บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

โรคภูมิแพ้ที่ใครหลายคนไม่อาจเอาชนะได้

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบบ่อยในคนไทยและหลายล้านคนทั่วโลกสร้างความทุกข์ทรมานไปพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ต่ำลง ยิ่งป่วยนานวัน การอักเสบในร่างกายจะคงอยู่นานขึ้น

โรคนี้เกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย แล้วกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารนั้นมากผิดปกติ ภายหลังเมื่อได้รับสารนั้นเข้าไปอีก ภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะกระตุ้นให้เกิดอาการ ซึ่งจะเกิดอาการเฉพาะในคนที่แพ้เท่านั้น ในคนปกติจะไม่เกิดอาการแต่อย่างใด

โรคภูมิแพ้ไม่ใช่แค่ทำให้คัดจมูก หายใจมีเสียงหวีดและจามเท่านั้น ละอองเกสรและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ยังสามารถทำลาย DNA ในจมูก ไซนัสและปอด ทำให้เกิดการอักเสบซึ่งส่งผลให้อาการแพ้รุนแรงขึ้นรวมถึงภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง นอกจากนี้ละอองเกสรดอกไม้ยังสามารถทำให้อาการหอบหืดกำเริบได้

การศึกษาหนึ่งของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่า การเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินมีสาเหตุมาจากปฏิกิริยาตอบสนองต่อละอองเกสรและหญ้าอันเนื่องจากโรคหอบหืดนั้น
มีมากถึง 60,000 เคสต่อปี ส่วนประชากรไทยราว 18 ล้านคน ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ พบในเด็กมากถึง 40 % ผู้ใหญ่ 26 %

โรคภูมิแพ้ เป็นกลุ่มของโรคที่แสดงอาการได้กับหลายระบบของร่างกาย อาการของโรคภูมิแพ้ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคภูมิแพ้ที่เป็น ซึ่งพยาธิสภาพนั้นเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ทํางานมากเกินไป ทําให้เยื่อบุที่อวัยวะต่างๆ มีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากเกินไป ทำให้เกิดการตอบสนองที่มากผิดปกติของอวัยวะนั้นๆ เช่น

1.กรณีเป็นที่ตา เรียกว่า เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic conjunctivitis) ผู้ป่วยจะมีอาการคัน เคืองตา ตาแดง นํ้าตาไหล หนังตาบวม แสบตา

2.กรณีเป็นที่จมูก เรียกว่า โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic rhinitis) หรือโรคแพ้อากาศ ผู้ป่วยจะมีอาการจาม คันจมูก นํ้ามูกไหลออกมาทางจมูกหรือไหลลงคอ คัดจมูก คันเพดานปากหรือคอ

3.กรณีเป็นที่หลอดลม เรียกว่า โรคหลอดลมอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด (asthma) ผู้ป่วยจะมีอาการ ไอ หอบเหนื่อย หายใจขัด แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงวี้ด หายใจลําบากหรือหายใจเร็ว โดยเฉพาะเวลาตอนกลางคืน ตอนเช้ามืด หรือขณะออกกําลังกายหรือขณะเป็นไข้หวัด

4.กรณีเป็นที่ผิวหนัง เรียกว่า โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (atopic dermatitis) ผู้ป่วยจะมีอาการ คัน มีผดผื่นตามตัว ผื่นมักแห้ง แดง มีสะเก็ดบางๆ หรือมีนํ้าเหลืองแห้งกรังปกคลุมอยู่

ในเด็กเล็ก มักเป็นที่แก้ม ก้น หัวเข่าและข้อศอก ส่วนเด็กโตมักเป็นที่ข้อพับของแขนและขา ในรายที่เป็นเรื้อรัง ผิวหนังบริเวณที่เป็น จะหนาตัวขึ้นและมีสีคลํ้าขึ้น

นอกจากนั้นผิวหนังอาจเกิดการอักเสบ จากการสัมผัสกับสารบางชนิดที่แพ้ได้ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เครื่องสําอาง ผิวหนังอาจมีการอักเสบเป็นตุ่มนูนคันหรือใหญ่เป็นปื้นนูนแดงและคันมากที่เรียกว่า ลมพิษ ซึ่งมักจะเกิดจากการแพ้อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเล หรือ แพ้แมลงกัดต่อย หรือแพ้ยา

