วันเดือนที่เคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่ออนุมูลอิสระที่ก่อร่างสร้างตัวในร่างกาย ยิ่งอายุมากขึ้น ความชราจะฝังรากลึกไปตามวัยที่ล่วงเลย เห็นได้ชัดเจนจากผิวพรรณหมองคล้ำ ไม่ผ่องใส รอยด่างดำที่เกิดจากสิว กว่าจะหายใช้เวลานานหลายเดือน มิหนำซ้ำบางคนรอยดำกลายเป็นจุดกระถาวร มีกระฝ้าที่เกิดจากแสงแดด ฮอร์โมนหรือสารเคมีในเครื่องสำอาง ล้วนแล้วแต่มีผลต่อความงามบนใบหน้าทั้งสิ้น
เมื่อเวลาผ่านไปไม่ว่าเราจะระมัดระวังแค่ไหน ผิวพรรณก็จะเกิดความเสียหายจากดวงอาทิตย์ หรืออนุมูลอิสระที่ผลิตเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการย่อยอาหาร ดังนั้นคนที่กินอาหารเยอะๆร่างกายจะมีการผลิตอนุมูลอิสระมากกว่าคนที่กินน้อย เนื่องจากขณะย่อยอาหาร ต้องใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อขับเคลื่อนปฏิกิริยาทางเคมี หรือสัมผัสกับมลพิษต่างๆ ควันบุหรี่ รังสีUV และสารเคมีที่ตกค้างมากับยาฆ่าแมลง ฯลฯ
ยุคสมัยปัจจุบันที่รายล้อมไปด้วยมลพิษทุกทาง แทบทุกคนหากมีอายุเกิน 25 ปีขึ้นไป ความเสื่อมในร่างกายจะปรากฎอย่างช้าๆ หรือฉับพลัน เริ่มเหี่ยวย่น แก่เร็ว แม้ว่าเราจะพยายามโบกครีมบำรุงมากเพียงใด แต่ไม่อาจเห็นได้จากสายตาว่า ผิวหน้าดีขึ้น ดังนั้นการเลือกรับประทานวิตามินกลุ่มบำรุงผิวขาวใส จึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย ไม่เพียงแต่ผิวหน้าจะแลดูผุดผ่องยองใย แต่ผิวพรรณทั่วสรรพางค์กายยังเปล่งประกาย เมื่อยามต้องแสงแดด จวบจนต้องแสงไฟในทิวาราตรีอีกด้วย
Skin whitening ยี่ห้อ Esmeralde เป็นวิตามินคุณภาพสูงที่ผลิตในอเมริกา มีส่วนประกอบสำคัญ 3 ชนิดดังนี้
1.วิตามินซี(Vitamin C)เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นทุกลมหายใจเข้าออก วิตามินซีไม่เพียงแต่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ยังทำงานประสานกับสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น วิตามินอี ซีลีเนียม วิตามินซีช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทำลายชั้นคอลลาเจน
คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบโครงสร้างของผิว วิตามินซีช่วยเพิ่มความหนาแน่นและช่วยในการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระชับและอ่อนเยาว์
วิตามินซีมีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งและอาจช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้การศึกษาบางส่วนยังชี้ให้เห็นว่า วิตามินซีป้องกันการเกิดต้อกระจกและเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก
วิตามินซีสามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเพื่อช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน American Journal of Clinical Nutrition พบว่าการรับประทานวิตามินซีกับอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับ เลือด เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไข่แดง ฯลฯ สามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กได้ถึง 67%
ผลไม้และผัก(โดยเฉพาะส้มและมันฝรั่ง)เป็นแหล่งธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมของวิตามินซี
2.ไนอาซิน(Niacin)เป็นหนึ่งในตระกูลวิตามินบี มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื่นของผิวได้ยาวนาน โดยไม่สูญเสียไปตามกาลเวลา ไม่เพียงแต่แลดูผิวชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังดูมีสุขภาพดีอีกด้วย
ผิวพรรณที่แห้งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความบอบบาง แพ้ง่าย ผื่นคันและตามมาด้วยเหี่ยวย่น ยังอาจนำไปสู่ปัญหาต่อไปเพราะเกิดรอยปริแตกแยกระหว่างชั้นผิว นอกจากคุณสมบัติคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ไนอาซินยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายลง
