คงมีคนทั่วไปจำนวนไม่น้อยที่จะรู้จักวิตามินชื่อ melatonin ( เมลาโทนิน ) แป้งเองก็รู้จักได้เกือบ 4 ปีล่ะ ครั้งแรกจากการอ่านคอลัมน์ในนิตยสารชื่อดัง ยอดจำหน่ายสูงที่สุดในประเทศ โดยคนที่ให้สัมภาษณ์ เป็นคุณหมอที่เก่งมากๆแถมยังมีชื่อเสียงอย่างมากในวงการแพทย์ผิวหนัง
ตอนนั้นยังงงๆว่า วิตามินอะไรหว่า ไม่เห็นจะคุ้นเลย พอได้มีโอกาสเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ก็สอดส่ายหาวิตามินตัวนี้ ฮ้า ! เจอแล้ว เหมามา 6 กระปุก เก็บไว้ให้กินเอง 3 กระปุก ( หนึ่งกระปุก มี 240 เม็ด ) ที่เหลือแบ่งแฟนกับพ่อแม่ กินก่อนนอน 30 นาที จนหมดที่ครอบครอง จึงหยุดกินไปพักนึง แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ แป้งได้มีโอกาสเข้าฟังบรรยายพิเศษเกี่ยวกับ anti-aging ; ความชราที่ไปไม่ถึง โดย นายแพทย์ พัฒนา เต็งอำนวย ผู้เชี่ยวชาญโรคไตและ anti-aging จบปริญญาเอก ด้านเซลล์วิทยา จากสหรัฐอเมริกา ท่านเล่าว่า ตอนเป็น residence ( แพทย์ประจำบ้าน ) เรียนหนักมาก เข้าเวรไม่หยุดหย่อน บางคืนถึงกับฝันว่า ถูกตามไปรักษาคนไข้ก็มี จึงเริ่มกิน melatonin 3 mg ( อายุ 30 ปี ) และกินเรื่อยมา จวบจนปัจจุบัน อายุ 52 ปี ท่านบอกว่า ไม่มีผมหงอกสักเส้น พอหูแป้งได้ยินเช่นนี้ กลับบ้านคืนนั้น รีบกินเมลาโทนิน ก่อนนอนทันที (คาดหวังว่า อนาคตผมจะไม่หงอก อิๆ)
Melatonin เป็นฮอร์โมนที่พบตามธรรมชาติในร่างกาย เกิดจากการสังเคราะห์กรดอะมิโน ทริปโตเฟน ( tryptophan ) โดยมีการสร้างที่ลำไส้ใหญ่ จอตาและต่อมไพเนียล (เป็นส่วนหนึ่งของสมองส่วนกลาง ) โดยมีความมืดเป็นตัวกระตุ้น หน้าที่หลักของเมลาโทนิน คือกำหนดรอบกลางวันและกลางคืน หรือเรียกว่า วงจรการนอนหลับ นั่นเอง
ความมืดจะทำให้ร่างกายผลิตเมลาโทนินมากขึ้น เป็นการส่งสัญญาณให้ร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ แสงสว่างจะลดการผลิตเมลาโทนินลง คนที่มีปัญหาในการนอนหลับ มักมีระดับเมลาโทนินต่ำ ระดับเมลาโทนินในกระแสเลือดจะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น เริ่มตั้งแต่ 22.00 น. จนถึงระดับสูงสุดในเวลาตีสาม ในฤดูหนาว ช่วงเวลากลางวันจะสั้น ทำให้ระหว่างวันร่างกายมีระดับเมลาโทนินเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย
ในบางคนจะมีปัญหาเรื่องการนอนและอาการซึมเศร้าในฤดูหนาว มิน่าล่ะ เวลาถึงฤดูหนาวทีไร มองเห็นท้องฟ้ามืดครึ้ม บรรยากาศอึมครึม แป้งมักรู้สึกเหงาพิกลบอกไม่ถูก แต่เป็นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้นเอง
หากคนที่ดูหนังฮอลลีวู้ดเป็นประจำ จะมีฉากนอนหลับในยามค่ำคืน เค้าจะไม่ติดหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือเรียกว่า หลอดนีออน เพราะจะมีแสงสว่างแยงตา แต่จะมีโคมไฟบนหัวเตียงเป็นไฟสีนวล( warm white ) มีส่วนช่วยให้นอนหลับได้มากขึ้น ตามโรงแรมมักจะตกแต่งด้วยไฟประเภทนี้ ทำให้แขกที่มาพักผ่อนเกิดความผ่อนคลาย หลับสนิท ตื่นมาพร้อมรับวันรุ่งขึ้นที่สดใส
มีประโยชน์อย่างไร
1.ใช้เพื่อปรับนาฬิกาชีวภาพในร่างกาย ในคนที่เดินทางโดยเครื่องบินข้ามเขตแบ่งเวลาจากตะวันออกไปเขตตะวันตก ( Jet lag )
2.ช่วยให้คนที่นอนไม่หลับจากความเครียด ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง คนที่ต้องทำงานเป็นกะ หลับสนิทขึ้น ชีวิตมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
3. ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อ DNA บางส่วน โดยมีกลไกการยับยั้งเซลล์มะเร็ง คนเรายิ่งมีความเครียดสะสมมากเท่าไหร่ ถึงแม้จะออกกำลังกายสม่ำเสมอแค่ไหน ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ทุกเมื่อ เพราะความเครียดจะกดภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ลดต่ำลง ส่งผลให้โรคภัยมาเบียดเบียนเราได้ง่ายขึ้น นั่นเอง
4.ลดความเสียหายจากการทำลายของเซลล์สมองจากโรคพาร์กินสัน
5.มีบทบาทในการป้องกันโรคหัวใจเต้นผิดปกติ
6.ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในคนสูงอายุ มีส่วนในการป้องกันการตายของเซลล์ประสาท amyloid (สารที่สะสมในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ) จากความผิดปกติในเนื้อสมอง จะพบลักษณะที่สำคัญสองอย่างคือ
6.1 กลุ่มใยประสาทที่พันกัน Neurofibrillary Tangles และ มีสาร Beta Amyloid ในสมอง ใยสมองที่พันกันทำให้สารอาหารไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ การที่สมองมีคราบ Beta Amyloid หุ้ม ส่งผลให้ระดับ acetylcholine (สารสื่อประสาท) ในสมองลดลง ( acetylcholine จะมีส่วนสำคัญในเรื่องการเรียนรู้และความจำ )
6.2 การอักเสบ (inflammatory) สาร amyloid เมื่อสลายตัวจะให้สารอนุมูลอิสระออกมา อนุมูลอิสระนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์สมอง
7.เพิ่มอายุขัยให้ยืนยาวมากขึ้น 20 % ( พบในหนูทดลอง )
8.มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย จากการทดลองในหนูชรา พบว่า หนูชรามีการเปลี่ยนแปลง 13 genes ซึ่งจะพบได้ในยีนหนูอายุน้อยเท่านั้น
9.เมลาโทนิน เป็นสารที่ช่วยปรับสภาพร่างกายในรอบวัน เพราะมีคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับความสว่างและความมืด ( circadian rhythm ) และเหนี่ยวนำให้เกิดการนอนหลับลึก จึงช่วยกระตุ้นการหลั่ง growth hormone ( ฮอร์โมนแห่งความเยาว์วัย )
เคยแนะนำให้พี่ในออฟฟิศกิน ช่วงที่มีปัญหาชีวิต จึงนอนหลับไม่สนิท กินได้ 8 เดือน มาเล่าให้แป้งฟัง มีแต่คนชมว่า ไปทำอะไรมา ทำไมสวยขึ้น ทั้งๆที่ปัญหารุมเร้า แป้งได้ยินพี่เค้าเล่าแล้ว รู้สึกดีมากๆที่มีส่วนช่วยทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งมีภูมิคุ้มกันและมีความสุขจากความงามที่เพิ่มขึ้นค่ะ
การใช้ melatonin พบว่าบางคนใช้ได้ผลดีใน dose น้อยกว่า 1 mg ขณะที่อีกหลายคนต้องใช้ใน dose สูงถึง 20 mg ( ในต่างประเทศ น่าจะเกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว เพราะชาวอเมริกันส่วนใหญ่มีรูปร่างใหญ่โต อ้วนอืด )
แต่โดยทั่วไปแล้วพบว่า dose ที่ให้ผลดีที่สุดอยู่ในระหว่าง 3 ถึง 10 mg
ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นทะเบียนเมลาโทนินเป็นอาหารเสริมจึงหาซื้อได้ทั่วไป ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี ค.ศ. 1995 ยอดขายของเมลาโทนินนั้นสูงกว่าแอสไพริน
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นมา คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission)
ได้อนุมัติให้ใช้เมลาโทนินเป็นยา ชื่อทางการค้า คือ Circadin ข้อบ่งใช้ ; รักษาอาการนอนไม่หลับเบื้องต้น (การหลับที่ไม่มีประสิทธิภาพ) เป็นระยะเวลาสั้นๆในผู้ป่วยอายุ 55 ปีขึ้นไป
