สิว เป็นเรื่องธรรมชาติ(ลงโทษ) หรือเป็นเวรกรรมแต่หนใด อันนี้ตอบไม่ได้จริงๆค่ะ รู้แต่ว่า วิตามินบี 5 ช่วยได้ ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องไปกินยา roaccutane เร่งให้ตับไตพังเลยนะคะ
สิวมีสาเหตุดังต่อไปนี้
1.ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้อุดตันและเกิดสิว เช่น mineral oil,petrolatum,paraffin,lanolin,ฯลฯ
2.ความแปรปรวนของฮอร์โมนเพศ เช่น ฮอร์โมนแอนโดรเจน(androgen) เป็นฮอร์โมนเพศชายที่พบได้ทั้งชายและหญิง มีหน้าที่ ทำให้ต่อมไขมันที่ผิวหนังโตขึ้นและหลั่งไขมันออกมามากเกินปกติ จึงทำให้มีการอุดตัน เกิดสิว ผิวมันเยิ้ม
3.ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งพบบ่อยในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน
4.ภาวะต่อมหมวกไตล้า จากความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย
ในที่นี้แป้งจะพูดถึงสิวกับต่อมหมวกไต ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ต่อมหมวกไต (adrenal gland) อ่านว่า อะดรีนัล แกรนด์ เป็นต่อมไร้ท่อ ครอบตรงส่วนบนของไตทั้ง 2 ข้าง คล้ายกับไตใส่หมวก จึงเรียกว่า ต่อมหมวกไต งัยค่ะ อยู่ในช่องท้องด้านหลัง บริเวณกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนมากกว่า 50 ชนิด มีคุณสมบัติเป็นสเตียรอยด์ ซึ่งร่างกายสังเคราะห์ได้จากโคเลสเตอรอล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ต่อมหมวกไตส่วนนอก ( adrenal cortex ) สร้างกลุ่มฮอร์โมนกลุ่มสเตียรอยด์ (steroid) 3กลุ่ม ประกอบด้วย
1.1 มิเนอรัลโลคอร์ติคอยด์ (mineralocorticoid hormone) เป็นฮอร์โมนที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและแร่ธาตุภายในร่างกาย ฮอร์โมนที่สำคัญในกลุ่มนี้คือ แอลโดสเทอโรน (aldosterone) ซึ่งจะหลั่งออกมามากขึ้นในขณะที่ร่างกายขาดน้ำหรือความเข้มข้นของ Na (เกลือโซเดียม) ในเลือดลดต่ำลง โดยทำหน้าที่กระตุ้นท่อไตให้ดูดซึมน้ำ และโซเดียมเข้าสู่กระแสเลือด และขับถ่ายโพแทสเซียมออกสู่ท่อไต หากมีมากเกินไป จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง คนส่วนใหญ่เกิดโรคความดันโลหิตสูงมีสาเหตุมาจากต่อมหมวกไตนี่ละค่ะ เพราะฉะนั้น อย่ากินเค็มมากนักนะคะ
1.2 กลูโคคอร์ติคอยด์(glucocorticoid hormone) ควบคุมเมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน มีฮอร์โมนที่สำคัญคือ คอร์ติซอล(cortisol) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า stress hormone ทำหน้าที่ ช่วยให้ร่างกายปรับตัวในภาวะเครียด(stress) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น การเกิดภูมิแพ้ เจ็บไข้ได้ป่วย ในวงการแพทย์มักนิยมรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบด้วยยา เรียกว่า สเตียรอยด์ ใช้การสังเคราะห์ยาเลียนแบบฮอร์โมนธรรมชาติ(cortisol) ในร่างกายของคน แต่มีฤทธิ์มากกว่าเป็นหมื่นเท่า