ไนอาซินช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี(lipoproteins ความหนาแน่นสูงหรือ HDL) และลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันในเลือดซึ่งจะส่งผลต่อการนับจำนวนคอเลสเตอรอล) รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงและอัตราความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือด ความแข็งของผนังหลอดเลือดแดงที่นำไปสู่อาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองไนอาซินยังมีบทบาทสำคัญในการแปลงอาหารให้เป็นพลังงาน
3.SOD( Superoxide Dismutase )สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มเปอร์ออกไซด์( peroxide )ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีการซ้อนของโมเลกุลออกซิเจนมากเป็น 2 เท่าของสารอนุมูลอิสระทั่วไป ส่งผลให้สารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป เช่น A,C,E ไม่สามารถกำจัดอนุมูลอิสระจำพวกนี้ได้
ร่างกายจึงสร้างสารต้านอนุมูลอิสระชนิดพิเศษขึ้นมาเรียกว่า ‘’SOD ‘’ จัดว่าเอนไซม์ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างทรงพลังที่สุดลำดับต้นๆโดยเฉพาะกับเนื้อเยื่อผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงและลดอัตราการถูกทำลายของเซลล์ต่างๆ
เอสโอดีช่วยให้ร่างกายใช้แร่ธาตุที่สำคัญ เช่น สังกะสี ทองแดง แมงกานีส ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแร่ธาตุเหล่านี้มีไม่เพียงพอ เอนไซม์ก็ไม่อาจทำงานได้ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตเอนไซม์เอสโอดีน้อยลงเรื่อยๆ การรับประทานเอสโอดีเสริม นับเป็นอีกทางเลือกที่อาจช่วยลดริ้วรอย(พบในหนูทดลอง)และชะลอกระบวนการชราได้
มีประโยชน์อย่างไร
1.ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สว่างใสขึ้น
2.ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
3.ย้อนเวลาให้ผิว
4.ลดการอักเสบทั่วร่างกาย
5.เพิ่มพลังงาน ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย
6.ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
7.ช่วยให้บาดแผลหายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะรอยสิว รอยดำและรอยแดง เนื่องจาก วิตามินซี วิตามินบีและเอสโอดี ทำให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเอง โดยการไปเสริมสร้างผนังเซลล์ มีผลให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
8.อาจช่วยป้องกันโรคต้อกระจก เนื่องจาก วิตามินซีสามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น แสงแดด คนที่ขับรถในเวลากลางวันที่แสงแดดจ้า จะมีผลต่อดวงตา ดังนั้นควรสวมแว่นตาเพื่อพรางแสงแดดที่มากระทบเลนส์ตาโดยตรง
10.สามารถเพิ่มระดับการสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด 30% เมื่อบริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
11.ชะลอกระบวนการชรา
หมายเหตุ
* ไม่ควรรับประทานวิตามินในขณะท้องว่างและไม่ควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันการเสียดท้อง
* ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือกรดไหลย้อน
แป้งกินวิตามิน Skin Whitening ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น เป็นเวลา 2 เดือน พบว่า ผลลัพธ์น่าพึงพอใจมาก หน้าตาและผิวพรรณผ่องใส ผิวหน้าเปล่งปลั่งแลดูสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉง ที่สำคัญ รอยคล้ำใต้ตาจางหายไปภายใน 3 เดือน(รอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากภูมิแพ้กำเริบจากร่างกายพักผ่อนน้อย ตอนแรกไม่อยากเชื่อว่า แป้งจะตาคล้ำ แต่พอแฟนทักเท่านั้นแหละ อืม! เราคล้ายหมีแพนด้าจริงๆด้วย แต่ไม่อยากกินวิตามินเคเพื่อช่วยรอยคล้ำใต้ตา จึงลองกินวิตามิน Skin Whitening )
แบบว่ารู้งี้กินตั้งนานแล้ว ไม่อยากบอกว่า แพลนไว้ถ้าตายังไม่หายคล้ำ คงต้องไปทำเลเซอร์ลดรอยคล้ำใต้ตาล่ะค่ะ
รอยคล้ำใต้ตาเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นภูมิแพ้ ประกอบกับอายุที่มากขึ้น ไม่ว่าจะโบกคอนซีลเลอร์มากมายเพียงใด หาได้กลบรอยคล้ำที่แสดงชัดเจนภายใต้ผิวหนังรอบดวงตาที่บอบบางเหลือเกิน
