุขภาพและผิวพรรณอย่างยั่งยืน

มือของแป้งในวัย 51 ปีที่ใช้ทำอาหาร งานบ้าน ล้างจาน(เพิ่งจะมีเครื่องล้างจานได้6 เดือนเศษ)ซักผ้าด้วยมือ 40%(เคยเห็นเสื้อผ้าของรุ่นน้องที่ใช้เค...

บทความยอดนิยม