ยา Circadin มีส่วนประกอบของเมลาโทนิน 2 มิลลิกรัม โดยเป็นยาประเภทออกฤทธิ์ช้าปริมาณที่แนะนำคือ 2 มิลลิกรัม รับประทานสองชั่วโมงก่อนเข้านอนและหลังอาหารมื้อสุดท้ายของวัน ในประเทศเยอรมนี กำหนดให้เมลาโทนินเป็นยาที่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ โดยไม่ว่าจะมีปริมาณเท่าไหร่ก็ยังต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ รวมทั้งไม่อนุญาตให้มีขึ้นทะเบียนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม แต่ในประเทศไทย เมลาโทนิน ถูกขึ้นทะเบียนเป็นยา จำหน่ายในโรงพยาบาลเท่านั้น
แป้งเลือกกิน melatonin 3 mg ยี่ห้อ nature's bounty วันละ 1 เม็ด ก่อนนอน 30 นาที เพราะเกรดวัตถุดิบคุณภาพสูง แต่ไม่รู้ว่าจะป้องกันไม่ให้ผมหงอก ทันหรือเปล่าเนี่ย
Melatonin เป็นฮอร์โมนที่พบตามธรรมชาติในร่างกาย เกิดจากการสังเคราะห์กรดอะมิโน ทริปโตเฟน ( tryptophan ) โดยมีการสร้างที่ลำไส้ใหญ่ จอตาและต่อมไพเนียล (เป็นส่วนหนึ่งของสมองส่วนกลาง ) โดยมีความมืดเป็นตัวกระตุ้น หน้าที่หลักของเมลาโทนิน คือกำหนดรอบกลางวันและกลางคืน หรือเรียกว่า วงจรการนอนหลับ นั่นเอง
ความมืดจะทำให้ร่างกายผลิตเมลาโทนินมากขึ้น เป็นการส่งสัญญาณให้ร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ แสงสว่างจะลดการผลิตเมลาโทนินลง คนที่มีปัญหาในการนอนหลับ มักมีระดับเมลาโทนินต่ำ ระดับเมลาโทนินในกระแสเลือดจะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น เริ่มตั้งแต่ 22.00 น. จนถึงระดับสูงสุดในเวลาตีสาม ในฤดูหนาว ช่วงเวลากลางวันจะสั้น ทำให้ระหว่างวันร่างกายมีระดับเมลาโทนินเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย
ในบางคนจะมีปัญหาเรื่องการนอนและอาการซึมเศร้าในฤดูหนาว มิน่าล่ะ เวลาถึงฤดูหนาวทีไร มองเห็นท้องฟ้ามืดครึ้ม บรรยากาศอึมครึม แป้งมักรู้สึกเหงาพิกลบอกไม่ถูก แต่เป็นเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้นเอง
หากคนที่ดูหนังฮอลลีวู้ดเป็นประจำ จะมีฉากนอนหลับในยามค่ำคืน เค้าจะไม่ติดหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือเรียกว่า หลอดนีออน เพราะจะมีแสงสว่างแยงตา แต่จะมีโคมไฟบนหัวเตียงเป็นไฟสีนวล( warm white ) มีส่วนช่วยให้นอนหลับได้มากขึ้น ตามโรงแรมมักจะตกแต่งด้วยไฟประเภทนี้ ทำให้แขกที่มาพักผ่อนเกิดความผ่อนคลาย หลับสนิท ตื่นมาพร้อมรับวันรุ่งขึ้นที่สดใส
มีประโยชน์อย่างไร
1.ใช้เพื่อปรับนาฬิกาชีวภาพในร่างกาย ในคนที่เดินทางโดยเครื่องบินข้ามเขตแบ่งเวลาจากตะวันออกไปเขตตะวันตก ( Jet lag )
2.ช่วยให้คนที่นอนไม่หลับจากความเครียด ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง คนที่ต้องทำงานเป็นกะ หลับสนิทขึ้น ชีวิตมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
3. ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อ DNA บางส่วน โดยมีกลไกการยับยั้งเซลล์มะเร็ง คนเรายิ่งมีความเครียดสะสมมากเท่าไหร่ ถึงแม้จะออกกำลังกายสม่ำเสมอแค่ไหน ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ทุกเมื่อ เพราะความเครียดจะกดภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ลดต่ำลง ส่งผลให้โรคภัยมาเบียดเบียนเราได้ง่ายขึ้น นั่นเอง
4.ลดความเสียหายจากการทำลายของเซลล์สมองจากโรคพาร์กินสัน
5.มีบทบาทในการป้องกันโรคหัวใจเต้นผิดปกติ
6.ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในคนสูงอายุ มีส่วนในการป้องกันการตายของเซลล์ประสาท amyloid (สารที่สะสมในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ) จากความผิดปกติในเนื้อสมอง จะพบลักษณะที่สำคัญสองอย่างคือ