ดังนั้นวิตามิน Skin Whitening ยี่ห้อ Esmeralde จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส คืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เมื่อร่างกายแข็งแรง ความเจ็บป่วยจึงผ่านเลยไป คงเหลือไว้แต่ความเยาว์วัย
เมื่อเวลาผ่านไปไม่ว่าเราจะระมัดระวังแค่ไหน ผิวพรรณก็จะเกิดความเสียหายจากดวงอาทิตย์ หรืออนุมูลอิสระที่ผลิตเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการย่อยอาหาร ดังนั้นคนที่กินอาหารเยอะๆร่างกายจะมีการผลิตอนุมูลอิสระมากกว่าคนที่กินน้อย เนื่องจากขณะย่อยอาหาร ต้องใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อขับเคลื่อนปฏิกิริยาทางเคมี หรือสัมผัสกับมลพิษต่างๆ ควันบุหรี่ รังสีUV และสารเคมีที่ตกค้างมากับยาฆ่าแมลง ฯลฯ
ยุคสมัยปัจจุบันที่รายล้อมไปด้วยมลพิษทุกทาง แทบทุกคนหากมีอายุเกิน 25 ปีขึ้นไป ความเสื่อมในร่างกายจะปรากฎอย่างช้าๆ หรือฉับพลัน เริ่มเหี่ยวย่น แก่เร็ว แม้ว่าเราจะพยายามโบกครีมบำรุงมากเพียงใด แต่ไม่อาจเห็นได้จากสายตาว่า ผิวหน้าดีขึ้น ดังนั้นการเลือกรับประทานวิตามินกลุ่มบำรุงผิวขาวใส จึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย ไม่เพียงแต่ผิวหน้าจะแลดูผุดผ่องยองใย แต่ผิวพรรณทั่วสรรพางค์กายยังเปล่งประกาย เมื่อยามต้องแสงแดด จวบจนต้องแสงไฟในทิวาราตรีอีกด้วย
Skin whitening ยี่ห้อ Esmeralde เป็นวิตามินคุณภาพสูงที่ผลิตในอเมริกา มีส่วนประกอบสำคัญ 3 ชนิดดังนี้
1.วิตามินซี(Vitamin C)เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นทุกลมหายใจเข้าออก วิตามินซีไม่เพียงแต่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ยังทำงานประสานกับสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น วิตามินอี ซีลีเนียม วิตามินซีช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทำลายชั้นคอลลาเจน
คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบโครงสร้างของผิว วิตามินซีช่วยเพิ่มความหนาแน่นและช่วยในการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระชับและอ่อนเยาว์
วิตามินซีมีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งและอาจช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้การศึกษาบางส่วนยังชี้ให้เห็นว่า วิตามินซีป้องกันการเกิดต้อกระจกและเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก
วิตามินซีสามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเพื่อช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน American Journal of Clinical Nutrition พบว่าการรับประทานวิตามินซีกับอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับ เลือด เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไข่แดง ฯลฯ สามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กได้ถึง 67%
ผลไม้และผัก(โดยเฉพาะส้มและมันฝรั่ง)เป็นแหล่งธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมของวิตามินซี
2.ไนอาซิน(Niacin)เป็นหนึ่งในตระกูลวิตามินบี มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื่นของผิวได้ยาวนาน โดยไม่สูญเสียไปตามกาลเวลา ไม่เพียงแต่แลดูผิวชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังดูมีสุขภาพดีอีกด้วย
ผิวพรรณที่แห้งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความบอบบาง แพ้ง่าย ผื่นคันและตามมาด้วยเหี่ยวย่น ยังอาจนำไปสู่ปัญหาต่อไปเพราะเกิดรอยปริแตกแยกระหว่างชั้นผิว นอกจากคุณสมบัติคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ไนอาซินยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายลง
ไนอาซินช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี(lipoproteins ความหนาแน่นสูงหรือ HDL) และลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันในเลือดซึ่งจะส่งผลต่อการนับจำนวนคอเลสเตอรอล) รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงและอัตราความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือด ความแข็งของผนังหลอดเลือดแดงที่นำไปสู่อาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองไนอาซินยังมีบทบาทสำคัญในการแปลงอาหารให้เป็นพลังงาน
