ผิวพรรณเนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง สดใส เป็นสุดยอดปรารถนาของผู้หญิงแทบทุกวัย
ผู้หญิงจะมีผิวสวยที่สุดช่วงวัยแรกรุ่น(เริ่มมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนพุ่งสูง)จนถึงอายุราว 25 ปี จากนั้นจะเริ่มลดระดับลง พออายุขึ้นเลข 3 ทุกอย่างจะเริ่มแปรเปลี่ยนไปในทางแย่ลง ผิวจะแลดูแห้งกร้าน หมองคล้ำ ชโลมครีมบำรุงผิวสุดฤทธิ์ แต่กระนั้นยังแห้งอยู่ดี
ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ไปได้ ระดับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนมีผลหลายอย่างกับร่างกาย มนุษย์เราดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ ฮอร์โมนเพศก็เช่นเดียวกัน
การที่เรามีผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวมันหรือผิวแพ้ง่าย ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศทั้งสิ้น แม้ว่าเราไม่อาจต้านทานความเปลี่ยนแปลงในร่างกายได้ แต่เราสามารถคงความเนียนนุ่มของผิวได้จากการกินวิตามินนะคะ
แป้งยังไม่เคยเห็นหรือได้ยินว่า กินผักผลไม้ชนิดใดที่จะคงความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว นอกเหนือจากการชโลมโลชั่นบำรุงผิว อืม!อโวคาโดเป็นผลไม้ที่ช่วยเพิ่มระดับกลูต้าไทโอนในร่างกายก็จริง แต่จะช่วยเรื่องผิวนุ่มได้หรือเปล่า ต้องลองกินดูค่ะ
มีวิตามินตัวหนึ่งชื่อ timeless skin ยี่ห้อ Earth Nutrients ผลิตในอเมริกา มีส่วนประกอบของวิตามินบำรุงผิวชั้นเยี่ยมถึง 3 อย่างในเม็ดเดียว ดังนี้
1.Ceramide(เซราไมด์)เป็นองค์ประกอบหลักของชั้น corneum ในชั้นหนังกำพร้าของผิวหนังมนุษย์
ชั้น corneum ประกอบด้วย ceramides 50%อีก 25% เป็นคอเลสเตอรอลและ15% เป็นกรดไขมัน
Ceramides จะพบระดับความเข้มข้นสูงในเยื่อหุ้มเซลล์(Cell Membrane) หากเซราไมด์มีระดับลดลงอย่างรวดเร็ว พบว่ามีความสัมพันธ์ต่อการระคายเคืองผิว ผิวที่ขาดเซราไมด์ จะบอบบางกว่าปกติและเกิดการแพ้ได้ง่าย
ceramides เป็นส่วนผสมสำคัญในครีมบำรุงผิวที่มีราคาแพง พบได้ในธัญพืช เช่น ข้าวเหนียว ข้าวโพดและข้าวสาลี
ceramides จากพืชเรียกว่า phytoceramides(ไฟโต้เซราไมน์)
Ceramides จะเห็นผลชัดเจนในรูปครีมบำรุงผิวเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาแพง แต่ถ้าอยู่ในรูปอาหารเสริมเดี่ยวๆ มักไม่ค่อยเห็นผล โดยเฉพาะในตลาดอาหารเสริมของอเมริกา มีบริษัทผู้ผลิตหลากหลายยี่ห้อ โหมโฆษณาจนกลายเป็นเกินความเป็นจริงไปเยอะมากๆ เช่น ช่วยลดริ้วรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน(ฝ้า กระ) ซึ่งในความเป็นจริง เซราไมน์ไม่ได้มีประสิทธิภาพขนาดนั้นนะคะ
มีการจัดอันดับการฉีดโบท็อกซ์ทั่วโลก ปรากฏว่า ประเทศอเมริกามาเป็นอันดับหนึ่งเชียว ถ้าการกินเซราไมน์(Ceramides)แล้วเห็นผลลัพธ์ชัดเจน คนจะแห่ไปฉีดโบท็อกซ์ให้เจ็บตัวทำไมกัน
2.ไฮยาลูโรนิก(Hyaluronic acid) กรดไฮยาลูโรนิก มีชื่อย่อว่า HA หรือชื่ออื่น คือ Hyaluronan, Hyaluronate เป็นสารประกอบประเภทโพลีเมอร์(Polymer)
โพลีเมอร์คือสารเคมีที่มีส่วนประกอบเป็นโมเลกุลของสารต่างๆ เช่น สารโปรตีน น้ำตาลประเภทหลายโมกุล(Polysaccharide)และนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ในอุตสาหกรรมพลาสติก ไนลอน วัสดุทางการแพทย์ และยาบางชนิด
มีชื่อเรียกเฉพาะว่า Nonsulfated glycosaminoglycan ซึ่งพบตามเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อของผิวหนัง และเนื้อเยื่อของระบบประสาท
กรดไฮยารูโลนิก (Hyaluronic Acid) เป็นส่วนผสมที่พบในผลิตภัณฑ์ประทินผิว
