บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ออกกำลังกายตอนเช้าหรือออกกำลังกายตอนเย็นแบบไหนดีกว่ากัน

1.พลังงานที่ใช้ตอนเช้าและตอนเย็น

ออกกำลังกายตอนเช้า หากทำช่วงที่ท้องยังว่าง โดยเฉพาะคนทำ IF และอยู่ช่วงฟาสติ้ง( fasting แปลว่า งดกิน)เพราะว่าตื่นมายังไม่ได้กินอะไรเลยจากการที่นอนมา และอดอาหารมามากกว่า 16 ชั่วโมง 

ร่างกายจะดึงไขมันที่สะสมมาช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการเคลื่อนไหว นั่นหมายความว่า คุณกำลังเบิร์นไขมันเก่าที่เก็บไว้อยู่ การทำแบบนี้ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานจากแหล่งสำรองได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึมให้ทำงานตลอดวัน ทำให้เผาผลาญได้ดีแม้ว่าหลังจากเลิกออกกำลังกายแล้ว

แต่ต้องย้ำว่าการออกกำลังกายชนิดที่ไม่ต้องออกแรงเยอะ เช่น
การเดิน หรือการเดินชัน(ปรับลู่วิ่ง) หรือการทำแบบ LIIT แต่ถ้าเกิดว่ายกเวทหนักๆ หรือทำแบบ HIIT อันนี้ร่างกายจะใช้พลังงานไม่ทันมักจะต้องเอากล้ามเนื้อสลายออกมาเป็นพลังงานมากกว่าการสลายไขมัน

หากต้องการออกกำลังกายในตอนเช้า โดยเฉพาะกับคนที่อยากออกกำลังกายก่อนไปทำงาน ซึ่งต้องตื่นเช้าขึ้นอีกเป็นชั่วโมง สิ่งสำคัญคือต้องนอนให้พอ ไม่อย่างนั้น จะรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น ทั้งยังเสี่ยงวูบ และทำให้การออกกำลังกายไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร 

แต่ในทางกลับกัน หากเป็นตอนเย็น คุณอาจจะเพิ่งทานอาหารกลางวันหรือของว่างก่อนออกกำลังกาย ดังนั้นร่างกายจะมีพลังงานจากอาหารที่เพิ่งทานเข้ามาใหม่ ทำให้ใช้พลังงานจากแหล่งใหม่ก่อนจะไปดึงพลังงานเก่า  อันนี้ถือว่าเป็นข้อดีเพราะจะช่วยใช้พลังงานระหว่างวันที่สะสมมา ลดโอกาสที่พลังงานเหล่านั้นจะกลายเป็นไขมันสะสมอีกต่อไป

พูดง่าย ๆ คือ หากอยากเน้นการเผาผลาญไขมันเก่า การออกกำลังกายตอนเช้าอาจจะตอบโจทย์ แต่ถ้าแค่อยากเผาผลาญพลังงานจากมื้ออาหารของวันนี้ การออกกำลังกายตอนเย็นก็ดีนะ

2.ผลกระทบต่อระบบเมตาบอลิซึม

เรื่องการเผาผลาญเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ การออกกำลังกายตอนเช้าช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานต่อเนื่องตลอดวัน เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือการเติมน้ำมันเครื่องให้ร่างกาย ตอนเช้าระบบเผาผลาญจะถูกกระตุ้นให้ทำงานดีขึ้น ส่งผลให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงและมีพลังในการทำงานหรือกิจกรรมอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมัน ทำให้กระบวนการนี้ทำงานได้ตลอดวัน

ส่วนการออกกำลังกายตอนเย็น แม้ว่าร่างกายจะไม่เผาผลาญตลอดวันเหมือนการออกกำลังกายตอนเช้า แต่มีข้อดีตรงที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น 

การออกกำลังกายตอนเช้าสามารถใช้ประโยชน์จากระดับคอร์ติซอลที่สูงเพื่อเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ควรออกกำลังกายแบบเบาถึงปานกลางเพื่อลดความเสี่ยงในการสลายกล้ามเนื้อและป้องกันผลกระทบด้านลบจากคอร์ติซอลที่สูงเกินไป

การเข้าใจบทบาทของคอร์ติซอลจะช่วยให้เราเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานได้อย่างดี

