เซลลูไลท์จัดเป็นปัญหาด้านความงามของผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
โดยจะพบบ่อยในคนที่เป็นโรคอ้วน (obesity) หรือผู้หญิงแรกเริ่มวัยสาวที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนพุ่ง ถึงแม้จะมีรูปร่างผอมเป็นตะเกียบ แต่มักจะเกิดเซลลูไลท์จากวัยสะพรั่งได้ อย่าได้แปลกใจว่า เอ!บางคนไม่เคยอ้วนมาแต่ไหนแต่ไร ทำไมถึงได้เกิดเซลลูไลท์บริเวณต้นขา,สะโพกได้
ดังนั้นความเข้าใจต้นเหตุแห่งปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจและภาพลักษณ์อันเนื่องมาจากเซลลูไลท์ จะช่วยให้สาวๆ แก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้อง
เซลลูไลท์(Cellulite)คือไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง โดยมีการเพิ่มปริมาณและรุกรานขึ้นมาจนทำให้ผิวหนังมีการเปลี่ยนสภาพเป็นผิวขรุขระ ไม่เรียบ มองเห็นคล้ายเปลือกส้ม ซึ่งจะพบได้บ่อยตามบริเวณต้นขา สะโพก และอาจพบที่บริเวณหน้าท้อง และช่วงท้องแขน
เพื่อความเข้าใจการเกิดเซลลูไลท์ เราควรทำความรู้จักกับโครงสร้างผิวหนังซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้นดังนี้
1.ชั้นหนังกำพร้า (epidermis) เป็นผิวหนังชั้นนอกสุด ชั้นนี้จะมีเมลานินที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
2.ชั้นหนังแท้ (dermis) เป็นชั้นที่สองถัดเข้ามา ประกอบด้วยกลุ่มของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่มีรูปแบบการกระจายตัวเป็นร่างแห โดยชั้นหนังแท้จะแบ่งย่อยออกเป็น 2 ชั้น คือ
ชั้นแรกมีหลอดเลือดฝอย ปลายประสาท และมีเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ทำหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งทำให้ผิวหนังมีความตึงและยืดหยุ่น
ชั้นที่สองจะมีหลอดเลือด หลอดน้ำเหลือง เส้นประสาทรากผมหรือขน ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน ต่อมกลิ่น ชั้นนี้มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าชั้นแรก
3.ชั้นรองรับผิวหนัง (subcutaneous tissue) ชั้นนี้จะมีเนื้อเยื่อไขมันอยู่มาก จึงช่วยป้องกันอวัยวะภายใน จากการถูกกระแทก และเป็นแหล่งสะสมไขมันของร่างกาย
การเกิดเซลลูไลท์เริ่มจาก ชั้นรองรับผิวหนังที่มีถุงไขมันสะสมอยู่จำนวนมากซึ่งผิวหนังของผู้หญิงและผู้ชาย จะมีการจัดเรียงตัวของเซลล์ที่แตกต่างกัน
ในผู้หญิงถุงไขมันจะจัดเรียงกันเป็นแนวตั้ง ส่วนผู้ชายจะจัดเรียงกันเป็นเส้นแนวทะแยงตัดกันคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และเมื่อปริมาณไขมันที่สะสมมีปริมาณมากขึ้น ถุงไขมันจะขยายตัวออก โดยพบว่า ในผู้หญิงถุงไขมันที่ขยายตัวออกจะสามารถรุกรานขึ้นไปบนชั้นหนังแท้ และทำให้ไขมันมีการหลุดไปอยู่ตามชั้นหนังแท้ จึงปรากฏเป็นเซลลูไลท์ได้
นอกจากนี้ยังพบว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดเซลลูไลท์ จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงเกิดเซลลูไลท์ได้ง่ายกว่าผู้ชาย ส่วนมากจะพบเซลลูไลท์ได้บ่อยในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ช่วงมีประจำเดือน และช่วงที่มีการใช้ฮอร์โมนทดแทน หรือ รับประทานยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนจะกระตุ้นการสลายตัวของคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ส่งผลให้ไขมันรุกรานไปในชั้นหนังแท้ได้ง่ายขึ้น และยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ไขมันในร่างกายมากขึ้นด้วย
แต่ในผู้ชาย การขยายตัวของถุงไขมันจะขยายออกตามแนวข้าง ทำให้ไม่เกิดการรุ่นรานขึ้นไปบนชั้นหนังแท้ ดังนั้นผู้ชายจึงมีโอกาสเกิดเซลลูไลท์น้อยกว่าผู้หญิงมาก
นอกจากนี้การที่ผู้ชายมีชั้นนอกของหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ บริเวณสะโพกและต้นขาหนากว่าในผู้หญิง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ชาย มีเซลลูไลท์น้อยกว่าผู้หญิงด้วย
วิธีกำจัดเซลลูไลท์
1.ควบคุมอาหารที่รับประทาน ด้วยการจำกัดปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน โดยไม่ควรรับประทานอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล หรือไขมันในปริมานที่มากเกินไป
2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยพบว่า คนที่มีน้ำหนักตัวลดลง ผิวหนังที่เป็นเซลลูไลท์ก็จะลดลงไปด้วย
ที่มา
นิตยสารชีวจิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น