จึงทำให้เราหายจากการเจ็บป่วยอย่างรวดเร็ว มหัศจรรย์พันลึกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น แป้งเคยเกิดภูมิแพ้อย่างรุนแรง โดยจะแพ้น้ำส้ม สีชมพูแสนสวยที่บรรจุขวดขายในต่างประเทศ ดื่มเข้าไปนิดเดียว มีอาการคันตาจนตาบวมแดง เป็นผื่นคัน ลามไปจนถึงระบบทางเดินอาหาร ปวดมวนท้อง ท้องเสีย แต่พอแป้งกิน prednisolone 5 mg เข้าไป แค่เม็ดเดียว อาการทุกอย่างที่เป็นอยู่ หายวับไปทันที หรือ แป้งเคยยกของหนักเกินไป จนมีการบาดเจ็บของเอ็นที่ข้อมือ เรียกว่า ผังผืดรัดเส้นประสาท กินยา นวดยา ตั้งเกือบ 6 เดือน ยังมีความเจ็บปวดอยู่ไม่คลาย แต่พอฉีดยา สเตียรอยด์ แค่เข็มเดียว รุ่งขึ้น หายเป็นปลิดทิ้งค่ะ
แต่ใช้บ่อยๆไม่ดีนะคะเพราะ ในภาวะปกติ หากเราเครียดหรือวิตกกังวล คอร์ติซอลจะหลั่งออกมามากอยู่แล้ว ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย(helicobactor pylori) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ประกอบกับกรดในระบบทางเดินอาหารหลั่งออกมามากขึ้น จะปวดแสบท้องเหลือเกิน จึงเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบตามมา แล้วเราไปกินหรือฉีดยาสเตียรอยด์สังเคราะห์เข้าไป กระเพาะอาหารอาจอักเสบจนทะลุได้นะคะ แพทย์จึงจ่ายยาเคลือบกระเพาะมาด้วยเสมอเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่เราไม่ต้องการ งัยค่ะ
1.3 sex hormone ทำหน้าที่ควบคุมการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชายและหญิง( testosterone&estrogen) แต่มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับการสังเคราะห์ฮอร์โมนที่อวัยวะเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายที่ผลิต แอนโดรเจน (androgen) ออกมาจากต่อมหมวกไตส่วนนอก
2.ต่อมหมวกไตส่วนใน(adrenal medulla) สร้างฮอร์โมน อิพิเนฟฟริน(epinephrine)และนอร์อิพิเนฟฟริน(norepinephrine) ทำหน้าที่เวลาร่างกายเผชิญกับความตื่นเต้น ตกใจ กลัว โกรธ หรือออกกำลังกาย ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เวลาไฟไหม้ เราจะเห็นคนตื่นเต้นตกใจแบกตุ่มที่มีน้ำเต็ม แบกไห ยกตู้เย็น ทั้งๆที่ปกติ แค่ขยับตุ่มยังแทบทำไม่ได้เลย นั่นเป็นเพราะร่างกายหลั่งฮอร์โมนอิพิเนฟฟริน ออกมามากนั่นเอง
เกริ่นมาซะยืดยาวเป็นหางว่าว แต่ถ้าตั้งใจอ่านดีๆ จะทำให้รู้เท่าทันร่างกายของเรานะคะ มาถึงวิตามินที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากไม่แพ้ตัวอื่นใดเลยคือ วิตามินบี 5(pantothenic acid) อ่านว่า แพนโทเทนิก แอซิด ถูกค้นพบโดย ศาสตราจารย์ Roger John Williams นักชีวเคมีชาวอเมริกัน ในปีค.ศ1919 และเป็นคนตั้งชื่อ folic acid( กรดโฟลิก) ด้วยนะคะ จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ เป็นสารตั้งต้นของโคเอนไซม์เอ(ปฏิกริยาชีวเคมีที่จำเป็นในสิ่งมีชีวิต) เผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน สังเคราะห์ชีวภาพของสารสื่อประสาท(neurotransmitters) สร้างสมดุลฮอร์โมนของต่อมหมวกไตส่วนนอก (cortisol) ในการบรรเทาความเครียด พักผ่อนน้อย เจ็บไข้ได้ป่วย พบมากในธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว กุ้งก้ามกราม สัตว์ปีก โยเกิร์ต อะโวคาโด เห็ด มันเทศ ถูกทำลายได้ง่ายโดยความร้อน กรด ด่าง