หลายคนบอกว่า การออกกำลังกายตอนเย็นช่วยทำให้หลับได้ลึกขึ้น เนื่องจากร่างกายได้ปลดปล่อยพลังงานที่สะสมมาในแต่ละวัน ก็เป็นการใช้พลังงานที่เหลือให้หมดก่อนจะเข้านอน ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย พร้อมกับกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานในขณะนอนหลับ

อีกหนึ่งข้อดีของการออกกำลังกายตอนเย็นคือ นอกจากช่วยผ่อนคลายร่างกาย โดยเฉพาะกับชาวออฟฟิศที่นั่งทำงานหลังขดหลังแข็งมาทั้งวัน การไปออกกำลังกายตอนเย็นช่วยให้กล้ามเนื้อได้ยืดเหยียด จะรู้สึกสบายตัวขึ้น นอกจากนั้น ฮอร์โมนเอนดอร์ฟินที่หลั่งออกมาระหว่างออกกำลังกาย ยังช่วยให้อารมณ์ดี และช่วยลดความเครียดที่สะสมมาทั้งวันได้อีกด้วย 

3.การจัดการฮอร์โมน

เรื่องฮอร์โมนเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกเวลาออกกำลังกาย โดยช่วงเช้าฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) จะอยู่ในระดับสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นความตื่นตัวและการเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายในช่วงเช้าจึงช่วยจัดการกับความเครียดได้ดี ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวและพร้อมรับวันใหม่

ในขณะที่ตอนเย็น ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) จะสูงขึ้น โดยเฉพาะในคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ดังนั้นถ้าคุณมีเป้าหมายในการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อหรือความแข็งแรง การออกกำลังกายตอนเย็นจะช่วยส่งเสริมการทำงานของฮอร์โมนนี้ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การสร้างกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพมากกว่า ใครที่เน้นการสร้างกล้ามเนื้อ อาจจะเหมาะกับการออกกำลังกายช่วงเย็นมากกว่า

4.ควรเลือกประเภทการออกกำลังกาย ให้เหมาะสม

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ ประเภทของการออกกำลังกายที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ตอนเช้าอาจเหมาะกับการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างเช่น การวิ่งเบา ๆ โยคะ หรือการออกกำลังกายที่ไม่ใช้พลังงานหนัก เพราะร่างกายยังไม่ตื่นเต็มที่ พลังงานที่ใช้จึงเป็นการกระตุ้นระบบเผาผลาญและเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่  เพราะถ้าไปออกกำลังกายอย่างหนัก เช่น ยกเวท HITT มันคงต้องเข้าใจว่าอาจจะต้องใช้พลังงานพลังงานจากการสลายกล้ามเนื้อ เพราะว่าร่างกายต้องการพลังงานอย่างเร่งด่วน การสลายไขมันอาจจะช้ากว่าเรื่องของการใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อ

ส่วนตอนเย็น เหมาะกับการออกกำลังกายแบบหนักๆ ที่ใช้พลังงานมาก เช่น การยกเวท การคาร์ดิโอแบบเข้มข้น หรือการออกกำลังกายที่ใช้แรงและพลังงานสูง เนื่องจากร่างกายได้รับพลังงานจากมื้ออาหารมาแล้ว ทำให้มีแรงมากขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บจากการที่กล้ามเนื้อยังไม่พร้อม

 5.ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีเวลาไหนที่ “ดีที่สุด” สำหรับการออกกำลังกาย มันขึ้นอยู่กับว่าคุณสะดวกตอนไหนมากกว่า หลายคนที่ต้องทำงานเช้าอาจจะสะดวกตอนเย็น หรือใครที่อยากกระตุ้นร่างกายก่อนทำงานอาจเลือกตอนเช้า ความสำเร็จของการออกกำลังกายไม่ได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา แต่อยู่ที่ความสม่ำเสมอและความตั้งใจ การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเราเองจะทำให้สามารถทำต่อเนื่องได้ 





ที่มา :

เพจหมอเจด

คลายสงสัย ออกกำลังกายตอนเช้า vs ตอนเย็น แบบไหนดีกว่ากัน?OfficeMatehttps://www.ofm.co.th › blog › best-time-to-workout

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

14 สัญญาณเตือนว่าอาจมีปัญหาสมดุลจุลินทรีย์ ในระบบทางเดินอาหาร

• มีอาการระบบทางเดินอาหารผิดปกติ หรือลำไส้แปรปรวน เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและท้องผูก • มีปัญหาไมเกรนหรือนอนไม่หลับ ...

บทความยอดนิยม