3.SOD( Superoxide Dismutase )สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มเปอร์ออกไซด์( peroxide )ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีการซ้อนของโมเลกุลออกซิเจนมากเป็น 2 เท่าของสารอนุมูลอิสระทั่วไป ส่งผลให้สารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป เช่น A,C,E ไม่สามารถกำจัดอนุมูลอิสระจำพวกนี้ได้
ร่างกายจึงสร้างสารต้านอนุมูลอิสระชนิดพิเศษขึ้นมาเรียกว่า ‘’SOD ‘’ จัดว่าเอนไซม์ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างทรงพลังที่สุดลำดับต้นๆโดยเฉพาะกับเนื้อเยื่อผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงและลดอัตราการถูกทำลายของเซลล์ต่างๆ
เอสโอดีช่วยให้ร่างกายใช้แร่ธาตุที่สำคัญ เช่น สังกะสี ทองแดง แมงกานีส ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแร่ธาตุเหล่านี้มีไม่เพียงพอ เอนไซม์ก็ไม่อาจทำงานได้ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตเอนไซม์เอสโอดีน้อยลงเรื่อยๆ การรับประทานเอสโอดีเสริม นับเป็นอีกทางเลือกที่อาจช่วยลดริ้วรอย(พบในหนูทดลอง)และชะลอกระบวนการชราได้
มีประโยชน์อย่างไร
1.ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สว่างใสขึ้น
2.ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
3.ย้อนเวลาให้ผิว
4.ลดการอักเสบทั่วร่างกาย
5.เพิ่มพลังงาน ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย
6.ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
7.ช่วยให้บาดแผลหายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะรอยสิว รอยดำและรอยแดง เนื่องจาก วิตามินซี วิตามินบีและเอสโอดี ทำให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเอง โดยการไปเสริมสร้างผนังเซลล์ มีผลให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
8.อาจช่วยป้องกันโรคต้อกระจก เนื่องจาก วิตามินซีสามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น แสงแดด คนที่ขับรถในเวลากลางวันที่แสงแดดจ้า จะมีผลต่อดวงตา ดังนั้นควรสวมแว่นตาเพื่อพรางแสงแดดที่มากระทบเลนส์ตาโดยตรง
10.สามารถเพิ่มระดับการสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด 30% เมื่อบริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
11.ชะลอกระบวนการชรา
หมายเหตุ
* ไม่ควรรับประทานวิตามินในขณะท้องว่างและไม่ควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันการเสียดท้อง
* ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือกรดไหลย้อน
แป้งกินวิตามิน Skin Whitening ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น เป็นเวลา 2 เดือน พบว่า ผลลัพธ์น่าพึงพอใจมาก หน้าตาและผิวพรรณผ่องใส ผิวหน้าเปล่งปลั่งแลดูสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉง ที่สำคัญ รอยคล้ำใต้ตาจางหายไปภายใน 3 เดือน(รอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากภูมิแพ้กำเริบจากร่างกายพักผ่อนน้อย ตอนแรกไม่อยากเชื่อว่า แป้งจะตาคล้ำ แต่พอแฟนทักเท่านั้นแหละ อืม! เราคล้ายหมีแพนด้าจริงๆด้วย แต่ไม่อยากกินวิตามินเคเพื่อช่วยรอยคล้ำใต้ตา จึงลองกินวิตามิน Skin Whitening )
แบบว่ารู้งี้กินตั้งนานแล้ว ไม่อยากบอกว่า แพลนไว้ถ้าตายังไม่หายคล้ำ คงต้องไปทำเลเซอร์ลดรอยคล้ำใต้ตาล่ะค่ะ
รอยคล้ำใต้ตาเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นภูมิแพ้ ประกอบกับอายุที่มากขึ้น ไม่ว่าจะโบกคอนซีลเลอร์มากมายเพียงใด หาได้กลบรอยคล้ำที่แสดงชัดเจนภายใต้ผิวหนังรอบดวงตาที่บอบบางเหลือเกิน
ดังนั้นวิตามิน Skin Whitening ยี่ห้อ Esmeralde จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส คืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เมื่อร่างกายแข็งแรง ความเจ็บป่วยจึงผ่านเลยไป คงเหลือไว้แต่ความเยาว์วัย
ที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น