จากงานวิจัยในหนูทดลอง พบว่า หากขาดวิตามินบี 5 จะทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึมเศร้า อ่อนเพลียไม่มีแรง นอนไม่หลับ มีความผิดปกติของระบบประสาท มึนงง ปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว
มีประโยชน์อย่างไร
1.ประเทศญี่ปุ่น มักนำมาใช้เป็นส่วนผสมในแชมพู เพื่อบำรุงผมให้นุ่มลื่นสลวย เงางาม เป็นประกาย แชมพูยี่ห้อดังบ้านเราก็มีที่มาจากวิตามินตัวนี้ค่ะ
2.ผมยาวเร็วขึ้น รากผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย
3.ในต่างประเทศมักกินเป็นอาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างการทำงานของต่อมหมวกไต(adrenal gland) หวังผลในการเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ ลดภาวะเครียด แผลหายเร็วขึ้น
4.รักษาสิว มีงานวิจัยเกี่ยวกับสิว โดย Dr. Lit-Hung Lueng ศัลยแพทย์ ชาวฮ่องกง พบว่า โคเอนไซม์เอในต่อมหมวกไตที่ควบคุมฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งทำให้ต่อมไขมันโตขึ้นและขับไขมันออกมามาก ส่งผลให้เกิดสิวในที่สุด หากกินวิตามินบี 5 ในปริมาณสูง จะช่วยยับยั้งกระบวนการเกิดสิว โดยเร่งการเผาผลาญไขมันและน้ำมันบนผิวหนัง แถมบีบให้ต่อมไขมันมีขนาดเล็กลง รูขุมขนจึงกระชับ นับว่าเป็นงานทดลองวิจัยที่ประสบความสำเร็จในเอเชีย แต่กลับเป็นที่ยอมรับและโด่งดังไปทั่วโลก โดยไม่ต้องกินยา Roaccutane หรือกิน ไดแอน อีกต่อไป
5.เนื้องอกต่อมเหงื่อ บนใบหน้ามีขนาดเล็กลง โดยไม่ต้องไปทำเลเซอร์ หรือสิวหินใต้ตาจะหายไปเลย จากการที่วิตามินบี 5 เร่งการเผาผลาญไขมันและน้ำมันบนผิวหน้า นั่นเอง
6.ลดหน้ามัน จากการที่วิตามินบี 5 ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน หน้าจึงไม่มันเย้ิม แถมเรียบเนียนอีกต่างหาก
7.วิตามินบี 5 เมื่อเข้าสู่ร่างกายร่วมกับอะมิโนแอซิด จะช่วยกระตุ้นโกร๊ธฮอร์โมน(ฮอร์โมนแห่งความเยาว์วัย วันหลังจะอธิบายให้ฟังว่า ต้องกินวิตามินอะไรที่เกี่ยวข้องกับโกร๊ธฮอร์โมน มีแค่ตัวเดียวเท่านั้น ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองกินอยู่ค่ะ ได้ผลอย่างไรแล้วจะมาบอกกล่าวอีกที)
แป้งหยุดการกินยาทุกชนิด ตั้งแต่ได้ศึกษาวิตามินต่างๆ เพื่อลดสิว ชะลอความชรา (anti-aging) เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ดีทอกซ์ตับ ในร่างกายแป้งไม่มียาที่ทำลายตับ ขับออกที่ไต อีกต่อไป จะมีแต่วิตามินที่ทรงอานุภาพต่อร่างกาย ส่งผลให้ผิวพรรณ หน้าตา ขาวสว่าง กระจ่างใส สวนทางกับวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ในคนหน้ามัน เป็นสิว ต้นทุนผิวไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนาอย่างแป้งค่ะ
