บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ผอมเร็วอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

ผอมเร็วอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
การที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 5 กิโลกรัม ภายใน 1-2 เดือน โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย เช่น ภาวะสุขภาพที่เกี่ยวกับการทำงานของฮอร์โมน การติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งมะเร็ง
บางครั้งเราอาจมองข้ามหรือคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินหรือการออกกำลังกาย เราควรตระหนักและหาสาเหตุให้แน่ชัด
การผอมลงอย่างรวดเร็ว อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
1.ความเครียดหรือภาวะซึมเศร้า
สภาพจิตใจที่มีเครียดสะสมระยะเวลาหนึ่ง สามารถส่งผลต่อการกินอาหาร ทำให้เบื่ออาหารและน้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็ว
2.ความผิดปกติของระบบฮอร์โมน
ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ อาจทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว แม้จะกินอาหารเท่าเดิม
3.การติดเชื้อหรือโรคร้ายแรง
การติดเชื้อบางชนิดหรือแม้แต่โรคมะเร็ง อาจทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างไม่คาดคิด มะเร็งบางประเภทสามารถทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น จนทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่รู้ตัว
น้ำหนักที่ลดลงโดยไม่รู้สาเหตุ อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งบางประเภท เช่น
1.มะเร็งกระเพาะอาหาร
มะเร็งชนิดนี้มักทำให้เบื่ออาหาร ปวดท้อง และน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
2.มะเร็งตับอ่อน
มะเร็งตับอ่อนจะมีอาการปวดท้องหรือท้องอืด รวมถึงการสูญเสียน้ำหนักที่รวดเร็ว
3.มะเร็งปอด
มะเร็งปอดสามารถทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน ร่วมกับอาการหายใจลำบากหรือไอเรื้อรัง
4.มะเร็งลำไส้ใหญ่ การสูญเสียน้ำหนักที่ไม่คาดคิดอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะการถ่ายเป็นมูกเลือดหรือเมื่อมีท้องผูก,ท้องเสียร่วมด้วย
5.มะเร็งเม็ดเลือดขาว(ลูคีเมีย)
มะเร็งชนิดนี้ อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมากและน้ำหนักลดลงโดยไม่มีสาเหตุ
การอักเสบเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งทำหน้าที่เป็นการตอบสนองทางชีวภาพต่อสิ่งกระตุ้นที่เป็นอันตราย และอาจกระตุ้นให้เกิดอาการทั่วไป เช่น ไข้ บวม แดงและปวด
มีรายงานว่า การอักเสบเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคเมตาบอลิซึม โรคอ้วน โรคภูมิต้านตนเอง และโรคมะเร็ง
ในบรรดาโรคเหล่านี้ มะเร็งเป็นโรคที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุด จากข้อมูลของสำนักงานวิจัยมะเร็งนานาชาติ( IARC)ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 9.5 ล้านคนในปี พ.ศ. 2561
ไซโตไคน์(Cytokine)ในการอักเสบ เกี่ยวข้องกับมะเร็งอย่างไร
ไซโตไคน์(Cytokine)คือ กลุ่มของโปรตีนมีหน้าที่หลั่งออกมาจากระบบภูมิคุ้มกัน เป็นตัวควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ มีงานวิจัยจำนวนมาก พบว่า การเพิ่มขึ้นของไซโตไคน์บางชนิดเกี่ยวข้องกับการเหนี่ยวนำและการลุกลามของเนื้องอก
มะเร็งไม่ได้เพียงแค่เติบโตเงียบๆ แต่ยังหลั่งสารก่ออักเสบ เช่น IL-1β ,IL-6, TNF-α( Tumor necrosis factor alpha)เป็นไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ซึ่งมีส่วนร่วมในการควบคุมกระบวนการส่งสัญญาณที่หลากหลาย ทั้งโดยตรงและจากการกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวตอบสนอง จนเกิดการอักเสบเรื้อรังทั่วร่างกาย
นอกจากนี้ มะเร็งยังผลิตสารเฉพาะที่ทำลายสมดุลร่างกาย เช่น