5.กรณีเป็นที่ระบบทางเดินอาหาร เรียกว่า โรคแพ้อาหาร (food allergy) ผู้ป่วยจะมีอาการ อาเจียน คลื่นไส้ ท้องเสีย ปากบวม ปวดท้อง ท้องอืด อาจมีอาการของระบบทางเดินหายใจ (เช่น หอบหืด, แพ้อากาศ) และผิวหนัง (เช่น ผื่นคัน, ลมพิษ) ร่วมด้วย อาหารที่เป็นสาเหตุได้บ่อย ได้แก่ นมวัว ไข่ ถั่ว อาหารทะเล ผัก และผลไม้บางชนิด ผงชูรส สารกันบูด สารแต่งกลิ่นและสี  

ภูมิแพ้ที่กล่าวมาทั้ง 5 ข้อ แป้งเป็นครบหมด ยกเว้นข้อ 3
ยิ่งข้อ 5 เนี่ย ช่วงอายุ 30-46 ปี อาการแพ้กำเริบปีละ 1-2 ครั้ง แต่ละครั้งจบที่เข้าห้องฉุกเฉิน ฉีดยา CPM+Dexamethasone เข้าเส้นเลือด พัก 1-2 ชม.แล้วกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน

4 ปีที่แล้ว แป้งดื่มน้ำฝรั่ง(เห็นพนักงานเทจากแกลลอนไม่ใช่ยี่ห้อดัง)ที่โรงแรมแค่แก้วเดียว เพียง 2 ชม.ผ่านไป ภูมิแพ้ที่ระบบทางเดินอาหารกำเริบมีอาการคันตามผิวหนัง ตาบวมท้องบวม พอไปห้องฉุกเฉิน เล่าอาการให้แพทย์ฟัง ยังจำคำพูดได้ดีว่า ’’คุณแพ้หนักขนาดนี้ ยังจะดื่มน้ำผลไม้อยู่อีกเหรอ‘‘ ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก พอฉีดยาสูตรเดิมเข้าเส้นเลือดเสร็จ กลับมาพักที่บ้าน ตั้งปณิธานว่า ''จะเลิกดื่มน้ำผลไม้ตลอดชีวิต''

ปัจจุบัน โรคภูมิแพ้ของแป้งอยู่ในระยะสงบ ไม่ไอจามยามค่ำคืน ดื่มน้ำผลไม้กล่องยี่ห้อทิปโก้ได้สบาย ไม่มีอาการแพ้อาหารเหมือนในอดีต อาหารที่เคยแพ้กลับกินได้หมดทุกอย่าง เคยแพ้เม็ดสีเฉดชมพูในอายชาโดว์หรือบรัชออน แป้งสามารถทาได้ไม่มีอาการคันระคายเคืองเลย ดีใจสุดๆคะ

ช่วงนี้ไวรัสที่มากับสายฝนกำลังระบาด หลายคนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไม่ก็โควิด พานอนซมกันเยอะมากๆ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ดังคำกล่าวที่ว่า ความไม่มีโรคเป็นพรอันประเสริฐ หากไม่อยากเจ็บป่วย พยายามดูแลตัวเองให้ดี กินวิตามินต่อเนื่อง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ปล่อยวาง พักผ่อนเยอะๆนะคะ

ขอบคุณมากมายที่ติดตามอ่านจนจบคะ





ที่มา :
รศ. นพ. ปารยะ   อาศนะเสนภาควิชาโสต  นาสิก  ลาริงซ์วิทยาFaculty of Medicine Siriraj Hospitalคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

Estimates of Present and Future Asthma Emergency ...AGU Publicationshttps://agupubs.onlinelibrary.wiley.com › ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

14 สัญญาณเตือนว่าอาจมีปัญหาสมดุลจุลินทรีย์ ในระบบทางเดินอาหาร

• มีอาการระบบทางเดินอาหารผิดปกติ หรือลำไส้แปรปรวน เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและท้องผูก • มีปัญหาไมเกรนหรือนอนไม่หลับ ...

บทความยอดนิยม