สิวมีสาเหตุดังต่อไปนี้
1.ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้อุดตันและเกิดสิว เช่น mineral oil,petrolatum,paraffin,lanolin,ฯลฯ
2.ความแปรปรวนของฮอร์โมนเพศ เช่น ฮอร์โมนแอนโดรเจน(androgen) เป็นฮอร์โมนเพศชายที่พบได้ทั้งชายและหญิง มีหน้าที่ ทำให้ต่อมไขมันที่ผิวหนังโตขึ้นและหลั่งไขมันออกมามากเกินปกติ จึงทำให้มีการอุดตัน เกิดสิว ผิวมันเยิ้ม
3.ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งพบบ่อยในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน
4.ภาวะต่อมหมวกไตล้า จากความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย
ในที่นี้แป้งจะพูดถึงสิวกับต่อมหมวกไต ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ต่อมหมวกไต (adrenal gland) อ่านว่า อะดรีนัล แกรนด์ เป็นต่อมไร้ท่อ ครอบตรงส่วนบนของไตทั้ง 2 ข้าง คล้ายกับไตใส่หมวก จึงเรียกว่า ต่อมหมวกไต งัยค่ะ อยู่ในช่องท้องด้านหลัง บริเวณกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนมากกว่า 50 ชนิด มีคุณสมบัติเป็นสเตียรอยด์ ซึ่งร่างกายสังเคราะห์ได้จากโคเลสเตอรอล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ต่อมหมวกไตส่วนนอก ( adrenal cortex ) สร้างกลุ่มฮอร์โมนกลุ่มสเตียรอยด์ (steroid) 3กลุ่ม ประกอบด้วย
1.1 มิเนอรัลโลคอร์ติคอยด์ (mineralocorticoid hormone) เป็นฮอร์โมนที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและแร่ธาตุภายในร่างกาย ฮอร์โมนที่สำคัญในกลุ่มนี้คือ แอลโดสเทอโรน (aldosterone) ซึ่งจะหลั่งออกมามากขึ้นในขณะที่ร่างกายขาดน้ำหรือความเข้มข้นของ Na (เกลือโซเดียม) ในเลือดลดต่ำลง โดยทำหน้าที่กระตุ้นท่อไตให้ดูดซึมน้ำ และโซเดียมเข้าสู่กระแสเลือด และขับถ่ายโพแทสเซียมออกสู่ท่อไต หากมีมากเกินไป จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง คนส่วนใหญ่เกิดโรคความดันโลหิตสูงมีสาเหตุมาจากต่อมหมวกไตนี่ละค่ะ เพราะฉะนั้น อย่ากินเค็มมากนักนะคะ
1.2 กลูโคคอร์ติคอยด์(glucocorticoid hormone) ควบคุมเมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน มีฮอร์โมนที่สำคัญคือ คอร์ติซอล(cortisol) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า stress hormone ทำหน้าที่ ช่วยให้ร่างกายปรับตัวในภาวะเครียด(stress) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น การเกิดภูมิแพ้ เจ็บไข้ได้ป่วย ในวงการแพทย์มักนิยมรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบด้วยยา เรียกว่า สเตียรอยด์ ใช้การสังเคราะห์ยาเลียนแบบฮอร์โมนธรรมชาติ(cortisol) ในร่างกายของคน แต่มีฤทธิ์มากกว่าเป็นหมื่นเท่า จึงทำให้เราหายจากการเจ็บป่วยอย่างรวดเร็ว มหัศจรรย์พันลึกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น