หากเป็นอาหารเสริมหรือครีมบำรุงผิว จะอยู่ในรูป sodium hyaluronate พบได้ตามธรรมชาติในเซลล์ของร่างกาย
พบมากถึง 50% ในผิวหนังและคอลลาเจน
มีความสำคัญต่อการรักษาโครงสร้างของชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวมีความอ่อนนุ่ม กระชับ ยืดหยุ่นดี ร่างกายคนสามารถสร้างได้เอง แต่จะสร้างได้น้อยลงเมื่ออายุเกิน 25 ปีขึ้นไป พบมากในจุดเชื่อมต่อระหว่างอวัยวะและเซลล์ต่างๆ ทำหน้าที่เพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสีและความยืดหยุ่น โดยเฉพาะจุดเชื่อมต่อบริเวณหัวเข่า กระดูกอ่อน ผิวหนัง ดวงตาและลิ้นหัวใจ
3.Astaxanthin(แอสต้าแซนธิน)Haematococcus Pluvialis ( ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส ) เป็นสาหร่ายสีแดง พบมากในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ปัจจุบันเป็นพืชใต้ผิวมูลค่ามหาศาล ได้มีการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์ในหลายประเทศ เช่น อเมริกา อิสราเอล ญี่ปุ่น ฯลฯ
สารสำคัญที่ทำให้สาหร่ายชนิดนี้มีสีแดงสด เรียกว่า astaxanthin(แอสตาแซนธิน)มีในสาหร่าย, ยีสต์, ปลาแซลมอน, ปลาเทราท์
แอสตาแซนทิน เป็นรงควัตถุสีแดง ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoid) พบความเข้มข้นสูงสุดในสาหร่ายสีแดง นอกจากจะให้สีแดงสดแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ จัดเป็นโภชนะเภสัช ( nutraceutical ) มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ถึงกับได้รับฉายาว่า "ราชาแห่งสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ " ซึ่งเมื่อเทียบกับสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น เช่น วิตามินซี วิตามินอี ชาเขียว เบต้าแคโรทีน (beta carotene) สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และ CoQ10 แล้ว แอสตาแซนธินช่วยชะลอความเสื่อมและช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้ดีกว่า
มีประโยชน์อย่างไร
1.ปรับผิวพรรณให้เนียนนุ่มทั่วร่างกาย
2.ช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ หรือ ริ้วรอยแรกเริ่ม
3.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณ ทำให้ผิวแลดูเปล่งปลั่ง
4.ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน
5.บรรเทาอาการตาแห้งที่เกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆได้ นอกจากนี้ ยังมีอาการตาแห้งที่มักจะเกิดในผู้หญิงที่หมดประจำเดือน จากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนหมดไปจากร่างกาย จึงทำให้ผิวหนัง ช่องคลอด รวมถึงดวงตาจะแห้งไปหมด
6.ปกป้องผิวหน้าจากรังสียูวีบี ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดจุดด่างดำ กระฝ้าตามมา
7.ป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำไม่สดใส
8.ช่วยให้ผิวแข็งแรง ปกป้องผิวและร่างกายจากการรุกรานของเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอม
แป้งรับประทานวิตามิน Timeless skin ยี่ห้อ Earth Nutrients ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน ราว 2 เดือน พบว่าผิวเนียนนุ่มทั่วร่างกาย แม้กระทั่งฝ่าเท้าก็ยังนุ่ม เพียงแค่รอยตีนกาด้านซ้ายยังอยู่ครบ แสดงว่า ไม่ช่วยลดริ้วรอยลึกแต่อย่างใด หากแป้งอายุน้อยกว่านี้สัก 10 ปี(ปัจจุบัน43 ปี) น่าจะช่วยลดริ้วรอยตื้นๆได้ดีค่ะ
สอบถามและหาซื้อได้ที่
Tel. 081-845-3461
Id line : noi_nunoy2512
ที่มา
www.prohealth.com/library/show article.cfm?libid=20325
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น