1. Proteolysis-Inducing Factor (PIF) กระตุ้นการสลายโปรตีนกล้ามเนื้อผ่าน ubiquitin–proteasome system
2. Lipid-Mobilizing Factor (LMF) เร่งสลายไขมันโดยตรง
3.PTHrP กระตุ้นการเผาผลาญและยับยั้งการกินอาหารผ่านสมอง
4.GDF15 ทำให้ไม่อยากอาหาร
5. MyostatinและActivin A ดังนั้นคนที่เป็นมะเร็งจึงมีร่างกายซูบผอม
ไมโอสแตติน (Myostatin) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นในกล้ามเนื้อ เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อไม่ให้มากเกินไป โดยทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมเชิงลบ (negative regulator)เมื่อไมโอสแตตินจับกับตัวรับบนเซลล์กล้ามเนื้อ จะจำกัดการเพิ่มจำนวนและขนาดของใยกล้ามเนื้อ เรียกง่ายๆว่า ยับยั้งการสร้างกล้ามเนื้อ นั่นเอง
แอคติวิน เอ(Activin A)เป็นหนึ่งในกลุ่ม TGF-β ของปัจจัยการเจริญเติบโตที่มีบทบาทในการส่งสัญญาณผ่านตัวรับเฉพาะ เพื่อควบคุมการเผาผลาญของกระดูก รวมถึงการสลายและการสร้างกระดูก
เมื่อบรรดาสารดังกล่าวทำงานพร้อมกัน ราวกับเครือข่ายที่ค่อยๆ ทำลายกลไกการเผาผลาญของร่างกาย ผลลัพธ์เลยเป็นดังนี้
1.ไม่อยากอาหารเพราะสมองถูกกด
สารต่างๆ จะไปกดศูนย์ความหิว (NPY/AgRP) และกระตุ้นศูนย์ความอิ่ม (POMC/CART) ที่สมองส่วนไฮโปทาลามัส
แม้ฮอร์โมนกระตุ้นความหิวอย่างเกรลิน(ghrelin)จะเพิ่มขึ้น แต่กลับเกิดภาวะ “ดื้อต่อ ghrelin” ทำให้ไม่รู้สึกหิวเหมือนเดิม
การรักษามะเร็ง บางครั้งมีผลข้างเคียงที่ทำให้ขัดขวางการกินมากขึ้น เช่น เกิดแผลในระบบเดินอาหาร, คลื่นไส้อาเจียน
2.ร่างกายเร่งสลายไขมันจนหมด
เนื้อเยื่อไขมันชนิดขาว (WAT) ที่เก็บไขมันเพื่อให้อวัยวะอื่นใช้ ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเนื้อเยื่อไขมันชนิดผลิตความร้อน (BAT) ซึ่งใช้พลังงานสูง เร่งสลายไขมันรุนแรงทำให้พลังงานถูกเผาผลาญตลอดเวลา แม้ในเวลาพัก ไม่ได้เพิ่มการใช้พลังงานใด ๆ
3.กล้ามเนื้อถูกย่อยสลาย
อันนี้แหละค่ะ น่ากลัวที่สุด เพราะมันทำให้ผู้ป่วยร่างกายย่ำแย่
กล้ามเนื้อถูกทำลายจากสารต่างๆ เร่งระบบลากโปรตีนเส้นใยไปทำลายที่เครื่องสลายโปรตีน แถมเส้นทางสร้างโปรตีน (IGF-1/AKT/mTOR) ถูกยับยั้ง อีกทั้งไมโตคอนเดรียยังเสียหาย ทำให้สร้างพลังงานได้ไม่ดีอีก
ผลลัพธ์คือ กล้ามเนื้อฝ่อเพราะขาดโปรตีนเส้นใย การใช้พลังงานจึงไม่ดี ผลิตกำลังได้น้อยมากๆ ภาวะนี้เรียกว่า สภาพผอมแห้งจากมะเร็ง (Cancer cachexia)
ผู้ป่วยจะทนต่อการรักษาได้น้อยลง ฟื้นตัวยากและเสียชีวิตเร็วขึ้น หลายครั้งมะเร็งยังไม่ทันทำอะไร ก็โดนภาวะแทรกซ้อนจากสภาพร่างกายของตัวเองเล่นงาน เช่น ติดเชื้อรุนแรง เป็นต้น
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
หากน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วโดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรเปลี่ยนไปจากชีวิตประจำวัน และยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์ทันที ได้แก่
1. เบื่ออาหาร
2. เหนื่อยง่าย
3. ปวดท้อง
4. อาการผิดปกติอื่นๆ ที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
เรียบเรียงโดย แป้งปังปอนด์
ที่มา :
เพจ tensia
ผอมเร็ว แค่น้ำหนักลด หรือมะเร็ง? อาการและวิธีการวินิจฉัย - โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย
Cytokines, Inflammation and Pain - PMC - PubMed Central - NIHNational Institutes of Health (NIH) | (articles › PMC2785020

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผอมเร็วอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

ผอมเร็วอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป การที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 5 กิโลกรัม ภายใน 1-2 เดือน โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดป...

บทความยอดนิยม