แป้งเคยเกิดภูมิแพ้อย่างรุนแรง โดยจะแพ้น้ำส้ม สีชมพูแสนสวยที่บรรจุขวดขายในต่างประเทศ ดื่มเข้าไปนิดเดียว มีอาการคันตาจนตาบวมแดง เป็นผื่นคัน ลามไปจนถึงระบบทางเดินอาหาร ปวดมวนท้อง ท้องเสีย แต่พอแป้งกิน prednisolone 5 mg เข้าไป แค่เม็ดเดียว อาการทุกอย่างที่เป็นอยู่ หายวับไปทันที หรือ แป้งเคยยกของหนักเกินไป จนมีการบาดเจ็บของเอ็นที่ข้อมือ เรียกว่า ผังผืดรัดเส้นประสาท กินยา นวดยา ตั้งเกือบ 6 เดือน ยังมีความเจ็บปวดอยู่ไม่คลาย แต่พอฉีดยา สเตียรอยด์ แค่เข็มเดียว รุ่งขึ้น หายเป็นปลิดทิ้งค่ะ
แต่ใช้บ่อยๆไม่ดีนะคะเพราะ ในภาวะปกติ หากเราเครียดหรือวิตกกังวล คอร์ติซอลจะหลั่งออกมามากอยู่แล้ว ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย(helicobactor pylori) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ประกอบกับกรดในระบบทางเดินอาหารหลั่งออกมามากขึ้น จะปวดแสบท้องเหลือเกิน จึงเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบตามมา แล้วเราไปกินหรือฉีดยาสเตียรอยด์สังเคราะห์เข้าไป กระเพาะอาหารอาจอักเสบจนทะลุได้นะคะ แพทย์จึงจ่ายยาเคลือบกระเพาะมาด้วยเสมอเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่เราไม่ต้องการ งัยค่ะ
1.3 sex hormone ทำหน้าที่ควบคุมการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชายและหญิง( testosterone&estrogen) แต่มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับการสังเคราะห์ฮอร์โมนที่อวัยวะเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายที่ผลิต แอนโดรเจน (androgen) ออกมาจากต่อมหมวกไตส่วนนอก
2.ต่อมหมวกไตส่วนใน(adrenal medulla) สร้างฮอร์โมน อิพิเนฟฟริน(epinephrine)และนอร์อิพิเนฟฟริน(norepinephrine) ทำหน้าที่เวลาร่างกายเผชิญกับความตื่นเต้น ตกใจ กลัว โกรธ หรือออกกำลังกาย ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เวลาไฟไหม้ เราจะเห็นคนตื่นเต้นตกใจแบกตุ่มที่มีน้ำเต็ม แบกไห ยกตู้เย็น ทั้งๆที่ปกติ แค่ขยับตุ่มยังแทบทำไม่ได้เลย นั่นเป็นเพราะร่างกายหลั่งฮอร์โมนอิพิเนฟฟริน ออกมามากนั่นเอง
เกริ่นมาซะยืดยาวเป็นหางว่าว แต่ถ้าตั้งใจอ่านดีๆ จะทำให้รู้เท่าทันร่างกายของเรานะคะ มาถึงวิตามินที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากไม่แพ้ตัวอื่นใดเลยคือ วิตามินบี 5(pantothenic acid) อ่านว่า แพนโทเทนิก แอซิด ถูกค้นพบโดย ศาสตราจารย์ Roger John Williams นักชีวเคมีชาวอเมริกัน ในปีค.ศ1919 และเป็นคนตั้งชื่อ folic acid( กรดโฟลิก) ด้วยนะคะ จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ เป็นสารตั้งต้นของโคเอนไซม์เอ(ปฏิกริยาชีวเคมีที่จำเป็นในสิ่งมีชีวิต) เผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน สังเคราะห์ชีวภาพของสารสื่อประสาท(neurotransmitters) สร้างสมดุลฮอร์โมนของต่อมหมวกไตส่วนนอก (cortisol) ในการบรรเทาความเครียด พักผ่อนน้อย เจ็บไข้ได้ป่วย พบมากในธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว กุ้งก้ามกราม สัตว์ปีก โยเกิร์ต อะโวคาโด เห็ด มันเทศ ถูกทำลายได้ง่ายโดยความร้อน กรด ด่าง