6.1 กลุ่มใยประสาทที่พันกัน Neurofibrillary Tangles และ มีสาร Beta Amyloid ในสมอง ใยสมองที่พันกันทำให้สารอาหารไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ การที่สมองมีคราบ Beta Amyloid หุ้ม ส่งผลให้ระดับ acetylcholine (สารสื่อประสาท) ในสมองลดลง ( acetylcholine จะมีส่วนสำคัญในเรื่องการเรียนรู้และความจำ )
6.2 การอักเสบ (inflammatory) สาร amyloid เมื่อสลายตัวจะให้สารอนุมูลอิสระออกมา อนุมูลอิสระนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์สมอง
7.เพิ่มอายุขัยให้ยืนยาวมากขึ้น 20 % ( พบในหนูทดลอง )
8.มีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย จากการทดลองในหนูชรา พบว่า หนูชรามีการเปลี่ยนแปลง 13 genes ซึ่งจะพบได้ในยีนหนูอายุน้อยเท่านั้น
9.เมลาโทนิน เป็นสารที่ช่วยปรับสภาพร่างกายในรอบวัน เพราะมีคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับความสว่างและความมืด ( circadian rhythm ) และเหนี่ยวนำให้เกิดการนอนหลับลึก จึงช่วยกระตุ้นการหลั่ง growth hormone ( ฮอร์โมนแห่งความเยาว์วัย )
เคยแนะนำให้พี่ในออฟฟิศกิน ช่วงที่มีปัญหาชีวิต จึงนอนหลับไม่สนิท กินได้ 8 เดือน มาเล่าให้แป้งฟัง มีแต่คนชมว่า ไปทำอะไรมา ทำไมสวยขึ้น ทั้งๆที่ปัญหารุมเร้า แป้งได้ยินพี่เค้าเล่าแล้ว รู้สึกดีมากๆที่มีส่วนช่วยทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งมีภูมิคุ้มกันและมีความสุขจากความงามที่เพิ่มขึ้นค่ะ
การใช้ melatonin พบว่าบางคนใช้ได้ผลดีใน dose น้อยกว่า 1 mg ขณะที่อีกหลายคนต้องใช้ใน dose สูงถึง 20 mg ( ในต่างประเทศ น่าจะเกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว เพราะชาวอเมริกันส่วนใหญ่มีรูปร่างใหญ่โต อ้วนอืด )
แต่โดยทั่วไปแล้วพบว่า dose ที่ให้ผลดีที่สุดอยู่ในระหว่าง 3 ถึง 10 mg
ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นทะเบียนเมลาโทนินเป็นอาหารเสริมจึงหาซื้อได้ทั่วไป ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี ค.ศ. 1995 ยอดขายของเมลาโทนินนั้นสูงกว่าแอสไพริน
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นมา คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission)
ได้อนุมัติให้ใช้เมลาโทนินเป็นยา ชื่อทางการค้า คือ Circadin ข้อบ่งใช้ ; รักษาอาการนอนไม่หลับเบื้องต้น (การหลับที่ไม่มีประสิทธิภาพ) เป็นระยะเวลาสั้นๆในผู้ป่วยอายุ 55 ปีขึ้นไป
ยา Circadin มีส่วนประกอบของเมลาโทนิน 2 มิลลิกรัม โดยเป็นยาประเภทออกฤทธิ์ช้าปริมาณที่แนะนำคือ 2 มิลลิกรัม รับประทานสองชั่วโมงก่อนเข้านอนและหลังอาหารมื้อสุดท้ายของวัน ในประเทศเยอรมนี กำหนดให้เมลาโทนินเป็นยาที่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ โดยไม่ว่าจะมีปริมาณเท่าไหร่ก็ยังต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ รวมทั้งไม่อนุญาตให้มีขึ้นทะเบียนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริม แต่ในประเทศไทย เมลาโทนิน ถูกขึ้นทะเบียนเป็นยา จำหน่ายในโรงพยาบาลเท่านั้น
แป้งเลือกกิน melatonin 3 mg ยี่ห้อ nature's bounty วันละ 1 เม็ด ก่อนนอน 30 นาที เพราะเกรดวัตถุดิบคุณภาพสูง แต่ไม่รู้ว่าจะป้องกันไม่ให้ผมหงอก ทันหรือเปล่าเนี่ย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น