ประเทศไทย เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแสงแดดที่แรงกล้า จนทำให้คนที่ตากแดดบ่อยๆ หน้าดำหมองคล้ำ สาเหตุสำคัญอันดับต้นๆของกระและฝ้า
โปรดทราบไว้ ครีมกันแดดแต่ละยี่ห้อ ถึงจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน ไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้จริง
มีรายงานจาก Environmental Working Group(EWG)ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงผลกำไร มีความเชี่ยวชาญในการวิจัยและการสนับสนุนเกี่ยวกับสารเคมีที่เป็นพิษและสุขภาพมนุษย์
ในปี2560 พบว่า เกือบ 75%ของครีมกันแดดไม่ได้ผล นั่นหมายถึงครีมกันแดดเหล่านี้ให้การปกป้องแสงแดดไม่เพียงพอหรือมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิว
แม้ว่าครีมกันแดดจะมีการปรับปรุงส่วนผสมในทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังมีสารเคมีที่เป็นอันตราย หรือไม่สามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเล็ตได้
ประมาณครึ่งหนึ่งของครีมกันแดดที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา จะไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในยุโรปได้
ช่วงคลื่นรังสีที่สายตามองเห็น และช่วงคลื่นรังสีอินฟาเรดจะสามารถเข้าสู่ผิวหนังของมนุษย์ได้ แต่จะไม่ถูกดูดซับไว้ จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์
รังสีอัลตร้าไวโอเลตเอ(UVA)และบี(UVB) สามารถเข้าสู่ผิวหนัง และถูกดูดซับไว้
โดยรังสี UVA จะเข้าสู่ผิวหนังลึกสุด และดูดซับมากกว่ารังสี UVB
รังสี UVB มีค่าพลังงานมากกว่ารังสี UVA สามารถทำลายดีเอ็นเอ (DNA) และทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้
รังสี UVA ถึงแม้จะมีระดับพลังงานที่ต่ำกว่า แต่ยังสามารถแทรกสู่ผิวได้ลึกกว่า
หากสัมผัสรังสีอัลตร้าไวโอเลตเป็นเวลานานและต่อเนื่อง จะทำให้เซลล์ผิวหนังอ่อนแอ เสื่อมโทรม แลดูเหี่ยวย่น จนถึงระดับรุนแรงที่อาจเกิดเซลล์มะเร็งขึ้นได้
ผลการค้นพบที่สำคัญในรายงานการป้องกันแสงแดดของ EWG
1.ประมาณครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์กันแดดที่ขายในสหรัฐอเมริกา จะไม่ผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นในยุโรปเพราะไม่ได้กรองรังสี UVA มากพอ
2.เกือบ 75 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ได้รับการตรวจสอบโดย EWG ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ที่จะป้องกันรังสี UV หรือมีส่วนผสมที่เป็นอันตราย ได้แก่ Oxybenzone และ retinyl palmitate
Oxybenzone มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในครีมกันแดดที่ใช้สารเคมีจากอเมริกา
มีการทดสอบในห้องปฏิบัติการ แสดงให้เห็นว่าอัตราการซึมผ่านผิวหนังอยู่ที่ 1-9%
Oxybenzone ยังทำหน้าที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ผิวหนังในมนุษย์จำนวนมาก เช่นเดียวกับ methylisothiazolinone
3.สหรัฐอเมริกายังไม่ได้อนุมัติส่วนผสมครีมกันแดดที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยป้องกันแสงอัลตร้าไวโอเล็ตวงกว้างได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้การป้องกันรังสี UVA มักไม่มีผลิตภัณฑ์กันแดด SPF 70+ ที่เคยมีอยู่ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว
ปัจจุบัน SPF จึงถูกจำกัด ไว้ที่ 50 เท่านั้น
มิน่าล่ะ! เมื่อก่อนแป้งเคยเห็นครีมกันแดดหลายยี่ห้อ เขียนไว้ว่า สามารถปกป้องแสงแดดได้มากถึง 100(spf100) มีที่มาอย่างนี้นี่เอง
ปัจจุบันยังไม่มีครีมกันแดดที่สมบูรณ์แบบ
จึงไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่จะป้องกันแสงแดดเต็มที่ และไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่จะมีอายุการใช้งานได้นานมากกว่า 2 ชั่วโมง
ขนาดครีมกันแดดที่ผลิตในอเมริกา ยังไม่ผ่านมาตรฐานยุโรป แล้วครีมกันแดดที่ผลิตในเมืองไทย จะรอดเหรอค่ะ
ขนาดครีมกันแดดที่ผลิตในอเมริกา ยังไม่ผ่านมาตรฐานยุโรป แล้วครีมกันแดดที่ผลิตในเมืองไทย จะรอดเหรอค่ะ
ดังนั้นอย่าให้ใครมาหลอกเราได้ว่า ใช้ครีมกันแดดยี่ห้อ บลาๆๆ จะปกป้องแสงแดดได้ 8-12 ชม. ไม่มีในโลกหรอกค่ะ นอกเสียจากทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงนะคะ
ที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น