จากงานวิจัยในหนูทดลอง พบว่า หากขาดวิตามินบี 5 จะทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึมเศร้า อ่อนเพลียไม่มีแรง นอนไม่หลับ มีความผิดปกติของระบบประสาท มึนงง ปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว
มีประโยชน์อย่างไร
1.ประเทศญี่ปุ่น มักนำมาใช้เป็นส่วนผสมในแชมพู เพื่อบำรุงผมให้นุ่มลื่นสลวย เงางาม เป็นประกาย แชมพูยี่ห้อดังบ้านเราก็มีที่มาจากวิตามินตัวนี้ค่ะ
2.ผมยาวเร็วขึ้น รากผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย
3.ในต่างประเทศมักกินเป็นอาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างการทำงานของต่อมหมวกไต(adrenal gland) หวังผลในการเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ ลดภาวะเครียด แผลหายเร็วขึ้น
4.รักษาสิว มีงานวิจัยเกี่ยวกับสิว โดย Dr. Lit-Hung Lueng ศัลยแพทย์ ชาวฮ่องกง พบว่า โคเอนไซม์เอในต่อมหมวกไตที่ควบคุมฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งทำให้ต่อมไขมันโตขึ้นและขับไขมันออกมามาก ส่งผลให้เกิดสิวในที่สุด หากกินวิตามินบี 5 ในปริมาณสูง จะช่วยยับยั้งกระบวนการเกิดสิว โดยเร่งการเผาผลาญไขมันและน้ำมันบนผิวหนัง แถมบีบให้ต่อมไขมันมีขนาดเล็กลง รูขุมขนจึงกระชับ นับว่าเป็นงานทดลองวิจัยที่ประสบความสำเร็จในเอเชีย แต่กลับเป็นที่ยอมรับและโด่งดังไปทั่วโลก โดยไม่ต้องกินยา Roaccutane หรือกิน ไดแอน อีกต่อไป
5.เนื้องอกต่อมเหงื่อ บนใบหน้ามีขนาดเล็กลง โดยไม่ต้องไปทำเลเซอร์ หรือสิวหินใต้ตาจะหายไปเลย จากการที่วิตามินบี 5 เร่งการเผาผลาญไขมันและน้ำมันบนผิวหน้า นั่นเอง
6.ลดหน้ามัน จากการที่วิตามินบี 5 ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน หน้าจึงไม่มันเย้ิม แถมเรียบเนียนอีกต่างหาก
7.วิตามินบี 5 เมื่อเข้าสู่ร่างกายร่วมกับอะมิโนแอซิด จะช่วยกระตุ้นโกร๊ธฮอร์โมน(ฮอร์โมนแห่งความเยาว์วัย วันหลังจะอธิบายให้ฟังว่า ต้องกินวิตามินอะไรที่เกี่ยวข้องกับโกร๊ธฮอร์โมน มีแค่ตัวเดียวเท่านั้น ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองกินอยู่ค่ะ ได้ผลอย่างไรแล้วจะมาบอกกล่าวอีกที)
แป้งหยุดการกินยาทุกชนิด ตั้งแต่ได้ศึกษาวิตามินต่างๆ เพื่อลดสิว ชะลอความชรา (anti-aging) เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ดีทอกซ์ตับ ในร่างกายแป้งไม่มียาที่ทำลายตับ ขับออกที่ไต อีกต่อไป จะมีแต่วิตามินที่ทรงอานุภาพต่อร่างกาย ส่งผลให้ผิวพรรณ หน้าตา ขาวสว่าง กระจ่างใส สวนทางกับวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ในคนหน้ามัน เป็นสิว ต้นทุนผิวไม่ได้ดีเด่อะไรนักหนาอย่างแป้งค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น